8 กลยุทธ์การทำ Content Marketing ในแบรนด์ความงาม

สร้างเนื้อหาคอนเทนต์ที่มีคุณค่าเกี่ยวกับ Keyword ที่ให้ข้อมูลและความรู้ ซึ่งลูกค้าจะใช้ในขั้นตอนของการรับรู้ และการพิจารณาหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบสินค้า ซึ่งคุณยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์วิดีโอของคุณ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น SEO ประเภทนี้รวมไปถึง Keyword ที่ไม่มีชื่อแบรนด์ นอกเหนือจากคำที่เฉพาะเจาะจงถึงผลิตภัณฑ์ การทำเช่นนี้จะช่วยดึงดูดผู้คนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งโดยเฉพาะ

เมื่อพูดถึงการค้นหาทั่วไปคอนเทนต์แบบ Long-form มักจะทำงานได้ดีกว่าเนื้อหาที่สั้นกว่า จากการศึกษาของ Semrush พบ ว่าการจัดอันดับเนื้อหาใน 3 อันดับแรกใน Google นั้นยาวนานกว่าเนื้อหาในตำแหน่ง 20 โดยเฉลี่ย 45%

ซึ่งตอนนี้ความยาวของเนื้อหาไม่ใช่ปัจจัยหลักในการจัดอันดับของ Google ดังนั้นอย่าเพิ่งเพิ่มแต่ความยาวของเนื้อหา แต่ครอบคลุมหัวข้อคอนเทนต์ด้วยเนื้อหาที่ครบถ้วนตามความจำเป็นด้วยคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ

Google ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ตอบสนองต่อการค้นหาได้ดี เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องไปที่เว็บไซต์หลายเว็บเพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขามองหา เนื้อหาคอนเทนต์แบบยาวจึงมีแนวโน้มที่จะตรงเกณฑ์ เนื่องจากตอบคำถามได้หลายข้อจากผู้ค้นหา นอกจากนี้เนื้อหาแบบยาวยังช่วยให้คุณสามารถจัดอันดับ Long tail keywords ต่างๆ กับเนื้อหาแต่ละชิ้นจะช่วยขยายการเข้าถึง และความสามารถของทรัพย์สินดิจิทัลของคุณ เพื่อดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ารายใหม่

การตลาดคอนเทนต์ด้านความงามที่มีประสิทธิภาพใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ซึ่งอาจรวมถึง:

• เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ
• บล็อกของคุณ
• Content hub
• เว็บไซต์บุคคลที่สามและบล็อกความงาม
• แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
• การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์
• พอดคาสต์
• YouTube
• ประชาสัมพันธ์
• อีเมล

ช่องทางการตลาดของคุณควรสอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงของ Customer Journey ตัวอย่างเช่น คุณอาจใช้การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆ ด้วยเครื่องมือการค้นหา (Search Engine Optimization – SEO) เพื่อดึงดูดผู้คนมายังไซต์ของคุณในขั้นต้น จากนั้นจึงกำหนดเป้าหมายพวกเขาใหม่ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

ในธุรกิจสายความงามการทำการตลาดด้วยรีวิวมีผลอย่างมากต่อยอดขาย และการตัดสินใจซื้อ ซึ่ง User-generated content (UGC) และบทวิจารณ์ออนไลน์เป็นวิธีที่โดดเด่นในการสร้างความไว้วางใจกับผู้ชมของคุณ เนื่องจากคอนเทนต์สร้างโดยลูกค้าที่ใช้งานจริงไม่ใช่มาจากทางแบรนด์ ผู้คนอาจไม่เชื่อสิ่งที่แบรนด์พูดเสมอไป แต่พวกเขาเชื่อในสิ่งที่ลูกค้าของคุณพูดจึงช่วยให้การสื่อสารทางการตลาดดิจิทัลของคุณแข็งแกร่งขึ้น

เนื้อหาเชิงโต้ตอบให้ความรู้หรือช่วยผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อนั้นมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมความงามที่มีภาพที่ชัดเจนเมื่อต้องซื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งเนื้อหาเชิงโต้ตอบช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าในขณะเดียวกันก็ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากได้สินค้าและค่อยๆเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจซื้อ แทนที่จะรู้สึกเหมือนกำลังถูกขายของให้ พวกเขาจะรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ทั้งหมด

