ทำไม Data-Driven Marketing คือสิ่งที่การตลาดยุคใหม่ ต้องให้น้ำหนัก

Data-Driven Marketing

Data-Driven Marketing – ทุกวันนี้ไม่มีใครหรอกครับที่อยากเห็นโฆษณาบนหน้าจอที่ไม่เกี่ยวข้องกับความสนใจของตัวเอง ผลการวิจัยล่าสุดโดย Hubspot พบว่า 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาไม่ชอบโฆษณาออนไลน์ ด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือ มันน่ารำคาญ และ รบกวนความเป็นส่วนตัว ธุรกิจชั้นนำจึงจำเป็นต้องทำการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีข้อมูลโดยอิงจากการค้นพบข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ ด้วยเหตุนี้เอง กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจึงถูกนำมาใช้ครับ

นักการตลาดมืออาชีพทุกคนทราบดีว่า กลยุทธ์ Data-Driven Marketing สามารถเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าเป้าหมายจะดำเนินการตามที่ธุรกิจต้องการได้ เช่น การเข้าร่วมการสัมมนาแบบออนไลน์ การซื้อสินค้า การคลิกโฆษณา หรือแม้แต่การอ่านบล็อกโพสต์ เป็นต้น ด้วยการวิเคราะห์และตีความข้อมูลลูกค้าและโปรไฟล์ดิจิทัลของแต่ละบุคคล ย่อมช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เข้าใจถึงความต้องการและความปรารถนาของลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงการรับรู้ถึงแบรนด์ และประสบการณ์ของลูกค้านั่นเองครับ

เพื่อให้กระบวนการทางธุรกิจของทุกคนมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เรามาทำความเข้าใจว่าแนวทางนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดได้อย่างไร ซึ่งวันนี้ Talka จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจในประเด็นนี้ให้ดียิ่งขึ้นครับ

Data-Driven Marketing คืออะไร?

Data-Driven Marketing

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจความหมายของกลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลให้ตรงกันก่อนครับ ซึ่ง Gartner บริษัทวิจัย และให้คำปรึกษาระดับโลกได้ให้คำจำกัดความ ของ “Data-Driven Marketing” ไว้ว่า คือการใช้ข้อมูลที่ได้มาจากการโต้ตอบกับลูกค้า และบุคคลที่สาม เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแรงจูงใจ ความชอบ และพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งข้อมูลเชิงลึกจะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถนำมาปรับปรุงและปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าได้ โดยการใช้ข้อมูลมาตอบคำถามต่างๆ เช่น ใคร เมื่อใด ที่ไหน ข้อความใด และทำให้คำตอบเหล่านั้นนำไปปฏิบัติได้จริง ช่วยให้ธุรกิจออกแบบการสื่อสาร และวางกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ 

กล่าวคือ การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นกระบวนการของการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการมีปฏิสัมพันธ์ของลูกค้ากับธุรกิจและบุคคลที่สามอื่นๆ เพื่อให้เข้าใจตลาดเป้าหมายได้ดีขึ้น ด้วยข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่รวมถึงความต้องการ ความชอบ แรงจูงใจ และรูปแบบพฤติกรรมต่างๆ นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแคมเปญให้เหมาะสมที่สุด

โดยทั่วไปการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมักเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งเว็บไซต์ การทดสอบ A/B Testing  การทำแผนที่การเดินทางของลูกค้า (Customer Journey Mapping) และ การแบ่งกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ ยังรวมถึงขอบเขตการใช้งานอื่น ๆ ได้แก่

1. การโฆษณาแบบไดนามิก (Dynamic Advertising) 

คือ การปรับแต่งโฆษณาตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายใน Twitter  Facebook และ Instagram โดยปรับใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ด้วยการผสมผสานทางการตลาดนี้  จะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดค่าโฆษณา ปรับปรุงอัตราการแปลง (Conversion Rate) และ เพิ่มความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) ตลอดจนเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างมาก

2. การกำหนดเป้าหมายใหม่ (Retargeting)

