ทุกวันนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Instagram ถือเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอันดับต้นๆ ของทั้งผู้ใช้ทั่วไป หรือแม้แต่แบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากมัน ด้วยการเป็นเครื่องมือการตลาดที่มีคุณค่าและทรงพลังที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง ไม่เพียงช่วยให้ผู้คนได้รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการผจญภัยของเพื่อนฝูง แต่อินฟลูเอนเซอร์และธุรกิจทั้งขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กจำนวนไม่น้อยต่างเลือกใช้อินสตาแกรมเป็นเครื่องมือสำหรับการเชื่อมต่อกับผู้ชม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและการขายในที่สุด วันนี้เราจะมาเผยถึงเหตุผลสำคัญที่นักการตลาดไม่ควรพลาดการใช้แพลตฟอร์มชั้นนำนี้ในการปั้นแบรนด์ให้ปังครับ
สถิติน่ารู้เกี่ยวกับ Instagram
อินสตาแกรมเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุด มันสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้จำนวนมาก กระตุ้น Conversion และเพิ่มยอดขาย แม้ในระดับสากลอินสตาแกรมจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจาก Facebook Youtube และ WhatsApp แต่มันกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าจะถอยหลัง บริษัทแม่ของ IG คือ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook ด้วย อินสตาแกรมให้ความสำคัญกับกลุ่มประชากรที่อายุน้อยกว่า Statista แพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติเยอรมันที่เชี่ยวชาญในการรวบรวมข้อมูลและการแสดงภาพพบว่าเกือบ 60% ของผู้ใช้ อินสตาแกรม มีอายุต่ำกว่า 34 ปี และ 18.1% อยู่ระหว่าง 35 ถึง 44 ปี ธุรกิจต่างๆ สามารถดึงดูดคนรุ่นมิลเลนเนียลผ่านอินสตาแกรมและมีประสิทธิภาพสำหรับการทำการตลาดไปยัง Gen Z และกลุ่มอื่นๆ ด้วยการเข้าถึงในปัจจุบัน การตลาดบน อินสตาแกรม เป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ควรพิจารณา ต่อไปเราจะกล่าวถึงสถิติทั่วไป 3 ส่วน เกี่ยวกับอินสตาแกรม ได้แก่ การใช้งาน ข้อมูลประชากร และธุรกิจ
1. สถิติการใช้งาน Instagram
- ผู้ใช้งาน 2 พันล้านคนต่อเดือน ในเดือนตุลาคม 2022 มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ (MAU) 2 พันล้านรายต่อเดือนบน IG ซึ่งถือเป็นจำนวนไม่น้อยเมื่อพิจารณาจากขนาดของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักอื่นๆ:
– Facebook: 2.98 พันล้าน MAU
– LinkedIn: 900 ล้าน MAU
– Twitter: 238 ล้าน MAU
ที่สำคัญ IG เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแทบจะไม่สะดุด ระหว่างปี 2020 ถึง 2022 จำนวนผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นถึง 240 ล้านคน และคาดการณ์ว่าภายในปี 2568 จำนวนผู้ใช้อินสตาแกรมทั่วโลกจะสูงถึง 1.44 พันล้านคน
2. ธุรกิจกว่า 200 ล้านรายอยู่บน Instagram
ธุรกิจกำลังเฟื่องฟู ปัจจุบันมีแบรนด์มากกว่า 200 ล้านแบรนด์ที่มีสถานะ Active บน IG 71% อ้างว่าใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อธุรกิจ นอกจากนี้ ประมาณ 1 ใน 3 ของ IG Stories ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดนั้นโพสต์โดยธุรกิจต่างๆ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจต่างๆ ได้รับความสนใจอย่างมากบนอินสตาแกรม หากคุณไม่ได้ใช้บัญชี IG ธุรกิจและเครื่องมือที่มีให้ แสดงว่าคุณกำลังตามหลังคู่แข่งอยู่
3. Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมอันดับสองของ Gen Z
วัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวเป็นกลุ่มผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่มีการใช้งานมากที่สุด จากการศึกษาล่าสุดของ Morning Consult พบว่า Gen Z มากกว่าครึ่งใช้เวลาสี่ชั่วโมงขึ้นไปบนโซเชียลมีเดียทุกวัน แพลตฟอร์มที่พวกเขาชื่นชอบ ได้แก่ YouTube, IG, TikTok และ Snapchat ตามลำดับ
4. รูปภาพ และ วีดีโอ Reel กว่า 90 ล้านรายการ ถูกอัปโหลดทุกวัน
เราทุกคนทราบดีว่าเนื้อหาเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมบน IG แต่ด้วยภาพถ่ายและวิดีโอกว่า 95 ล้านรายการที่อัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกวัน การสร้างความโดดเด่นจึงเป็นงานที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
5. อินสตาแกรมเมอร์ กว่า 200 ล้านคน เข้าชมแบรนด์อย่างน้อย 1 บัญชี ทุกวัน
ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้ว สำหรับธุรกิจกว่า 200 ล้านธุรกิจบนแพลตฟอร์ม IG จะมีผู้ใช้หนึ่งคนที่เข้าชมอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน นอกจากนี้ บัญชีธุรกิจ IG ที่มีผู้ติดตามน้อยกว่า 10,000 คนมีอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 1.11% แบรนด์และธุรกิจบางแห่งใช้อินฟลูเอนเซอร์ของ IG เพื่อเข้าถึงผู้ชมเพื่อการมีส่วนร่วมที่สูงขึ้นและการเข้าถึงผู้ชมที่พวกเขาอาจไม่สามารถมีส่วนร่วมด้วยได้ ความจริงแล้ว การตลาดที่ใช้ Influencer มีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของ 17% ของงบประมาณการตลาดของนักการตลาดทั้งหมด ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีผู้มีอิทธิพลบน IG ที่ใช้งานอยู่อย่างน้อย 500,000 คน และ 55.4% ของผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ใช้ IG Stories สำหรับแคมเปญที่ได้รับการสนับสนุน เนื่องจากการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นส่วนสำคัญของการตลาดบนอินสตาแกรมครับ
6. สถิติประชากรของ Instagram
- อินเดีย มีผู้ใช้อินสตาแกรมมากที่สุดในโลก ณ เดือนพฤษภาคม 2566 มีผู้ใช้ 342,500,000 ราย ที่ใช้แอปพลิเคชันอย่างแข็งขัน หมายความว่ากว่า 24% ของประชากรอินเดียทั้งหมดใช้ IG โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายถึง 65.6% ผู้ที่มีอายุ 18 ถึง 24 ปีเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่ใหญ่ที่สุด (13,8600,000) ความแตกต่างสูงสุดระหว่างชายและหญิงเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปี โดยผู้ชายมีมากกว่า 40,800,000 คน
- สหรัฐอเมริกา มีผู้ใช้อินสตาแกรมมากเป็นอันดับสองของโลก ณ เดือนพฤษภาคม 2566 มีผู้ใช้ 176,300,000 ราย ที่ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้อย่างแข็งขัน ซึ่งหมายความว่ามากกว่า 53% ของประชากรสหรัฐทั้งหมดใช้อินสตาแกรมโดยผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 56.1% ผู้ที่มีอายุ 25 ถึง 34 ปีเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่ใหญ่ที่สุด (49,300,000) ความแตกต่างสูงสุดระหว่างชายและหญิงเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุระหว่าง 35 ถึง 44 ปี โดยที่ผู้หญิงมีมากกว่า 3,900,000 คน
7. Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ถูกใช้สำหรับการตลาดเป็นอันดับสอง
