Authentic Marketing – แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จแล้วต่างรู้ดีว่าความไว้วางใจ และความภักดีของผู้บริโภคนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งและไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน แม้ว่าการสร้างยอดขายผ่านโปรโมชันหรือรางวัลต่างๆ จะเป็นเรื่องง่าย แต่การจะทำให้ใครสักคนเชื่อและสนับสนุนแบรนด์อย่างแท้จริงนั้นจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อที่ลึกซึ้งและใช้ความจริงใจมากขึ้น เมื่อแบรนด์ของคุณสามารถเข้าถึงใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง คุณไม่เพียงแต่ได้รับยอดขายเพิ่มขึ้นเท่านั้นแต่คุณจะมีลูกค้าประจำที่ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์ของคุณอีกด้วย วันนี้ Talka จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “การตลาดแบบจริงใจ” ที่จะเติบโตมากยิ่งขึ้นทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไปอย่างแน่นอนครับ
Authentic Marketing คืออะไร?
ทำความเข้าใจ Authentic Marketing คืออะไร?
ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของ Digital Marketing การสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้บริโภคถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับความสำเร็จของแบรนด์ หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายนี้คือการตลาดที่แสดงให้เห็นถึงความถูกต้องของแบรนด์ Authentic Marketing หรือ การตลาดแบบจริงใจ คือกระบวนการสื่อสารอย่างเปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจกับลูกค้ารวมถึงผู้ชมคนอื่นๆ การตลาดแบบจริงใจสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเชื่อมต่อกับบุคคลหรือกลุ่มคนที่คุณกำลังสื่อสารด้วยได้ในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยการสื่อสารข้อความของแบรนด์ที่เป็นธรรมชาติและที่สำคัญ คือ เป็นการสื่อสารที่แสดงถึงความจริงใจ ตรงไปตรงมา
เหตุใดการตลาดแบบจริงใจถึงเป็นที่นิยม
เหตุใด Authentic Marketing ถึงเป็นที่นิยม
หากจะว่าไปแล้ว การตลาดแบบจริงใจนั้นได้รับความนิยมด้วยเหตุผลหลายประการ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภคและการเปลี่ยนแปลงของตลาด ซึ่งต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญบางประการที่ส่งผลต่อความนิยมของการตลาดแบบจริงใจครับ
1. ความไว้วางใจของผู้บริโภค
การตลาดแบบจริงใจให้ความสำคัญต่อความความโปร่งใส และความซื่อสัตย์ในการสื่อสาร ในยุคที่ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารมากมายที่มาพร้อมกับความสงสัยเคลือบแคลงมากขึ้น การสร้างความไว้วางใจจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญ กลยุทธ์การตลาดแบบจริงใจคือกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องราวจริง ประสบการณ์จริง และการสื่อสารแบบเปิด ที่ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค
2. เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
การตลาดแบบจริงใจมักเกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายในระดับบุคคล ด้วยการนำเสนอเรื่องราวและข้อความของแบรนด์ที่ใช้คนจริง ประสบการณ์จริง และอารมณ์ที่แท้จริง แบรนด์ต่างๆ จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่เข้าถึงได้และจริงใจมากขึ้นกับลูกค้าของตน ซึ่งในท้ายที่สุดความสัมพันธ์นี้จะช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
3. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย
การเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดียทำให้ผู้บริโภคมีเวทีในการแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์ การตลาดแบบจริงใจใช้ประโยชน์จากเนื้อหา บทวิจารณ์ และคำรับรองที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเพื่อแสดงประสบการณ์ที่แท้จริงของลูกค้า เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นนี้มักจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากกว่าข้อความทางการตลาดแบบเดิมๆ
4. ความถูกต้องเป็นตัวสร้างความแตกต่าง
ในตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น ความถูกต้องสามารถทำหน้าที่เป็นตัวสร้างความแตกต่างที่ทรงพลังได้ ผู้บริโภคมักถูกโจมตีด้วยข้อความทางการตลาด และพวกเขามักจะหันไปหาแบรนด์ที่ให้ความรู้สึกจริงใจ และจริงใจต่อคุณค่าของตน การตลาดแบบจริงใจช่วยให้แบรนด์โดดเด่นด้วยการจริงใจต่อตัวเองและสะท้อนกับคุณค่าของผู้ชม