คือ การใช้เทคโนโลยีคุกกี้ ซึ่งใช้โค้ด JavaScript เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต การกำหนดเป้าหมายใหม่ หรือ Retargeting รวมไปถึงการทำ Remarketing ซึ่งมีแนวคิดของกลยุทธ์ใกล้เคียงกัน เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่นักการตลาดจะสามารถใช้แนวทางการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาใช้เพื่อให้ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น ความจริงที่หลายธุรกิจพบเจอ คือ มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของธุรกิจเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ ที่ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์จากการเข้าชมเว็บไซต์ครั้งแรก ซึ่งหมายความว่าทุกธุรกิจต่างต้องเผชิญกับการสูญเสียผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในเปอร์เซนต์ที่สูงเกือบทุกวัน ซึ่งการกำหนดเป้าหมายใหม่ด้วยความช่วยเหลือของกลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล จะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายลูกค้าใหม่และเพิ่ม Conversion ได้

3.การตลาดผ่านอีเมลเป้าหมาย (Targeted Email Marketing)

แคมเปญการตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทใหญ่ๆ เกือบทุกแห่ง ด้วยการใช้การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลควบคู่กับแคมเปญอีเมล จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งข้อความทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มอัตราการแปลงได้อย่างมาก ที่สำคัญยังสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย

4.แคมเปญการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย (Paid Search Campaigns)

หลายธุรกิจมีการใช้จ่ายอย่างมหาศาลในแคมเปญการค้นหา (SEM) ที่เสียค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ถ้าหากธุรกิจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้แม้จะลงทุนมหาศาลก็เปล่าประโยชน์  แต่หากรวมการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเข้ากับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มปริมาณการเข้าชมหน้า Landing Page ซึ่งในที่สุดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย และ เพิ่ม Conversion Rate 

ประเภทของ Data-Driven Marketing

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้นักการตลาดได้มาซึ่งข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด แม้เครื่องมือวิเคราะห์การตลาดจะมีหลายหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือเพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรจากการทำการตลาด ซึ่งโดยทั่วไป เครื่องมือวิเคราะห์การตลาดจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ดังต่อไปนี้ครับ

  • วิเคราะห์เว็บไซต์ (Web Analytics Tools)

เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์จะช่วยทำหน้าที่ติดตามกิจกรรมของผู้ใช้เว็บไซต์ของธุรกิจ เครื่องมือ หรือ แพลตฟอร์ม ต่างๆ เช่น Google Analytics จะช่วยให้คุณติดตามข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์และวัดผลกระทบของแคมเปญการตลาดของคุณที่มีต่อการเข้าชมและเมตริกต่างๆ ตลอดจน Conversion ที่นำไปสู่โอกาสในการขาย

  • วิเคราะห์แหล่งที่มา (Attribution Analytics Tools)

เครื่องมือชนิดนี้จะช่วยให้นักการตลาดเข้าถึงข้อมูลที่ลึกเข้าไปอีกขั้นก้าวไปอีกขั้น ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ บนเว็บไซต์ ที่จะช่วยทำลายอุปสรรคระหว่างการตลาด และการขายด้วยการระบุช่องทางที่สร้างรายได้ ไม่ใช่แค่ข้อมูลการคลิก และ Conversion เท่านั้น

  • วิเคราะห์การโทร (Call Analytics Tools)

นักการตลาดมืออาชีพทุกคนรู้ดีว่าการโทรไม่ใช่แค่โอกาสในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังถือเป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าที่สำคัญเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า โดยพื้นฐานแล้ว การวิเคราะห์การติดตามการโทรจะช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามได้ว่า การยิงโฆษณา การใช้คำหลัก (Keywords)  หรือ แคมเปญใดบ้าง ที่ทำให้เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมหากธุรกิจเพิ่มโอกาสในการขายทางออนไลน์แต่สามารถแปลงดีลได้ในแบบออฟไลน์  นอกจากนี้ทีมขายและทีมการตลาดสามารถเรียนรู้จากข้อมูลการวิเคราะห์การโทรเพื่อนำมาขับเคลื่อนความคิดริเริ่ม และใช้ประโยชน์จากการโทรในฐานะแหล่งที่มาหลักของลีดที่มีคุณภาพได้  

  • วิเคราะห์โซเชียลมีเดีย (Social Media Analytics)

โซเชียลมีเดียกำลังเติบโต และแน่นอนว่าทุกคนต้องการเป็นส่วนหนึ่งของมัน การได้มาซึ่งข้อมูลเชิงปริมาณที่ได้จากความช่วยเหลือของ Social Listening Tools ต่างๆ สามารถนำไปสู่ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ ช่วยให้นักการตลาดนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และข้อเสนอการบริการตลอดวงจรชีวิตของลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังทำให้มองเห็นข้อเสนอของคู่แข่ง ความเชื่อมั่นของลูกค้า และตัวชี้วัดแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด ซึ่งนักการตลาดจะสามารถติดตามว่าแคมเปญใดที่สามารถขับเคลื่อนอัตราการแปลงสูงสุด และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้

ความสำคัญของการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

Data-Driven Marketing

Data-Driven Marketing สร้างความแตกต่างอย่างไร?