ในเดือนมกราคม 2565 IG เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่นักการตลาดใช้มากที่สุดเป็นอันดับสอง 79% ของผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดกล่าวว่าพวกเขาใช้แอปเพื่อโปรโมตธุรกิจของตน แม้ว่าความนิยมของอินสตาแกรมจะปฏิเสธไม่ได้ แต่นักการตลาดส่วนใหญ่ยังเลือก Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สำคัญที่สุด
8. อัตราการเข้าถึงของ Instagram Stories ลดลง
ระหว่างปี 2564 ถึง 2565 การเข้าถึงเรื่องราวลดลง โปรไฟล์ขนาดกลาง (ผู้ติดตามระหว่าง 50,000-200,000 คน) เผชิญกับการเข้าถึงที่ลดลงมากที่สุด หากคุณสังเกตเห็นว่าการเข้าถึง IG Stories ของคุณลดลง คุณยังคงสามารถปรับปรุงได้โดยใช้ประโยชน์จากแนวทางปฏิบัติที่ดี
9. ภาพ Carousels เข้าถึงผู้ชมได้กว้างกว่าโพสต์ที่มีรูปภาพเดียว
ในเดือนมิถุนายน ปี 2022 ภาพ Carousels ของ IG (โพสต์ที่มีรูปภาพหรือวิดีโอหลายรายการ) มีผู้ใช้ถึง 2,325 คนโดยเฉลี่ย ในการเปรียบเทียบ โพสต์รูปภาพเดียวเข้าถึงผู้ใช้โดยเฉลี่ย 1,850 คน ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความต้องการในการบริโภคเนื้อหาของผู้ใช้ และคุณสามารถใช้ตัวเลขเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางในกลยุทธ์เนื้อหาโซเชียลมีเดียของคุณได้
10. ผู้คนมาที่ Instagram เพื่อความบันเทิง แรงบันดาลใจ และการศึกษา
ผู้คนไม่ได้เข้ามาที่โปรไฟล์ IG ของคุณเพื่อซื้อ แต่พวกเขามาเพื่อความบันเทิง แรงบันดาลใจ และข้อมูล ในขณะที่ธุรกิจจำนวนมาก IG อาจไม่มีอิทธิพลต่อยอดขายโดยตรง แต่ก็สามารถทำหน้าที่เป็นช่องทางชั้นนำที่ดีซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ
สถิติเพิ่มเติม
- 9/10 แบรนด์ชั้นนำมีบัญชี IG
- หากคุณดูแบรนด์ 100 อันดับแรกของโลก 90% มีบัญชี IG
- ศักยภาพการเข้าถึงโฆษณาบน IGคือ 802 ล้าน คน
- 63% ของผู้ใช้ IG ตรวจสอบแอปอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน
- 60% ของผู้ใช้ IG ทั้งหมดค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้
- แบรนด์ได้รับ 37% ของการแสดงผลทั้งหมดจาก Stories ของพวกเขา
- โพสต์ IG ที่มีแฮชแท็กอย่างน้อยหนึ่งรายการจะได้รับการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น 12.6%
- โพสต์ที่มีแท็กสถานที่จะได้รับการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น 79%
- หนึ่งในสามของผู้ใช้ทั้งหมดทำการซื้อผ่านคุณสมบัติการช็อปปิ้งของ IG
- รูปภาพ IG ได้รับการมีส่วนร่วมสูงกว่ารูปภาพ Facebook ประมาณ 23%
- อาจต้องใช้เวลาถึง 19 ชั่วโมง กว่าที่โพสต์จะได้รับการมีส่วนร่วม 50% ของการมีส่วนร่วมทั้งหมด
ทำไมธุรกิจของคุณควรอยู่บน Instagram
เหตุผล 12 ข้อ ต่อไปนี้ จะช่วยอธิบายว่าทำไมอินสตาแกรมถึงกลายเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ
1. ผู้คนใช้ Instagram มากขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยจำนวนผู้ใช้ 2 พันล้านคนต่อเดือน อินสตาแกรม จึงเป็นที่นิยมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น นอกจากนี้ ข้อมูลของ Statista ยังแสดงให้เห็นอีกว่า 63% ของผู้ใช้ในสหรัฐฯ เข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลทุกวัน และ 97% ใช้งานเป็นรายเดือน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีขีดจำกัดสำหรับความสำเร็จที่ธุรกิจสามารถเข้าถึงด้วยกลยุทธ์เฉพาะของอินสตาแกรม
2. ธุรกิจทุกขนาดสามารถเติบโตได้บน Instagram
เนื่องจาก อินสตาแกรม มีผู้ใช้จำนวนมากที่มีความต้องการและความสนใจที่แตกต่างกัน ธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรมจึงสามารถเติบโตบนแพลตฟอร์มได้ ความสำเร็จไม่ได้มาในชั่วข้ามคืน แต่หากทีมการตลาดต้องการทำให้องค์กรของตนเป็นที่รู้จักอินสตาแกรมสามารถช่วยได้ ธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยรักษาสถานะที่กระตือรือร้นและรักษากิจวัตรประจำวันอย่างน้อยหนึ่งโพสต์ต่อวัน นี่คือวิธีที่ชื่อในครัวเรือนเช่น Coca-Cola และ Adidas รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กจำนวนหนึ่งใช้อินสตาแกรมเพื่อการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ธุรกิจสามารถสร้างรายได้จาก Instagram
มีหลายวิธีสำหรับธุรกิจในการสร้างรายได้บนอินสตาแกรม อาทิ
- การขายตรงจาก Instagram : อินสตาแกรมได้รับการพัฒนาเพื่อเปิดใช้งานการขายอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์ม แท็บร้านค้าบนหน้าแรกของอินสตาแกรมช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบและซื้อจากแบรนด์โดยตรงผ่านโปรไฟล์ โพสต์ หรือสตอรี่ของ IG
- โพสต์ที่ซื้อได้ : อินสตาแกรมเสนอโพสต์ที่ซื้อได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเพิ่มแท็กสินค้าในรูปภาพของตนด้วยลิงก์ที่มีคำอธิบายสินค้า ราคา และความสามารถในการ “ซื้อเลย” ซึ่งนำผู้ใช้ไปยังร้านค้าออนไลน์
- การเป็นพันธมิตรกับทูตตราสินค้า : ธุรกิจสามารถเป็นพันธมิตรกับทูตตราสินค้าผ่านโพสต์ที่ได้รับการสนับสนุนและการตลาดแบบพันธมิตร ความร่วมมือเหล่านี้สามารถช่วยคุณสร้างโอกาสในการขายและเพิ่มยอดขาย
4. Instagram สามารถทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น
อินสตาแกรมเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเห็นว่าคุณเป็นมากกว่าบริษัทที่ไร้ใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมสดและ IG Stories สามารถแสดงบุคลิกของแบรนด์คุณได้
- Instagram Stories : ใช้ IG Stories เพื่อแสดงภาพเบื้องหลังของบริษัทของคุณและผู้คนที่ทำงานที่นั่น ตัวอย่างบางส่วนคือวิดีโอที่แสดงวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ เรื่องราวที่แสดงปฏิสัมพันธ์ของพนักงานในสำนักงาน และชุดของโพสต์ที่แสดงให้บริษัทของคุณมีส่วนร่วมในชุมชน
- กิจกรรมถ่ายทอดสดบน IG : กิจกรรมถ่ายทอดสดบน IG Stories เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างสายสัมพันธ์ ความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือกับผู้ติดตาม คุณสามารถจัดเซสชันถามตอบแบบสดได้คล้ายกับ Facebook Live Q&A เช่นเดียวกับเรื่องราวของ IG Stories กิจกรรมสดสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทของคุณได้
5. ธุรกิจสามารถร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์
พิจารณาใช้ Influencer เพื่อสร้างแบรนด์ของคุณ พวกเขา คือ ผู้ใช้โซเชียลมีเดียระดับสูงและมีพลังสูง พร้อมผู้ติดตามจำนวนมาก พวกเขาอาจเป็นคนดังหรือผู้ใช้เฉพาะกลุ่มยอดนิยมที่โปรโมตผลิตภัณฑ์และแบรนด์ โดยมักจะนำเสนอข้อเสนอใหม่ๆ เข้าสู่กระแสหลัก ผู้มีอิทธิพลที่เชื่อถือได้สามารถนำยอดขายของบริษัทของคุณไปสู่ระดับใหม่ผ่าน ROI การตลาดดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นและการเข้าถึงข้อมูลประชากรที่คุณมักจะไม่เข้าถึง เมื่อคุณได้รับอินฟลูเอนเซอร์เพื่อทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของคุณ พวกเขาสามารถประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณไปยังผู้ติดตามนับพันหรือหลายล้านคนด้วยโพสต์เพียงไม่กี่โพสต์!