ตัวอย่างการทำการตลาดด้วยคอนเทนต์ด้านความงามจากแบรนด์ Fenty Beauty ของ Rihanna ที่บนเว็บไซต์มีเครื่องมือค้นหาเฉดสีผิวบนเว็บไซต์ และลูกค้าสามารถเลือกรองพื้นจากเฉดสีต่างๆ ได้ถึง 40 เฉดสี

มีเพียงไม่กี่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลมากกว่าอุตสาหกรรมความงาม ตั้งแต่ Kardashians ไปจนถึง James Charles เป็นผู้มีอิทธิพลที่มีผลกระทบอย่างมากต่อผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนซื้อ หรือทุกคนอาจเคยเห็นคุณป้าลิลลี่ที่ผิวหน้าอ่อนเยาว์จนทุกคนอยากรู้ว่าใช้ครีมอะไรบ้าง ทำให้ผู้คนแห่กันไปซื้อจำนวนมาก 

ซึ่งข่าวดีคือเราไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากและทำงานร่วมกับผู้มีอิทธิพลที่โด่งดังเสมอไป คุณอาจเลือกทำการตลาดกับไมโครอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ชมน้อยกว่าดาราหรือเซเลปแต่พวกเขามักจะมี ROI ที่สูงกว่าผู้ที่มีผู้ชมจำนวนมาก แม้ว่าผู้ชมของพวกเขาจะน้อยกว่า แต่พวกเขาก็มักจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และมีอิทธิพลต่อผู้ชมมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเมื่อพวกนำเสนอสินค้าอะไรกลุ่มผู้ติดตามพวกเขามองว่าเป็นเหมือนคำรับรองว่าสินค้านี้เชื่อถือได้และดีจริง นอกจากนี้มโครอินฟลูเอนเซอร์ยังชอบแจกของรางวัลให้กับผู้ชมของพวกเขา 

ตัวอย่างเช่น แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวส่งตัวอย่างสินค้าอย่างลิปกลอสที่เพิ่งออกใหม่ให้กับบล็อกเกอร์ความงามเพื่อแลกกับการโปรโมตและใช้แฮชแท็กของแบรนด์

เมื่อพวกเขาก้าวผ่านประสบการณ์การซื้อ ลูกค้าของคุณจะสลับไปมาระหว่างช่องทางต่างๆ พวกเขาอาจเริ่มต้นจากการอ่านบล็อกโพสต์ จากนั้นดูวิดีโอบน YouTube หรือ TikTok จากนั้นกลับมาที่เว็บไซต์ของคุณอีกครั้งโดยหวังว่าจะพบคำตอบสำหรับคำถามที่พวกเขามี

เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าช่องทางการตลาดทั้งหมดของคุณ ควรบูรณาการช่องทางต่างๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคุณควรคัดลอก/วาง แต่คุณควรสร้างสรรค์คอนเทนต์และปรับแต่งให้เหมาะสำหรับแต่ละช่องทาง

เพื่อให้การทำการตลาดคอนเทนต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่าลืมวัดผลและประเมินผลของคุณเป็นประจำ คุณต้องพิจารณาว่าสิ่งใดใช้ได้ผล สิ่งใดใช้ไม่ได้ และต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เมตริกที่คุณใช้ในการพิจารณาประสิทธิภาพของคอนเทนต์จะขึ้นอยู่กับตัวคอนเทนต์นั้น

สำหรับ Blog post คุณอาจวัดจากปริมาณการค้นหาแบบ Organic ระยะเวลาที่ผู้ชมอยู่หน้าเว็บไซต์ และพวกเขาคลิกต่อไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ใด หรือไม่สำหรับวิดีโอคุณอาจวัดจากจำนวนการรับชม เวลาดูโดยเฉลี่ย และเปอร์เซ็นต์ของผู้ดูที่ดูเกินจุดที่กำหนด

หากคอนเทนต์ใดมีผลลัพท์ที่ดีเป็นพิเศษให้พยายามหาสาเหตุแล้วใช้กลยุทธ์นั้นเพิ่มเติมในอนาคต หากเนื้อหาทำงานได้ไม่ดีนัก ให้ปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น ทดสอบจนกว่าคุณจะพบสิ่งที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด