หลายๆ คนเคยได้ยินว่าตลาด E commerce เติบโตสูงมากในประเทศไทย มีการหมุนเวียนของเงินจำนวนมากในธุรกิจนี้ และแน่นอนว่ามีผู้ที่เห็นมูลค่าในตลาดทำให้หลายๆ คนกระโดดลงมาในสนามนี้เพื่อแบ่งส่วนแบ่งตลาดกัน ซึ่งคนที่สามารถทำการตลาดที่มัดใจลูกค้าได้ก็จะเป็นผู้ชนะ ในบทความนี้ เราจึงนำกลยุทธ์ในการทำการตลาด Ecommece ที่เจ้าของธุรกิจควรรู้มาฝากกัน
- การตลาด E commerce คืออะไร?
- กลยุทธ์การทำการตลาด E commerce
- Email Marketing
- กลยุทธ์การตลาดบนโซเชียลมีเดีย
- การสร้างลูกค้าประจำ
- ลงทุนในการทำแชทแบบเรียลไทม์
- การใช้ Influencer ช่วยในการทำการตลาด
- สรุป
การตลาด E commerce คืออะไร
การตลาด Ecommerce คือ การฝึกฝนใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดการเข้าชมร้านค้าออนไลน์ของคุณ จากนั้นทำการเปลี่ยนจากผู้เข้าชมร้านค้าให้เป็นลูกค้าที่ทำการซื้อ และดูแลรักษาลูกค้าหลังการขาย
กลยุทธ์การตลาดอีคอมเมิร์ซแบบองค์รวม ประกอบด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งในและนอกเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งกลยุทธ์การตลาดที่ดีสามารถช่วยคุณสร้างการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นให้เกิดความภักดีของลูกค้า และเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้ในที่สุด
คุณสามารถโปรโมตร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ โดยใช้เครื่องมือการตลาดอีคอมเมิร์ซ สำหรับภาพรวมธุรกิจหรือเพื่อเพิ่มยอดขายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง
กลยุทธ์การทำการตลาด E commerce
1. Email Marketing
การตลาดอีเมล หรือ การทำ Email Marketing เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงผู้ชมของคุณได้โดยตรง และเฉพาะเจาะจงผ่านอีเมลในกล่องจดหมาย ดังนั้นวิธีนี้จึงสามารถรักษาโอกาสในการขาย และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณมีตัวตนจริงและยังคงให้บริการอยู่ พร้อมกับการติดตามการเปิดอ่านอีเมลของอีเมลทุกฉบับ
คุณสามารถใช้อีเมลในรูปแบบต่างๆ เพื่อแนะนำแบรนด์ของคุณ แจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้ความรู้เกี่ยวสินค้าและแบรนด์ หรือแบ่งปันข่าวสารต่างๆ ในปัจจุบัน
ส่วนการแจ้งเตือนเกี่ยวกับส่วนลด หรือสินค้าลดราคา จะเป็นรายการที่เฉพาะเจาะจงอย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจในสินค้านั้นๆ ดังนั้นหากคุณกำลังนำเสนอส่วนลดสินค้า ให้ทำการส่งอีเมลเกี่ยวกับสินค้าตัวนั้นไปยังกลุ่มอีเมลที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการส่งส่วนลดรองเท้าสำหรับวิ่งออกกำลังกาย คุณต้องทำการส่งอีเมลนี้ไปยังผู้ที่เปิดดู หรืออ่านอีเมลหมวดหมู่เกี่ยวกับการวิ่ง จะทำให้คุณมีโอกาสที่จะทำการปิดการขายมากกว่าการส่งไปกลุ่มที่สนใจเรื่องฟุตบอล หรือบาสเกตบอล เป็นต้น
โซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการเข้าถึงผู้คนจำนวนมาก ในหลายพื้นที่และหลายกลุ่มอายุ
ซึ่งการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียในธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีประโยชน์อย่างมาก โดยจะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ เช่น การกดไลก์ แสดงความคิดเห็น การแชร์ และโต้ตอบกับโพสต์ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจของผู้คน และยังช่วยในการกระตุ้นยอดขาย
นอกจากนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth) เนื่องจากการแบ่งปันข้อมูลภายในและระหว่างแพลตฟอร์มเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น แม้แต่การแชร์บทความบนเว็บไซต์ไปยังช่องทางต่างๆ ก็เช่นกัน
ปัจจุบันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ปรับรูปแบบการใช้งานให้เหมาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้สามารถสร้าง และรักษาตัวตนของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เช่น Instagram ที่มีฟีเจอร์ลิงก์ swipe-up หรือ ปัดขึ้นบนสตอรี่ และสติกเกอร์ผลิตภัณฑ์บนโพสต์ ที่เมื่อคลิกแล้วจะนำผู้ชมไปยังผลิตภัณฑ์หรือแคตตาล็อกโดยตรง
ลูกค้าประจำ คือ ลูกค้าระยะยาวของธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ได้มาง่ายๆ ลูกค้าถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายของตนเอง และพวกเขาจะภักดีต่อแบรนด์ที่สามารถช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ ไม่สำคัญว่าลูกค้าจะมีความรู้สึกที่ดีหรือไม่ดีต่อแบรนด์มาก่อน ถ้าคู่แข่งของคุณสามารถให้ข้อเสนอที่ดีกว่าลูกค้าก็จะรับไป ดังนั้นเราต้องหาวิธีที่จะมัดใจลูกค้าของเรา เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ให้เกิดเป็นลูกค้าประจำนั้นเอง
เราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ด้วยบริการที่ยอดเยี่ยมและเหนือความคาดหมาย ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การมอบส่วนลด ของแถม เพราะลูกค้าต้องการวิธีในการแก้ปัญหา ดังนั้นหากคุณสามารถให้บริการและช่วยเหลือลูกค้าของคุณในการแก้ไขปัญหาได้ ลูกค้าจะเกิดความประทับใจและจดจำแบรนด์ของคุณได้แน่นอน
ในการทำธุรกิจ E-commerce สิ่งที่เป็นเหมือนหัวใจหลัก คือ การพูดคุยหรือแชทที่คอยตอบคำถามลูกค้ารวมไปถึงการรับออเดอร์ผ่านช่องทางข้อความ ยิ่งในยุคปัจจุบันความอดทนของผู้คนเริ่มลดน้อยลง ดังนั้นหากคุณตอบแชทของลูกค้าช้าไปไม่กี่นาที ลูกค้าอาจเปลี่ยนใจไปหาคู่แข่งได้
ซึ่งในการทำการตลาด E-commerce เราควรลงทุนในเรื่องของตอบแชทให้ไวที่สุด หรือเรียลไทม์นั้นเอง และเครื่องมือที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแชทบอทได้เข้ามาช่วยเหลือในการตอบแชทหรือคำถามที่ซ่้ำๆ
แชทบอท (Chatbots) – คุณคงเคยได้ยินเรื่องแชทบอทที่ช่วยในการตอบแชทลูกค้า หรือการตอบคำถามที่ลูกค้าชอบถามบ่อยๆ นั้นเอง เพื่อลดกำลังของแอดมินที่ต้องค่อยตอบแชท และคำถามจำนวนมากจากลูกค้าในแต่ละวัน
การทำการตลาดผ่าน Influencer หรือผู้มีอิทธิพลในวงการนั้นๆ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อตลาดเป้าหมายของคุณ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้เป็นที่รู้จัก มีผู้ติดตามจำนวนหมายซึ่งกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของคุณอาจติดตามและชื่นชอบพวกเขาอยู่
เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็นวงการ ความงาม การท่องเที่ยว การช็อปปิ้ง การกิน ก็จะมีผู้ที่มีเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการนั้น ซึ่งสิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือศึกษา และมองหาบุคคลเหล่านั้นที่ลูกค้าของคุณติดตามอยู่ และทำการตลาดผ่านบุคคลเหล่านั้น ผ่านสินค้าแนะนำ หรือ “โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุน”
เหล่า Influencer เป็นที่รู้จัก ที่ชื่นชอบ และได้รับความไว้วางใจความเชื่อถือจากคนจำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาในการดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ
สรุป
หลายๆ คนเคยได้ยินว่าตลาด E commerce เติบโตสูงมากในประเทศไทย มีการหมุนเวียนของเงินจำนวนมากในธุรกิจนี้ และแน่นอนว่ามีผู้ที่เห็นมูลค่าในตลาดทำให้หลายๆ คนกระโดดลงมาในสนามนี้เพื่อแบ่งส่วนแบ่งตลาดกัน ซึ่งคนที่สามารถทำการตลาดที่มัดใจลูกค้าได้ก็จะเป็นผู้ชนะ ในบทความนี้ เราจึงนำกลยุทธ์ในการทำการตลาด Ecommece ที่เจ้าของธุรกิจควรรู้มาฝากกัน
แหล่งอ้างอิง
https://www.adnabu.com/ecommerce-marketingstrategies
https://sleeknote.com/blog/e-commerce-marketing-strategies
https://blog.hubspot.com/marketing/ecommerce-marketing
https://www.shopify.com/blog/ecommerce-marketing