6. แฮชแท็กสามารถเพิ่มการมองเห็นของธุรกิจบน Instagram
ในฐานะธุรกิจใหม่ คุณอาจถูกคุกคามจากการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ด้วยการใช้แฮชแท็กที่เหมาะสม คุณสามารถแยกบริษัทของคุณออกจากฝูงได้ แฮชแท็กอินสตาแกรมยอดนิยม เช่น #ShareaCoke ของ Coca-Cola, ได้เขย่าวงการและกลายเป็นรากฐานสำคัญของวัฒนธรรมป๊อปที่ทำให้แบรนด์ยอดนิยมเหล่านี้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แม้ว่าบริษัทของคุณจะมีขนาดเล็ก แต่การใช้แฮชแท็กอย่างมีประสิทธิภาพสามารถสร้างความมหัศจรรย์ในการแยกธุรกิจของคุณออกจากฝูงชนได้
7. Instagram ช่วยให้ธุรกิจมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การมีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณบนโซเชียลมีเดียเป็นเป้าหมายหลักของธุรกิจการตลาดบนโซเชียลมีเดีย และ อินสตาแกรมก็เป็นแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมที่ยอดเยี่ยม ด้วย อินสตาแกรม คุณสามารถดึงดูดลูกค้าได้ทุกวันโดยให้พวกเขาแบ่งปันคำติชมและความคิดเห็นอินสตาแกรมเป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้ในการกดถูกใจ แสดงความคิดเห็น และแชร์โพสต์โปรดของพวกเขา ยิ่งโพสต์อินสตาแกรมของคุณถูกใจและแสดงความคิดเห็นมากเท่าใด บริษัทของคุณก็จะยิ่งมองเห็นได้มากขึ้นเท่านั้น คุณสามารถรับไลค์ได้มากขึ้นด้วยการถ่ายภาพคุณภาพสูง ใช้แฮชแท็กท้องถิ่น และเป็นพันธมิตรกับแบรนด์อื่นๆ
8. Instagram ช่วยให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากพลังของอุปกรณ์เคลื่อนที่
ซึ่งแตกต่างจาก Facebook และ Twitter ที่เริ่มต้นจากเว็บไซต์บนเบราว์เซอร์ อินสตาแกรมถูกสร้างขึ้นเป็นแอปมือถือ จากข้อมูลของ eMarketer (Insider Intelligence) บริษัทวิจัยตลาดพบว่าผู้ใช้มือถือใช้เวลา 88% ไปกับการใช้แอป ทำให้ อินสตาแกรมกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ใช้มือถือ ดังนั้นควรพิจารณาให้แน่ใจว่าโพสต์อินสตาแกรมของธุรกิจของคุณได้รับการปรับให้เหมาะกับหน้าจอมือถือ และการเข้าถึงผ่านมือถือเสมอ สไตล์ที่สะอาดตาของอินสตาแกรมนั้นตรงกันข้ามกับมุมมองที่ดูยุ่งเหยิงของ Facebook ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญของโพสต์อินสตาแกรมของคุณจะช่วยให้คุณขยายการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมได้
9. Instagram ช่วยให้ธุรกิจจับตาดูคู่แข่งได้
บริษัทของคุณสามารถใช้อินสตาแกรมเพื่อตรวจสอบคู่แข่งของคุณและดูว่าพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามอย่างไร ดูอย่างระมัดระวังเพื่อดูว่าพวกเขาโพสต์บ่อยแค่ไหน โพสต์อะไร และมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามอย่างไร คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อกำหนดกลยุทธ์ของคุณได้ดีขึ้นโดยเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและรับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของพวกเขา
10. Instagram มีวิธีมากมายสำหรับธุรกิจในการสร้างสรรค์
ประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมของแอปแชร์รูปภาพคือความคิดสร้างสรรค์ที่มีให้บนอินสตาแกรม ทีมการตลาดของคุณสามารถก้าวไปข้างหน้าโดยสร้างวิธีใหม่ๆ ในการดึงดูดความสนใจ เพิ่มผู้ติดตาม และเพิ่มลูกค้า
แสดงให้สาธารณชนเห็นว่าแบรนด์ของคุณมีบุคลิกเฉพาะตัวและการซื้อสินค้าร่วมกับคุณนั้นยอดเยี่ยมโดยผสมผสานกับการแข่งขันทางโซเชียลมีเดีย การตะโกน ภาพสีสันสดใส วิดีโอแบบอินเทอร์แอคทีฟ และอื่นๆ
11. ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ผ่านโฆษณาบน Instagram