5. การเพิ่มขึ้นของจิตสำนึกบริโภคนิยม
ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมจากการตัดสินใจซื้อมากขึ้น แบรนด์ที่สื่อสารถึงความมุ่งมั่นต่อความรับผิดชอบต่อสังคม ความยั่งยืน และหลักปฏิบัติด้านจริยธรรมอย่างแท้จริงจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคที่สอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้ได้ การตลาดแบบจริงใจจริงช่วยสื่อสารถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงของแบรนด์ในการสร้างผลกระทบเชิงบวก
เราจะเห็นได้ว่าความนิยมของการตลาดแบบจริงใจนั้นได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคซึ่งให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และการเชื่อมต่ออย่างแท้จริงกับแบรนด์ที่พวกเขาสนับสนุน แบรนด์ที่สามารถสื่อสารคุณค่า วัตถุประสงค์ และเรื่องราวของตนได้อย่างแท้จริง มีแนวโน้มที่จะโดนใจผู้บริโภคในปัจจุบันและสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและภักดีได้ ด้วยเหตุนี้กลยุทธ์ Authentic จึงเป็นสิ่งที่แบรนด์ยุคใหม่ต่างให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่ต้องสงสัยครับ
ประโยชน์ของ Authentic Marketing
ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและทางเลือกต่างๆ ผู้บริโภคหันมาสนใจความถูกต้องมากขึ้น ความจริงใจทางการตลาดได้พัฒนาจากการเป็นเพียงคำศัพท์เฉพาะไปสู่กลยุทธ์อันทรงพลังที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจ แต่ยังสร้างการเชื่อมต่อที่ยั่งยืนอีกด้วย ในยุคแห่งความโปร่งใสทางดิจิทัลนี้ ลูกค้ามีวิสัยทัศน์มากขึ้นกว่าที่เคย โดยแสวงหาประสบการณ์ที่แท้จริงและเกี่ยวข้องจากแบรนด์ที่พวกเขาเลือกมีส่วนร่วมด้วย
การตลาดแบบจริงใจเป็นมากกว่าการโฆษณาที่สวยงามและโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่คัดสรรมาอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเจาะลึกถึงค่านิยมหลัก จริยธรรม และเรื่องเล่าที่กำหนดแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่สามารถประสบความสำเร็จกับกลยุทธ์การตลาดแบบจริงใจนั้นจะได้รับประโยชน์ที่มากมายมาสู่แบรนด์ของพวกเขา ได้แก่
1. ขยายการรับรู้ถึงแบรนด์
ปัจจุบัน ผู้บริโภคกำลังทำการวิจัยอย่างกว้างขวางเมื่อเลือกผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผู้ซื้อต้องการมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีและข้อเสนอที่ดี พวกเขามุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่พวกเขาจะซื้อจากใครและจุดยืนของบริษัท ดังนั้นนักการตลาดจึงจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างให้ตนเองโดยใช้หรือพัฒนาเนื้อหาที่บอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจ ระบุค่านิยม และแสดงการมีส่วนร่วมต่อสังคม เราไม่มีทางที่จะแน่ใจได้ว่าลูกค้าจะพบแบรนด์ของคุณได้อย่างไร ใช้เวลานานแค่ไหนในการตัดสินใจเลือกแบรนด์ของคุณ และอะไรเกี่ยวกับบริษัทของคุณที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจมาเลื่อมใส เพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จในการสร้างการรับรู้และนำผู้ซื้อไปสู่เส้นทางการซื้อ บริษัทของคุณต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณใช้เวลาไปกับช่องทางใด และพบปะพวกเขาที่นั่นด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจซึ่งนำเสนอแบรนด์ของคุณอย่างแท้จริงและสร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอ
2. เพิ่มโอกาสในการรักษาลูกค้า
การตลาดแบบจริงใจเกี่ยวข้องกับการสื่อสารและความโปร่งใสอย่างแท้จริง เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์มีความซื่อสัตย์ต่อคุณค่าของตน พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจแบรนด์นั้นมากขึ้น ความไว้วางใจเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และลูกค้าย่อมมีแนวโน้มที่จะยังคงภักดีต่อแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจ เมื่อลูกค้าเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ในระดับอารมณ์ พวกเขาก็จะมีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น การเชื่อมโยงทางอารมณ์มีส่วนทำให้เกิดความรู้สึกภักดี ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะยึดติดกับแบรนด์มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
นอกจากนี้ ในโลกที่ผู้บริโภคมักถูกโจมตีด้วยข้อความทางการตลาด ความถูกต้องมีความโดดเด่น ความพยายามทางการตลาดอย่างแท้จริงสามารถตัดเสียงรบกวนและลดความสงสัยของลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเชื่อว่าแบรนด์มีความจริงใจและเป็นของแท้ พวกเขามักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับแรงจูงใจของแบรนด์น้อยลงและมีแนวโน้มที่จะคงความภักดีมากขึ้น นำไปสู่การตลาดแบบปากต่อปากในเชิงบวก ลูกค้าที่พึงพอใจซึ่งได้สัมผัสกับแบรนด์ของแท้มักจะแนะนำให้ผู้อื่นรู้จัก คำแนะนำแบบปากต่อปากเป็นตัวขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพในการได้มาและการรักษาลูกค้า
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์
การตลาดแบบจริงใจนั้นมุ่งเน้นไปที่ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์เป็นหลัก เมื่อแบรนด์สื่อสารอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับค่านิยม พันธกิจ และแนวปฏิบัติของตน ผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจแบรนด์เหล่านั้นมากขึ้น ความไว้วางใจเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ และการตลาดแบบจริงใจจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือระหว่างแบรนด์และผู้ชม การตลาดแบบจริงใจช่วยให้แน่ใจว่าข้อความของแบรนด์สอดคล้องกับการกระทำของตน เมื่อสิ่งที่แบรนด์ให้คำมั่นสัญญากับสิ่งที่นำเสนอมีความสอดคล้องกัน ผู้บริโภคจึงมีแนวโน้มที่จะมองว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ความสม่ำเสมอในภาพลักษณ์ของแบรนด์จะสร้างความน่าเชื่อถือเมื่อเวลาผ่านไป
แบรนด์ที่จริงจังกับการทำการตลาดแบบจริงใจมักปรับตัวให้เข้ากับความต้องการและข้อกังวลของลูกค้า โดยยินดีที่จะปรับตัวและตอบสนองต่อข้อเสนอแนะและแสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูกค้า ซึ่งความสามารถในการปรับตัวและการตอบสนองนี้มีส่วนทำให้เกิดการรับรู้เชิงบวกเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการรับฟังและได้รับการสนับสนุน โดยรวมแล้วการตลาดแบบจริงใจไม่ได้เป็นเพียงการสร้างผลกำไรในระยะสั้นเท่านั้น แต่คือการมุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าในระยะยาว แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมีแนวโน้มที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพ แนวปฏิบัติที่ยั่งยืนและประสบการณ์เชิงบวกของลูกค้า ความมุ่งมั่นในระยะยาวนี้มีส่วนทำให้เกิดการรับรู้ถึงความน่าเชื่อถือ
4. เพิ่ม Conversion และกระตุ้นยอดขาย
การตลาดแบบจริงใจมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้าโดยการถ่ายทอดความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และความเข้าใจอย่างแท้จริงในความต้องการของพวกเขา วิธีการนี้สามารถปรับปรุง Conversion และเพิ่มยอดขายได้อย่างมากด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ
- สร้างความน่าเชื่อถือ การตลาดแบบจริงใจสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภค เมื่อลูกค้าเชื่อว่าแบรนด์มีความซื่อสัตย์และโปร่งใส พวกเขามีแนวโน้มที่จะเชื่อถือข้อมูลที่ให้ไว้และทำการซื้อมากขึ้น ความไว้วางใจเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันในระดับสูง
- สร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์ การตลาดแบบจริงใจเชื่อมโยงกับลูกค้าในระดับอารมณ์ เมื่อลูกค้ารู้สึกถึงความเชื่อมโยงส่วนตัวกับแบรนด์ พวกเขามีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้าประจำและผู้ซื้อซ้ำ การมีส่วนร่วมทางอารมณ์สามารถขับเคลื่อนการตัดสินใจซื้อได้ และความถูกต้องช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่แท้จริงและยั่งยืน
- ความแตกต่างจากคู่แข่ง ในตลาดที่อิ่มตัว ความถูกต้องทำให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่ง เมื่อลูกค้าถูกโจมตีด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย พวกเขามีแนวโน้มที่จะเลือกแบรนด์ที่ให้ความรู้สึกเป็นของแท้และสอดคล้องกับคุณค่าของพวกเขา ความถูกต้องกลายเป็นข้อเสนอการขายที่ไม่เหมือนใครซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในกระบวนการตัดสินใจของลูกค้า
- เพิ่มความภักดีของลูกค้า ความถูกต้องส่งเสริมความภักดีของลูกค้า เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ยึดมั่นในคุณค่าของตนเองและใส่ใจในความเป็นอยู่ของตนเองอย่างแท้จริง พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะยึดติดกับแบรนด์นั้นเมื่อเวลาผ่านไป การทำซ้ำธุรกิจจากลูกค้าประจำเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มยอดขาย