อย่างที่ทราบกันดีว่า การตลาด มักเกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจความต้องการและความชอบของผู้ชม ตลอดจนการสร้างความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ตลาดเป้าหมายต้องการซื้อ ด้วยการตลาดแบบเดิม นักการตลาดอาจต้องลองผิดลองถูกหลายครั้ง เนื่องจากต้องตัดสินใจตามสมมติฐานที่พัฒนาขึ้นเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เห็นได้ชัดว่าการปฏิบัติตามวิธีการทางการตลาดแบบดั้งเดิมมักทำให้ธุรกิจเสียเวลา เสียเงิน และทรัพยากรมากมายจากการเปิดตัวแคมเปญต่างๆ เพื่อที่จะระบุแคมเปญที่ตรงกับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของตน

ในทางตรงกันข้าม การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล จะช่วยลดความเสี่ยงที่ธุรกิจต้องเผชิญจากการใช้วิธีการตลาดแบบเดิม เพราะนักการตลาดสามารถเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมแก่ผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าได้ ท้ายที่สุดแล้วการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทำให้ธุรกิจได้รับประโยชน์มากมายด้วยข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าอย่างละเอียด นักการตลาดสามารถเพิ่มการได้มาซึ่งลูกค้า สร้างแคมเปญที่ตรงเป้าหมายและเป็นส่วนตัวสูง และช่วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล 

  • Data-Driven Marketing ช่วยเพิ่ม ROI

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลช่วยให้บริษัทเพิ่ม ROI หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุน และยอดขายผ่านข้อมูลจำนวนมหาศาลที่นักการตลาดสามารถรวบรวมเกี่ยวกับลูกค้าเป้าหมายและลีด ปัจจุบันองค์กรชั้นนำต่างๆ คาดหวังให้ทีมการตลาดของตนขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต เพราะมันเป็นที่ประจักษ์ว่า กลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มปริมาณการขายและ ROI ให้แก่ธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

  • ทำให้รู้คำติชมได้แบบเรียลไทม์

คำติชมหรือความคิดเห็นของลูกค้าแบบเรียลไทม์ที่ได้จากเครื่องมือหรือแพลตฟอร์ม  MarTech ต่างๆ  คือการรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพประเภทหนึ่ง ซึ่งธุรกิจจะได้รับคำติชมจากผู้เยี่ยมชมบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือแบบเรียลไทม์ ด้วยความคิดเห็นของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยให้นักการตลาดสามารถรับรู้ถึงความต้องการของผู้เยี่ยมชมได้ทันที รวมทั้งตรวจสอบปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น จุดบกพร่องหรือข้อมูลที่ขาดหายไปในเส้นทางของลูกค้า

  • ทำให้เห็นภาพว่าสิ่งใดในกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลและไม่ได้ผล

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลสามารถให้การประเมินที่แม่นยำและเป็นกลางเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลยุทธ์ กลวิธีต่างๆ ตลอดจนแคมเปญทางการตลาด ด้วยการลบขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไป และทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นแบบอัตโนมัติได้ การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการช่วยให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น และสามารถหลีกเลี่ยงข้อบกพร่องต่างๆ ได้ทันท่วงที ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงการเติบโตของธุรกิจได้อย่างสม่ำเสมอ

  • ช่วยในการติดตามการเดินทางของลูกค้า

นักการตลาดอีคอมเมิร์ซสามารถใช้ URL ที่กำหนดเองเพื่อดูว่าลูกค้าเข้าถึงเว็บไซต์ของตนได้อย่างไร นี่คือรูปแบบหนึ่งของการแสดงที่มาทางการตลาด ซึ่ง URL สามารถบอกนักการตลาดว่าลูกค้ากำลังคลิกโฆษณาแบนเนอร์ ลิงก์การตลาดทางอีเมล หรือไฮเปอร์ลิงก์ในบทความ ท่ามกลางตัวเลือกอื่นๆ เป็นต้น

  • ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า

นักการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลหลายคน ใช้ซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เพื่อติดตามการเดินทางของลูกค้าทั้งหมด ของลูกค้าแต่ละราย นักการตลาดสามารถดูได้อย่างรวดเร็วว่าลูกค้าโต้ตอบกับบริษัทครั้งแรกอย่างไร ประวัติการซื้อ และข้อมูลประชากรที่โดดเด่น ซึ่งเมื่อทราบกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่แน่นอนแล้ว โอกาสที่บริษัทจะรักษาลูกค้าไว้ได้ก็เพิ่มขึ้น

  • ช่วยให้การซื้อสื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลน่าจะเป็นส่วนที่ก้าวหน้าที่สุดในภาคของการซื้อแบบเป็นโปรแกรม ด้วยการใช้ประโยชน์จากอัลกอริธึมและแมชชีนเลิร์นนิง เอเจนซี่โฆษณาและนักการตลาดจึงไม่ต้องคาดเดาอะไรมากมายจากการวางแผนและการซื้อสื่อ

  • Data-Driven Marketing ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้คนที่เหมาะสม

ในฐานะนักการตลาด นอกจากจะต้องทำให้ลูกค้าไว้ใจและตกลงปลงใจเลือกแบรนด์ของตนแล้ว  ยังจำเป็นต้องสร้างลูกค้าที่ภักดี ลูกค้าประจำ หรือแม้แต่แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่จะช่วยแนะนำแบรนด์ให้กับเพื่อนๆ และครอบครัวของพวกเขาด้วย เครื่องมือวิเคราะห์มากมายจะช่วยให้นักการตลาดได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับทุกคนที่เข้าชมเว็บไซต์และ/หรือร้านค้าของตน เครื่องมือวิเคราะห์การตลาดออนไลน์สามารถให้ข้อมูลประชากรที่เกี่ยวกับพฤติกรรมออนไลน์ของผู้ใช้ และการโต้ตอบกับเว็บไซต์ กล่าวคือ ด้วยแนวทางการตลาดนี้ นักการตลาดจะสามารถกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่เหมาะสม นำไปสู่การดึงดูดความสนใจของพวกเขา และมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ในเวลาที่เหมาะสมด้วยข้อมูลเชิงลึกในสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา ช่วยให้ธุรกิจนำเสนอโซลูชันที่สำคัญอย่างแม่นยำ นำมาซึ่งการดึงดูดลีดที่มีคุณสมบัติสูงที่จะแปลงเป็นลูกค้าได้ในที่สุด

  • Data-Driven Marketing ช่วยบอกที่มาที่ไปของลูกค้า

เคยสงสัยมั้ยครับ ว่าผู้คนรู้จักเว็บไซต์หรือร้านค้าของบริษัทต่างๆ ได้อย่างไร ข้อมูลการตลาดสามารถช่วยตอบคำถามนี้และคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของธุรกิจได้ ด้วยเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติและการวิเคราะห์ นักการตลาดจะสามารถเรียนรู้ว่าผู้คนเข้ามาที่เว็บไซต์ใดและอย่างไร สิ่งนี้ยังใช้ได้กับโซเชียลมีเดียเช่นกัน การรู้จักเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ลูกค้าแต่ละรายเข้าชมบ่อย รวมถึงวันและเวลาที่ผู้ใช้มีแนวโน้มมากที่สุดสามารถช่วยการตลาดและแคมเปญโฆษณาของธุรกิจต่างๆ ได้

ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางการตลาด

Data-Driven Marketing

ตอนนี้ เรารู้ถึงแนวคิดต่างๆ แล้วว่าทำไมการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจึงมีความสำคัญ ขั้นต่อไปเราจะมาดูถึงสิ่งที่การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลส่งผลดีต่อภาพรวมของกลยุทธ์ทางการตลาดครับ

1. Data-Driven Marketing ทำให้แคมเปญมีความเฉพาะตัว

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล สามารถช่วยให้นักการตลาดสร้างแคมเปญที่ตรงเป้าหมายสูง ด้วยการส่งข้อความเฉพาะตัวสำหรับลูกค้าแต่ละราย ข้อมูลจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละราย รวมถึงความสนใจ ไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมออนไลน์ ด้วยข้อมูลนี้สามารถนำไปเป็นแนวทางในการสร้างเนื้อหาทางการตลาดที่สอดคล้องกับพวกเขาและดึงดูดพวกเขาได้ ด้วยข้อมูลต่างๆ สามารถชี้นำกลยุทธ์การตลาดเนื้อหา รวมทั้งแจ้งให้ทราบว่าควรโพสต์โฆษณาและสื่อการตลาดที่ไหนและเมื่อใด 