ด้วยโฆษณาบนอินสตาแกรม คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ด้วยโฆษณาที่ปรับแต่งได้และติดตามได้ กำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากรเฉพาะ เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของคุณ และรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ที่มีค่าเพื่อแจ้งแคมเปญการตลาดโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของคุณ
12. ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกของ Instagram
หากคุณกำลังเริ่มต้นกลยุทธ์การตลาดบนโซเชียลมีเดียของธุรกิจ Instagram Insights สามารถให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงแก่คุณว่าผู้ติดตามของคุณคือใครและประสิทธิภาพของเนื้อหาของคุณเป็นอย่างไร ใช้ข้อมูลนี้เพื่อแจ้งให้ทราบและปรับปรุงแคมเปญการตลาดโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของคุณ ข้อมูลเชิงลึกจะให้เมตริกโซเชียลมีเดียที่สำคัญและข้อมูลเกี่ยวกับอายุ สถานที่ เวลาที่ใช้บนแอป และอื่นๆ ของผู้ติดตามของคุณ คุณยังสามารถดูว่าแต่ละโพสต์ทำงานได้ดีเพียงใดและเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์
เจาะลึก วิธีปั้นแบรนด์ให้ดังด้วย IG
ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าหรือลูกค้าของคุณอยู่บนอินสตาแกรมหรือไม่? ต้องการสร้างตัวตนที่ดึงดูดผู้ชมที่เหมาะสมมาหาคุณหรือไม่? ในส่วนต่อไป คุณจะได้เรียนรู้วิธีดึงดูดผู้ติดตามที่กลายเป็นลูกค้าที่คลั่งไคล้และบอกต่อผู้อื่นเกี่ยวกับคุณ
1. ยึดถือสไตล์ของแบรนด์เพื่อเน้นย้ำแบรนด์ในเนื้อหา
หากต้องการสร้างเนื้อหาที่ลูกค้าและแฟนๆ จดจำได้ง่ายบน IG ต่อไปนี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอ
- เสียงและน้ำเสียงของแบรนด์ : แบรนด์ของคุณมีเสียงอย่างไรเมื่อพูดกับลูกค้า เป็นมิตร มีการศึกษา ตลกขบขัน หรืออย่างอื่น?
- การใช้อีโมจิ : หากคุณใส่อีโมจิในโพสต์ของคุณ ควรทำอย่างสม่ำเสมอและทำในสไตล์เดิม เพื่อสร้างการจดจำที่แข็งแกร่ง
- การสร้างคำบรรยาย : แบรนด์ของคุณชอบใช้คำบรรยายแบบยาวที่เต็มไปด้วยการเล่าเรื่องและข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือไม่? หรือคุณเสนอคำบรรยายที่สั้นกระชับ?
ในการกำหนดมาตรฐานการมองเห็น ให้นึกถึง :
- บุคลิกภาพของแบรนด์ของคุณ : โดดเด่นและตรงไปตรงมา เป็นประโยชน์และให้ข้อมูล หรืออย่างอื่น
- สีที่สะท้อนถึงแบรนด์ของคุณ : ไม่ว่าคุณจะยืมมาจากโลโก้ของคุณหรือพัฒนารูปแบบสีสำหรับโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ ให้เลือกสีที่สอดคล้องกันเสมอ
- ความสวยงามที่ดึงดูดแบรนด์ของคุณ : พิจารณาว่าเนื้อหาของคุณมีภาพจำสำหรับลูกค้า B2B หรือรูปลักษณ์ที่น่ารักสำหรับผู้ปกครองของเด็กเล็ก หรืออะไรทำนองนั้นหรือไม่?
- แบบอักษรที่แบรนด์ของคุณใช้ : ตั้งแต่กราฟิกโพสต์ไปจนถึงภาพใน Reels และ Stories แบบอักษรใดที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ของคุณได้ดีที่สุด?
คุณสามารถทำให้ทีมงานของคุณเข้าใจตรงกันได้ โดยรวบรวมหลักเกณฑ์ทั้งหมดข้างต้นไว้ในเอกสารที่ใช้ร่วมกันเพียงฉบับเดียว หากทีมของคุณใช้เครื่องมือออกแบบเพื่อสร้างเนื้อหาโซเชียลมีเดีย ให้พัฒนาเทมเพลตที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างเช่น Canva นำเสนอชุดแบรนด์ที่บันทึกสี แบบอักษร และโลโก้ เพื่อให้คุณนำไปใช้กับเนื้อหาโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย ด้วยแอปออกแบบเวอร์ชันฟรีหรือเสียเงิน คุณยังสามารถสร้างเทมเพลตโพสต์ สตอรี่ และรีลที่ใช้ซ้ำได้ ซึ่งสะท้อนสไตล์แบรนด์ของคุณ เป็นต้น
2. ตั้งค่าโปรไฟล์ Instagram ของคุณเพื่อการรับรู้แบรนด์และการมีส่วนร่วม
การสร้างแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักบน IG ควรเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าโปรไฟล์ที่โดดเด่น ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องเน้นองค์ประกอบหลักสองส่วน ได้แก่ การแนะนำธุรกิจและเน้นทรัพยากรทั้งหมดที่ผู้คนต้องการในการเป็นลูกค้าหรือผู้สนับสนุนแบรนด์