- การบอกเล่าปากต่อปากและบทวิจารณ์เชิงบวก การตลาดแบบจริงใจมักจะนำไปสู่การตลาดแบบปากต่อปากและการวิจารณ์ในเชิงบวก ลูกค้าที่พึงพอใจมีแนวโน้มที่จะแบ่งปันประสบการณ์เชิงบวกกับผู้อื่นทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ โปรโมชันทั่วไปนี้สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ Conversion Rate
- แก้ไข Pain Point ของลูกค้า การตลาดแบบจริงใจเกี่ยวข้องกับการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าและจัดการกับปัญหาของลูกค้า เมื่อแบรนด์ถูกมองว่าสนใจในการแก้ปัญหาของลูกค้าอย่างแท้จริง ก็จะนำไปสู่ความพึงพอใจที่สูงขึ้น ความภักดีต่อแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น และยอดขายที่เพิ่มขึ้นในที่สุด
- สอดคล้องกับค่านิยมผู้บริโภคยุคใหม่ ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและความถูกต้อง ลูกค้าจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมีจริยธรรม การปรับความพยายามทางการตลาดให้สอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนพฤติกรรมผู้บริโภคในเชิงบวก
- การปรับเปลี่ยนตามความคาดหวังของผู้บริโภค ที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อความคาดหวังของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การตลาดแบบจริงใจช่วยให้แบรนด์ปรับตัวและคงความเกี่ยวข้องได้ แบรนด์ที่เป็นของแท้มีแนวโน้มที่จะเข้าใจและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้ามากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาด
5. เพิ่มจำนวนผู้ติดตาม
เมื่อข้อความทางการตลาดสอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์และเป็นของแท้ ผู้คนก็มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจแบรนด์ของคุณมากขึ้น ซึ่งความไว้วางใจนี่เองที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดผู้ติดตามและสมาชิก เนื่องจากผู้คนมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมและสมัครรับเนื้อหาจากแหล่งที่พวกเขาเชื่อถือมากขึ้น ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้ชมในระดับส่วนตัว เมื่อแบรนด์ของคุณแบ่งปันเรื่องราว ประสบการณ์ และคุณค่าที่แท้จริง มันจะสะท้อนกับบุคคลที่สามารถเชื่อมโยงกับข้อความของคุณได้ การเชื่อมต่อนี้จะส่งเสริมความรู้สึกของชุมชนและความภักดี กระตุ้นให้ผู้คนติดตามแบรนด์ของคุณเพื่อมองหาเนื้อหาที่น่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อแบรนด์สื่อสารอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับข้อเสนอและข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นก็จะทำให้เกิดความโปร่งใส ผู้คนจะชื่นชมในความซื่อสัตย์ และแนวทางที่โปร่งใสนี้สามารถนำไปสู่ความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้ผู้คนสมัครรับจดหมายข่าวของคุณเพื่อรับการอัปเดตเป็นประจำมากขึ้น
นอกจากนี้ ในตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น ความถูกต้องสามารถทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างได้ เมื่อผู้บริโภคถูกโจมตีด้วยข้อความทางการตลาดที่หลากหลาย แนวทางที่จริงใจและโปร่งใสจะช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น ความแตกต่างนี้สามารถดึงดูดผู้ติดตามที่กำลังมองหาเสียงที่มีเอกลักษณ์และจริงใจในตลาดได้มากขึ้นนั่นเอง
7 องค์ประกอบของกลยุทธ์ Authentic Marketing
ในยุคที่ผู้บริโภคมีความฉลาดรอบรู้ และต้องการการเชื่อมต่ออย่างแท้จริงกับแบรนด์ที่พวกเขาเลือกที่จะมีส่วนร่วมด้วยมากขึ้น กลยุทธ์การตลาดแบบจริงใจจึงไม่เคยมีความสำคัญเท่านี้มาก่อน ในส่วนนี้ เราจะมาสำรวจองค์ประกอบสำคัญของการสร้างกลยุทธ์การตลาดแบบจริงใจ ซึ่งทุกองค์ประกอบเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วจะช่วยส่งเสริมความไว้วางใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน และขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจในท้ายที่สุดครับ
1. การทำความรู้จักผู้ชม
รากฐานของกลยุทธ์การตลาดแบบจริงใจนั้นอยู่ที่ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ อันดับแรกให้ใช้เวลาในการค้นคว้า และวิเคราะห์ข้อมูลประชากร ความชอบ ค่านิยม และ Pain Point ของพวกเขา เมื่อได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแรงจูงใจของพวกเขาแล้วคุณจะสามารถปรับแต่งข้อความของคุณให้โดนใจพวกเขาในระดับที่เป็นส่วนตัวได้ เนื่องจากความถูกต้องจำเป็นต้องเริ่มต้นจากความพยายามอย่างแท้จริงในการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า
