ปัจจุบันการทำโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ เป็นส่วนสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในแพลตฟอร์มสุดฮิตที่ทุกคนต้องเคยผ่านการฝึกฝน ทดลอง กันมาคงไม่พ้นช่องทาง Facebook ซึ่งแน่นอนว่าจากการลองผิดลองถูกมาคงต้องเสียเงินกันไปจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้ทาง Talka เราจึงมีบทสัมภาษณ์พิเศษจาก คุณเบนซ์ Senior Ad Operations Specialist ของ Talka ซึ่งเราจะมาพูดคุยกันในหัวข้อ “Do’s & Don’ts ในการทำ Facebook Ads หากคุณไม่อยากเสียเงินฟรี” มีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย
แนะนำตัว
ผมชื่อ เบนซ์ อติกันต์ สินธวังกูร ครับ ปัจจุบันเป็น Senior Ad Operations Specialist, Team Lead ที่ Talka Talka Digital Media ครับ
หลังเรียนจบการตลาดจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ก็ได้ลองทำงานเป็น Management Trainee ที่บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งแต่รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเลยเปลี่ยนสายงานมาทำด้าน Digital Marketing ครับ
คิดว่าอะไรคือหัวใจสำคัญที่สุดในการวาง budget Facebook Ads?
ก่อนจะเริ่มวางแผนงบประมาณสำหรับ Facebook Ads เราต้องเข้าใจก่อนว่าระบบของ Facebook Ads นั้นทำงานอย่างไร
การจะทำ Ads ให้มีประสิทธิภาพนั้น Ads ของเราต้องผ่าน Learning Phase ก่อน ซึ่งก็คือช่วงที่ Facebook ทดลองนำโฆษณาไปส่งให้กลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ ซึ่งการจะผ่านนั้น Learning Phase ได้นั้น Facebook ต้องการ 50 Events/week และวิธีที่จะทำให้ผ่าน Learning Phase ได้เร็วก็คือเราต้องให้ 50 Events ได้เร็วที่สุด เมื่อผ่าน Learning Phase แล้ว Facebook จะรู้ว่าควรนำส่งโฆษณาไปให้ใครเห็นถึงจะเกิดผลลัพธ์ที่เราต้องการ
เพราะฉะนั้นเรารู้แล้วว่าเราต้องการ 50 Events/week เราก็ต้องหาว่าต่อ 1 Event เราใช้เงินกี่บาท
ยกตัวอย่างเช่น หากจุดประสงค์ที่เราต้องการคือ Lead และดูจากข้อมูลย้อนหลังแล้ว ต่อ 1 lead เราใช้เงิน 300 บาท เพราะฉะนั้นต่อเดือนเราต้องใช้เงิน 50(events)*300(ต่อ 1 lead ใช้เงิน 300)*4(จำนวนสัปดาห์)= 60,000 บาทต่อเดือน
การยิงแอดให้กับลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรมมีความแตกต่างกันอย่างไร?
แน่นอนแต่ละอุตสาหกรรมนั้นมีความต่างกันมาก เพราะฉะนั้นเราไม่ควรใช้ Benchmark โดยรวมมาวัด คุณภาพของโฆษณาของเรา เช่น ถ้าเราขายสินค้าประเภทเสื้อผ้าก็ไม่ควรจะเปรียบเทียบคุณภาพโฆษณากับสินค้าประเภท Electronic เพราะบาง Metrics จะต่างกันค่อนข้างมาก แต่มี 3 สิ่งที่ทุกอุตสาหกรรมขายบนออนไลน์สามารถทำได้เหมือนกันก็คือ การเพิ่ม 3 ตัวแปรนี้
- Traffic (ยอดเข้าชมร้านค้า/เว็ปไซต์)
- Conversion Rate (อัตราการซื้อ)
- Average Basket Size (ราคาขายเฉลี่ยต่อชิ้น)
เมื่อเราเอา 3 ข้อด้านบนมาคูณกันก็จะได้ยอดขาย ไม่ว่าเราจะเพิ่มข้อไหนก็ตามก็จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
Do’s & Don’ts ในการทำ Facebook Ads มีอะไรบ้าง?
Do’s
- ให้ความสำคัญกับ Creative และ Caption เพราะเป็นสิ่งแรกที่คนจะเห็น
- User ส่วนใหญ่ใช้งานผ่านมือถือ เพราะฉะนั้นต้องทดสอบในมือถือก่อนรันแอด
- ตั้ง Budget ให้สมเหตุสมผลกับสิ่งที่คาดหวัง
- ใส่ Call to action เพื่อชี้นำกลุ่มเป้าหมายว่าเราอยากให้ทำอะไร
- ถ้าขายบนเว็ปไซต์ตัวเองต้องติด Pixel
- ยิงโฆษณากลับไปหาลูกค้าเก่า
Don’t
- แก้ไข Campaign บ่อย เพราะจะทำให้ Learning Phase กลับไปเป็น 0
- ยิงแอดบนมือถือเพราะตัวเลือกจะน้อยกว่าใน Ad Manager มาก
- ยิงไปกลุ่มเป้าหมายที่กว้างเกินไป
- คาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เกินจริง
- รีบร้อนในการหยุดโฆษณาจนเกินไป เพราะเราจะต้องใช้เวลาในการ Optimize
Learning phase ด้วยว่ามันใช้เวลาในการ optimize แบบอย่าใจร้อนจนเกินไป
ฝากอะไรให้คนที่ประสบปัญหา ยิงแอดแล้วไมได้ยอดขาย
ให้ลองวิเคราะห์จากผลลัพธ์ที่ผ่านมาว่า เราได้ใช้ Budget ที่เหมาะสมกับสิ่งที่เราคาดหวังรึป่าว เราได้ 50 events/week มั้ย ถ้าได้แล้วให้ดู Traffic, Conversion Rate, Average Basket Size ว่ามีสิ่งไหนที่เราสามารถเพิ่มได้บ้าง ถ้าทำหมดแล้วลองเปลี่ยน Creative หรือ ยิงแอดกลับไปหาลูกค้าที่เข้ามาบนเว็ปไซต์แต่ยังไม่ทำการซื้ออีกครั้ง ถ้าทำทั้งหมดแล้วยังไม่ได้ยอดขายอาจ อยากให้ทดลองใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วยในการทำโฆษณา เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของเราอาจไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์ม Facebook เพียงอย่างเดียว ดังนั้นเราควรใช้สื่ออื่นๆ ร่วมกันให้ครบวงจร
สุดท้ายหากคุณต้องการคำปรึกษาในการทำสื่อโฆษณา หรือต้องการพัฒนายอดขาย ผลตอบแทนจากการทำโฆษณาสามารถ ปรึกษาทางทีม Talka ได้ที่ > https://talkatalka.com/contact