กล่าวคือ ด้วยการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักการตลาดว่าข้อความในแคมเปญสอดคล้องกับความชอบของผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าในทุกช่องทาง ตั้งแต่การปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและการเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า จนนำไปสู่การขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างรายได้

2. ช่วยเพิ่มพลังให้กับข้อความที่สื่อสารออกไป

ข้อมูลต่างๆ จะช่วยให้ธุรกิจมีทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับเนื้อหาอย่างมีข้อมูลมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การกำหนดเป้าหมายที่ดีขึ้น เมื่อธุรกิจใช้ประโยชน์จากข้อมูล จะสามารถขยายการเข้าถึงผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ได้ ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อความที่สื่อสารออกไปจะมีความสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม การตลาดควรเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงอยู่เสมอ เพราะยิ่งเนื้อหามีคุณภาพสูงขึ้นเท่าใด โอกาสในการโปรโมตและวัดผลลัพธ์ของแคมเปญก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

3. ทำให้ใช้เวลาและงบประมาณได้อย่างเหมาะสม

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุเนื้อหาเฉพาะที่นำผู้มีแนวโน้มเป็นลูกค้าผ่านช่องทางการขายต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้กำหนดได้อย่างแน่ชัดว่าควรจะใช้เวลากับอะไร และใช้งบประมาณอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

4. ช่วยให้แบ่งกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน

ธุรกิจไม่สามารถส่งข้อความทางการตลาดเดิมๆ  หรือใช้กลวิธีทางการตลาดแบบเดียวกันกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าทุกรายได้ ด้วยพวกเขากระจายอยู่ในขั้นตอนที่แตกต่างกันบนเส้นทางของผู้ซื้อ และพวกเขาต้องการข้อความทางการตลาดและหลักประกันที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละขั้นซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนพวกเขาไปข้างหน้า การแบ่งกลุ่มพฤติกรรม นิสัย และข้อมูลประชากรของผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าจะสามารถช่วยให้ธุรกิจจัดระเบียบพวกเขาได้และทำให้การปรับแต่ง แผนการการตลาด ทำได้ง่ายขึ้น

5. Data-Driven Marketing ช่วยให้รู้จักลูกค้าล่วงหน้า

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลสามารถช่วยให้ธุรกิจรู้จักลูกค้าก่อนที่พวกเขาจะได้อะไรจากธุรกิจนั้นด้วยซ้ำ  ด้วยข้อมูลต่างๆ จะสามารถเตือนล่วงหน้าได้ว่าความสนใจและความชอบของพวกเขาคืออะไร ดังนั้นนักการตลาดจึงสามารถกำหนดเป้าหมายพวกเขาด้วยข้อความที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่จะช่วยดึงดูดความสนใจของพวกเขาเพื่อชักชวนให้พวกเขาตกลงปลงใจไปกับธุรกิจ

6. ช่วยปรับปรุงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

ด้วยข้อมูลที่มี นักการตลาดสามารถทราบถึง Pain Point หรือ ความต้องการของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า ช่วยให้ปรับแต่งมูลค่าและคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ของคุณให้ตรงกับสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังมองหา ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้เข้าใจถึงความสำคัญของโอกาสในการขาย และ Conversion ที่นักการตลาดสูญเสียให้กับคู่แข่ง ด้วยการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลใช้ข้อมูลลูกค้าอย่างกว้างขวางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ เพราะเมื่อได้รับข้อมูลเชิงลึกว่าใครเป็นลูกค้าและความชอบของพวกเขาเป็นอย่างไร ก็ย่อมง่ายกว่าที่จะจัดหาโซลูชันที่พวกเขาต้องการ  ทั้งการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ค้นหาช่องทางที่ดีที่สุดที่ผู้ชมของคุณต้องการใช้ ปรับปรุงการผลิตเนื้อหาของคุณ และปรับปรุง ประสิทธิภาพการขายของคุณในระดับสูง เป็นต้น

แหล่งที่มา :

https://www.ruleranalytics.com/blog

https://www.masterclass.com/articles

https://www.yokellocal.com/blog

https://growthmarketinggenie.com/blog/

 

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *