MarTech – เมื่อโลกพัฒนาจนมาถึงยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในโลกของการตลาดออนไลน์ เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการทำ แผนการตลาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าในอดีต และเมื่อมีเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของการตลาดสมัยใหม่แห่งยุค Digital Transformation เครื่องมือเทคโนโลยีการตลาดเหล่านี้ จึงเรียกรวมกันว่า Technology Marketing หรือ “MarTech” วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจในความหมาย ตลอดจนประเภทและประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ ที่นักการตลาดออนไลน์สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกันครับ
Martech คืออะไร?
Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลกได้ให้คำจำกัดความ Marketing Technology หรือ MarTech หมายถึง ชุดของโซลูชันซอฟต์แวร์ ที่นักการตลาดนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่สำคัญต่อภารกิจและการขับเคลื่อนนวัตกรรมภายในองค์กร ภาพรวมโซลูชันของ MarTech มักมุ่งเน้นไปที่เนื้อหาและประสบการณ์ของลูกค้า การโฆษณา การตลาดทางตรง การจัดการการตลาด ข้อมูลการตลาด และการวิเคราะห์
ซึ่งช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด ด้วยคุณสมบัติในการทำงานที่ตอบโจทย์แก่นักการตลาดได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านการสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายช่องทาง หรือ ประสิทธิภาพในการวัดผลที่แม่นยำ เป็นต้นปัจจุบัน MarTech ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในแคมเปญการตลาดดิจิทัลที่ขาดไม่ได้ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดได้ในทุกช่องทางของการตลาด โดยนักการตลาดสามารถนำผลลัพธ์ ตลอดจนข้อมูลที่ได้จากการช่วยเหลือของเทคโนโลยีนี้มาใช้เป็นข้อมูลสำคัญเพื่อต่อยอดการทำกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ต่อไปได้อย่างราบรื่นโดยรวมแล้ว สามารถนิยาม MarTech ได้ว่าเป็นส่วนผสมของการตลาดและเทคโนโลยี โดยครอบคลุมเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีที่นักการตลาดใช้ในการวางแผน ดำเนินการ วัดผล และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดของตน MarTech ช่วยให้นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติ ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และตัดสินใจอย่างรอบรู้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาด
ประเภทของ Martech
ความจริงการพัฒนาซอฟต์แวร์ Marketing Technology ต่างๆ เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ส่วนใหญ่มักกระจายการใช้งานอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่ ครั้นเมื่อโลกเกิดการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ในระยะเวลา ประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ความต้องการในการใช้งานเครื่องมือเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางเริ่มใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้อย่างแพร่หลาย จนปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือทางการตลาดตมากขึ้นหลายร้อยหลายพันตัว ทั้งที่เป็น Tools และ Platform ซึ่งเราสามารถแยกรูปในการทำงานออกไปได้อีกหลายประเภท ต่อไปนี้ คือ การจำแนก ประเภทหลัก ๆ ของ Marketing Technology ที่มีการใช้งานกันแพร่หลาย จนกลายเป็น เทรนด์ Digital Marketing ในปัจจุบันครับ
1. Analytics
ในที่นี้ เราหมายถึงมิติของการวิเคราะห์เว็บไซต์ (Web Analytics) เป็นกระบวนการของการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือที่เรียกว่า Users หรือ Visitor โดยเครื่องมือนี้มี่ส่วนช่วยในการติดตาม ตรวจสอบ และรายงานข้อมูลต่างๆ เพื่อวัดผลลัพธ์ของกิจกรรมบนเว็บไซต์ รวมถึงการใช้เว็บไซต์ และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น หน้าเว็บ รูปภาพ และวิดีโอ โดยข้อมูลที่รวบรวมผ่านการวิเคราะห์เว็บอาจรวมถึงแหล่งที่มาของการเข้าชม เว็บไซต์ที่อ้างอิง การดูหน้าเว็บ ช่องทางที่ใช้ และอัตราการแปลง (Conversion Rate) หรือ อัตราส่วนของการเข้าชมเนื้อหาในเว็บไซต์ที่กลายเป็นการกระทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่ธุรกิจนั้นๆ ให้คุณค่า เป็นต้น ข้อมูลที่รวบรวม มักจะเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์การจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ (การวิเคราะห์ CRM) เพื่ออำนวยความสะดวก และปรับปรุงการตัดสินใจทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น การวิเคราะห์เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาลูกค้าและดึงดูดผู้เข้าชมได้มากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มที่ใช้อธิบายประเภทของเทคโนโลยีนี้ได้เป็นอย่างดี คือ Google Analytic เป็นต้น
2. Advertising
หมายถึง เทคโนโลยีโฆษณาดิจิทัล ต่างๆ ที่ช่วยให้นักการตลาดออนไลน์สามารถสร้างบริการแก่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงการใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการโฆษณา หรือการโฆษณาบนระบบการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต (Search Engine) ด้วยวิธี PPC (Pay per click) เพื่อการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากขึ้น หรือการกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้คนในกลุ่มประชากรหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงพื้นที่โฆษณาที่ปรากฎตามเว็บไซต์ต่างๆ เป็นต้น
3. Email Marketing
Email Marketing คือ บริการเฉพาะที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดทางอีเมล บริการนี้ รวมถึงระบบอัตโนมัติของลำดับอีเมลสำหรับลูกค้าใหม่ เทมเพลตสำหรับการสร้างอีเมล และการจัดการที่อยู่อีเมล นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่นอกเหนือจากการรายงานอัตราการเปิดอีเมล (Open Rate) ซึ่งเป็นพื้นฐานของเครื่องมือนี้ อาทิ รายงานประจำเดือน (Monthly Report) การทดสอบ A/B testing และฟังก์ชันการแจ้งเตือนแบบพุช (Push Notification) เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน การตลาดผ่านอีเมลยังถือว่าเป็นช่องทางการตลาดที่ได้รับความนิยมจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ แจ้งข่าวสาร และข้อมูลต่างๆ ผู้ให้บริการอีเมลใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อสร้างความแตกต่างในการให้บริการ โดยในระดับพื้นฐานของแพลตฟอร์ม Email Marketing คือ การจัดเก็บที่อยู่อีเมล และการส่งอีเมล เป็นต้น
4. Customer Relationship Management (CRM)
เทคโนโลยีที่ใช้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ใช้เพื่อจัดการประสิทธิภาพการขายและระบบจัดการ Funnel เป็นเทคโนโลยีสำหรับจัดการความสัมพันธ์และการโต้ตอบทั้งหมดของแบรนด์กับลูกค้า และผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า เป้าหมายสำคัญของ CRM คือ การปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ระบบ CRM ช่วยให้บริษัทเชื่อมต่อกับลูกค้า ปรับปรุงกระบวนการ และปรับปรุงผลกำไร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อผู้คนพูดถึง CRM มักจะหมายถึงระบบ CRM ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการผู้ติดต่อ การจัดการการขาย ประสิทธิภาพการทำงาน และอื่นๆ โซลูชัน CRM ช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ขององค์กรกับบุคคลต่างๆ รวมถึงลูกค้า ผู้ใช้บริการ เพื่อนร่วมงาน หรือซัพพลายเออร์ ตลอดวงจรชีวิตของคุณกับพวกเขา รวมถึงการหาลูกค้าใหม่ และให้การสนับสนุนและบริการเพิ่มเติมตลอดความสัมพันธ์ในวงจรของธุรกิจ
6. Customer experience Software
เทคโนโลยีการตลาดประเภทนี้ มีส่วนสำคัญในการช่วยให้บริษัทต่างๆ ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดด้วยความสามารถในการทดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์ อินเทอร์เฟซ และแอปพลิเคชัน ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มด้านนี้จำนวนมากที่เสนอการทดสอบ A/B Testing และการปรับเปลี่ยนเฉพาะเพื่อรองรับพฤติกรรมที่แตกต่างหลากหลายของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ
7. Content Management
หรือ เครื่องมือการจัดการเนื้อหา สามารถช่วยบริษัทต่างๆ ในการจัดการเนื้อหาทางการตลาดและเว็บไซต์ หรือสื่อที่เป็นเจ้าของ โดยทำให้การค้นหา อัปเดต แท็ก สร้าง ตรวจสอบ และแก้ไขเนื้อหานั้นง่ายขึ้น เครื่องมือการจัดการเนื้อหาบางอย่างเชี่ยวชาญในการให้บริการสำหรับอุตสาหกรรมหนึ่งๆ หรือเนื้อหาประเภทใดประเภทหนึ่ง และอาจมีการผสานรวมกับเนื้อหาสิ่งพิมพ์หรือการเข้าถึงที่ง่ายดายสำหรับผู้สร้างเนื้อหาต่างๆ
8. Content Creation
คือ เครื่องมือที่ออกแบบมาสำหรับการสร้างเนื้อหา ไม่ว่าคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือเกี่ยวกับการนำเสนอ พอดคาสต์ การสัมมนาผ่านเว็บ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย การสร้างอินโฟกราฟิก หรือการใช้แชทบอท ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่พร้อมช่วยเหลือและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงสุด เครื่องมือต่างๆเหล่านี้ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการสร้างสรรค์ Content Marketing
9. Social Media Management