2. เรื่องราวของแบรนด์
ความถูกต้องทางการตลาดมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าสนใจ เรื่องราวของแบรนด์ควรสะท้อนถึงคุณค่า ภารกิจ และการเดินทางของบริษัท แบ่งปันด้านที่แสดงถึงความเป็นมนุษย์ของธุรกิจของคุณ รวมถึงความท้าทาย ความสำเร็จ และเหตุการณ์สำคัญๆ การเล่าเรื่องเกี่ยวกับแบรนด์ที่นำเสนอได้เป็นอย่างดีจะช่วยสร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์กับผู้ชม ทำให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงได้และน่าจดจำมากยิ่งขึ้น
3. ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์
การสร้างความไว้วางใจถือเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดแบบจริงใจ มีความโปร่งใสเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ราคา และแนวปฏิบัติทางธุรกิจของคุณ หลีกเลี่ยงการพูดเกินจริงหรือการกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดซึ่งอาจทำลายความไว้วางใจ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ และธุรกิจที่สื่อสารอย่างเปิดเผยจะสร้างความน่าเชื่อถือและความน่าเชื่อถือจะนำไปสู่ความภักดีของลูกค้าได้
4. การใช้ประโยชน์จาก UGC
ส่งเสริมให้ลูกค้าของคุณแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขากับแบรนด์ของคุณผ่านการรีวิว คำรับรอง และเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC) ความถูกต้องจะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเห็นคนจริงๆ ที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความไว้วางใจเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักฐานทางสังคมอีกด้วย ซึ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ
5. การมีส่วนร่วมในการสนทนา
การตลาดแบบจริงใจนั้นมีอะไรที่มากกว่าแค่การเผยแพร่ข้อความของแบรนด์ แต่สิ่งสำคัญยังอยู่ที่การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ดังนั้นให้เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดีย ตอบกลับความคิดเห็นและข้อความ และแสดงความสนใจอย่างแท้จริงในสิ่งที่ลูกค้าของคุณพูด การเข้าถึงและตอบสนองที่ทันท่วงทีจะทำให้คุณสร้างความมีมนุษยธรรมต่อแบรนด์ของคุณและแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูกค้ามากเพียงใด
6. ความยึดมั่นใน CSR ขององค์กร
การผสมผสานหลักปฏิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เข้ากับธุรกิจของคุณไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ของคุณด้วย ดังนั้นให้สื่อสารความคิดริเริ่ม CSR ของคุณออกมาอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นความพยายามเพื่อความยั่งยืน การบริจาคเพื่อการกุศล หรือการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม เป็นต้น เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมักแสดงความชื่นชมธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสังคมมากกว่าการสร้างผลกำไรขององค์กร
7. การสร้างความสอดคล้องทุกช่องทาง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาพลักษณ์และข้อความของแบรนด์ของคุณนั้นมีความสอดคล้องกันในทุกช่องทางการตลาด ความสม่ำเสมอจะช่วยสร้างความไว้วางใจ เนื่องจากลูกค้าสามารถพึ่งพาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เหนียวแน่นและเชื่อถือได้ ตั้งแต่เว็บไซต์ของคุณไปจนถึงโซเชียลมีเดีย การโฆษณา และการโต้ตอบกับลูกค้า รักษาเสียงและสไตล์ที่เป็นหนึ่งเดียวซึ่งตอกย้ำความน่าเชื่อถือของแบรนด์ของคุณเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
การสร้างกลยุทธ์การตลาดแบบจริงใจนั้นเกี่ยวข้องกับการทำให้แบรนด์ของคุณมีความสอดคล้องกับคุณค่าที่แท้จริง ส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิด และสร้างความไว้วางใจกับผู้ชมของคุณ ด้วยการทำความเข้าใจลูกค้าของคุณ แบ่งปันเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าสนใจ ความโปร่งใส การใช้ประโยชน์จากเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น การมีส่วนร่วมในการสนทนา การน้อมรับ CSR และการรักษาความสม่ำเสมอ คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่สะท้อนถึงความถูกต้องได้ ในโลกที่ความถูกต้องมีคุณค่ามากกว่าที่เคย ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อที่แท้จริงจะมีความโดดเด่นและเติบโตในระยะยาวอย่างไม่ต้องสงสัย
แหล่งที่มา :