เทคโนโลยีการตลาดประเภทนี้ ช่วยให้การโพสต์ ตอบกลับ และจัดการบัญชีโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำให้สิ่งต่างๆ เป็นแบบอัตโนมัติ เช่น การโพสต์เนื้อหาเดียวกันข้ามไปยังไซต์ต่างๆ การตั้งเวลาโพสต์ และการปรับขนาดรูปภาพ เครื่องมือโซเชียลมีเดียบางตัวยังมีข้อความแนะนำสำหรับการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดลูกค้าและระบบการทำโปรไฟล์เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ติดตามของคุณคือใคร และโต้ตอบกับแบรนด์ของคุณอย่างไร
10. Social Listening
Social Listening หมายถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยในการดูในเรื่องของเมตริก (Social Media Metrics) การมีส่วนร่วม และการกล่าวถึงแบรนด์ ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือประเภทนี้ คุณจะพบคำตอบสำหรับคำถามต่างๆ เช่น “ทำไมลูกค้าถึงรู้สึกเช่นนี้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเรา” ความรู้สึกนี้เรียกว่าความรู้สึกทางโซเชียลมีเดีย การติดตาม feedback ต่างๆ จากผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของแผนการตลาด ซึ่งแบรนด์จำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมทั้งหมดเพื่อนำมาปรับปรุงแคมเปญการตลาด การบริการลูกค้า และการพัฒนาแบรนด์ต่อไป
11. Social Monitoring
หมายถึง เครื่องมือที่ช่วยให้ นักการตลาด ทำความเข้าใจลูกค้าของตนเองให้มากขึ้น อาทิ การตรวจสอบการกล่าวถึงแบรนด์ และการกล่าวถึงคู่แข่ง แฮชแท็ก และแนวโน้มต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนของแบรนด์ของคุณบนโซเชียล การติดตาม ROI และการสร้างแคมเปญการทดสอบ A/B Testing เป็นเป้าหมายหลักสองประการของการตรวจสอบโซเชียลมีเดีย นักการตลาดที่ใช้แนวทางนี้มักสนใจการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ของตน
ประโยชน์ของ Martech ที่นักการตลาดควรรู้
1. ปลดล็อกข้อมูลด้วยเครื่องมือวิเคราะห์
ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงผันผวนอย่างรวดเร็ว ข้อมูล (Data) คือ กุญแจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับธุรกิจ การเข้าถึงข้อมูลมากขึ้นกว่าเดิมทำให้นักการตลาดออนไลน์สามารถปลดล็อกข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ได้ การวิเคราะห์และการปรับแต่งคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการวิเคราะห์ จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบริษัทต่างๆ ในการเพิ่มเทคโนโลยีการตลาดของตนเพื่อใช้ข้อมูลอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงสามารถเพิ่ม ROI และประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาดได้ ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ จึงนำการวิเคราะห์มาสู่ศูนย์กลางของกระบวนการตัดสินใจเพื่อขจัดความลำเอียงและกลายเป็นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมองค์กรที่ข้อมูลสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดโซเชียลมีเดีย, SEO, PPC และการปรับแต่งอีเมลให้เป็นส่วนตัว
2. ประสิทธิภาพของการตลาดที่เพิ่มขึ้นด้วย ระบบอัตโนมัติทางการตลาด
ภารกิจหลักที่สำคัญของแบรนด์ คือ การรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในใจของผู้บริโภค เพื่อโน้มน้าวการตัดสินใจซื้อ แต่เนื่องจากโลกดิจิทัลที่วุ่นวายและรายล้อมไปด้วยการแข่งขัน การรักษาสถานะที่แข็งแกร่งกับผู้บริโภคจึงกลายเป็นงานที่ท้าทายสำหรับนักการตลาด ดังนั้นการทำการตลาดแบบอัตโนมัติจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์ในการขยายความพยายามและดึงดูดผู้บริโภคในโลกดิจิทัลให้สำเร็จ กระบวนการทางการตลาดอัตโนมัติช่วยให้นักการตลาดสามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ระบบอัตโนมัติทางการตลาดต่างๆ สามาารถช่วยเพิ่มผลผลิตของธุรกิจได้ราว 15-20 เปอร์เซ็นต์ และถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยในการเพิ่มและขยายขอบเขตของแคมเปญการตลาด ที่สำคัญคือการช่วยเพิ่มรอยเท้าของแบรนด์ (Brand Foot Print) ในโลกดิจิทัล อันนำมาซึ่ง ROI (Return of Investment) ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ระบบอัตโนมัติยังช่วยให้องค์กรสามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้ เสมอ
3. Martech ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement)
โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นช่องทางในการสื่อสารกับผู้บริโภคที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจ ทั้งในแง่ของการเชื่อมต่อกับลูกค้าและการเพิ่มยอดขาย ด้วยเครื่องมือการจัดการที่เหมาะสม การสร้างเนื้อหาใหม่ การตอบคำถามของลูกค้า และการเพิ่มแบรนด์ดูเหมือนเป็นงานที่ง่าย และทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นักการตลาดต้องพึ่งพา Martech เพื่อเติมเต็มช่องว่างในความคาดหวังของลูกค้า ทำให้การโต้ตอบกับลูกค้ากับแบรนด์บนช่องทางที่สำคัญสามารถเป็นไปโดยอัตโนมัติ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดียช่วยในการเผยแพร่และกำหนดเวลาโพสต์ เมื่อมีการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุด การรีโพสต์เนื้อหาที่มีส่วนร่วมสูงโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มการเข้าถึงและติดตามคู่แข่งเพื่อค้นหาแนวโน้มและหัวข้อล่าสุดเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดทางธุรกิจ การรับฟังทางสังคมกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับแบรนด์ในการทำความเข้าใจและวิเคราะห์สิ่งที่ผู้คนพูดถึงแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และคู่แข่งของตน ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและเป็นกลางเหล่านี้ ธุรกิจสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดและธุรกิจของตนได้ในทิศทางที่ถูฏต้องและแม่นยำ
4. ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
มีการคาดการณ์ว่านักการตลาดทั้งหลายจะมุ่งกลยุทธ์การตลาดไปที่ประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์มากขึ้นภายในอีก 2 ปี ข้างหน้า ผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่เสนอโซลูชั่นการมีส่วนร่วมที่ดี ซึ่งประสบการณ์ที่ราบรื่นกับลูกค้าถือเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจที่จะไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านการตลาดเข้ามาช่วยเนื่องจาก AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์จะช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลลูกค้าจำนวนมากเพื่อมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้บริหารการตลาดจำนวนมากได้แสดงความกังวลว่าองค์กรของพวกเขาอาจยังทำได้ไม่ดีพอเมื่อต้องมอบประสบการณ์ที่ดีที่เป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงการตอบสนองที่ช้าขององค์กรและเทคโนโลยีการตลาดที่สำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าหากไม่มี Tools และ Platform ต่างๆ มาช่วย แบรนด์ก็แทบจะไม่สามารถติดตามลักษณะที่เป็น Insight ในเส้นทางของผู้ซื้อ เนื่องจากเทคโนโลยีการตลาดที่หลากหลายจะช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและสร้างการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกรายจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและเป็นส่วนตัว
5. ช่วยปรับปรุง ROI และผลผลิต
องค์กรต่างๆ กำลังมองหาวิธีปรับปรุงกระบวนการของตนในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยความช่วยเหลือจากการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล นักการตลาดกำลังสร้างเนื้อหาดิจิทัล เช่น รูปภาพ วิดีโอ เสียง และเนื้อหาอื่นๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายทุกขั้นตอนของเส้นทางของผู้ซื้อ การสร้างห้องสมุดดิจิทัลที่เข้าถึงได้ง่ายและมีการจัดระเบียบเป็นสิ่งสำคัญเพื่อติดตามเนื้อหาดิจิทัลทั้งหมดเหล่านี้ เขื่อนกำลังช่วยนักการตลาดหลีกเลี่ยงการทำซ้ำเนื้อหาและประหยัดเวลาอันมีค่าในขณะที่ค้นหาสินทรัพย์สื่อ เทคโนโลยีการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลให้วิธีการมอบเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องสูงซึ่งมอบประสบการณ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
โดยสรุปแล้ว นักการตลาดสามารถใช้ Martech เพื่อติดตามความสำเร็จของแคมเปญการตลาด ในหัวข้อต่างๆ ต่อไปนี้
- รวบรวมข้อมูลลูกค้า
- สร้างบุคลิกของลูกค้า
- สื่อสารกับลูกค้า
- กระจายและกำหนดเวลาเนื้อหา ในหลายแพลตฟอร์ม
- ระบุและดูแลลูกค้าเป้าหมาย
- ช่วยในการติดตามการบริการลูกค้าและข้อเสนอแนะ
- ติดตามความสำเร็จของแคมเปญและคาดการณ์ส่วนสำคัญที่จะมุ่งเน้น
สรุป
Marketing Technology ได้ปฏิวัติภูมิทัศน์ทางการตลาด เพิ่มขีดความสามารถให้กับนักการตลาดด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากมายเพื่อดึงดูดลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ และบรรลุความสำเร็จทางธุรกิจ ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูล ระบบอัตโนมัติ และการปรับให้เป็นส่วนตัว นักการตลาดสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีที่มีความหมาย มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า และขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง MarTech จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยในการกำหนดอนาคตของการตลาด ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถแข่งขันได้และเติบโตในยุคดิจิทัลที่พัฒนาตลอดเวลา
แหล่งที่มา :