ขั้นแรก เขียนประวัติย่อของ IG เกี่ยวกับธุรกิจของคุณแทนที่จะคัดลอกและวางบทนำของคุณจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพิ่มประสิทธิภาพชีวประวัติของคุณสำหรับ IG ใช้พื้นที่นี้เพื่อกล่าวถึงแบรนด์แม่ ผลิตภัณฑ์เรือธง และแฮชแท็กของแบรนด์ที่ช่วยให้ฐานลูกค้าของคุณรู้จักแบรนด์ของคุณได้
เลือกลิงก์ชีวประวัติ IG ของคุณอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโปรไฟล์ของคุณไม่มีสิทธิ์เข้าถึงตัวเลือกหลายลิงก์ของแพลตฟอร์ม เพิ่ม URL สำหรับหน้า Landing Page ที่เหมาะกับอุปกรณ์พกพาที่คุณออกแบบสำหรับผู้ใช้ Instagram พร้อมลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์และบริการ บล็อกโพสต์ รายการพิเศษหรือเนื้อหาเด่น และโครงการริเริ่มแบรนด์อื่นๆ
หากธุรกิจของคุณขายผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ คุณยังสามารถกำหนดค่าประวัติของคุณเพื่อแสดงร้านค้าบน IG ของคุณ ลูกค้าสามารถแตะปุ่มดูร้านค้าเพื่อเรียกดูสินค้าคงคลังของบริษัท และแตะเพื่อซื้อได้อย่างง่ายดายบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่เชื่อมโยง จากนั้น แสดงเนื้อหาที่ดึงดูดแบรนด์ของคุณได้ดีที่สุดหรือนำเสนอแคมเปญปัจจุบันของบริษัทของคุณ IG ให้คุณทำได้สองวิธี ได้แก่
- ปักหมุดโพสต์ฟีด : ได้สูงสุดสามรายการ หรือ รีลบนตาราง IG ของคุณ โพสต์ IG เหล่านี้จะปรากฏที่ด้านบนสุดของฟีดของคุณ และสามารถแสดงอะไรก็ได้ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ใหม่หรือการขายในปัจจุบัน ไปจนถึงรีวิวจากลูกค้าที่ยอดเยี่ยมหรือสิ่งที่ดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ
- ไฮไลท์เรื่องราว : ไฮไลท์เรื่องราวเหล่านี้จะปรากฏตรงหน้าฟีดของคุณ และสามารถช่วยให้ลูกค้าเข้าใจผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ ค้นหาทรัพยากร หรือเรียกดูเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC)
3. ออกแบบ Content Strategy ที่รอบรู้
ในการทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นบน IG คุณต้องมีแผนคอนเทนต์ที่มั่นคง และกำหนดการโพสต์ที่สม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้คุณโพสต์อย่างสม่ำเสมอ คู่มือสไตล์ของแบรนด์ของคุณสามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ของเนื้อหา IG ของคุณได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรครอบคลุมหัวข้อใดในเนื้อหาของคุณ มุ่งเน้นไปที่หัวข้อและแนวคิดที่ให้คุณค่าสูงสุดแก่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและลูกค้าของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณอาจสร้างการสาธิตผลิตภัณฑ์ แยกบล็อกโพสต์ที่ดีที่สุดของคุณ หรือตอบคำถามลูกค้า ด้วยเนื้อหาที่มีมูลค่าสูงแบรนด์ของคุณจะสามารถติดอยู่ในใจของผู้ติดตาม สร้างความไว้วางใจได้ง่ายขึ้น และดึงดูดฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น
ในการเพิ่มการเปิดเผยเนื้อหาของคุณ คุณต้องรู้ว่าผู้ติดตามของคุณตอบสนองอะไร และอัลกอริทึมของอินสตาแกรมนั้นชื่นชอบอะไร เมตริกทั้งสองนี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของ IG เป็นประจำ อย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อดูว่าสิ่งใดที่ใช้ได้ผลกับแบรนด์ของคุณในตอนนี้ ภาพรวมข้อมูลเชิงลึกของบัญชีของคุณจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่น คุณพบกิจกรรมใดที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหรือไม่? ระบุวันที่บัญชีของคุณสร้างการเข้าถึงหรือการมีส่วนร่วมที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย จากนั้นค้นหาเนื้อหาที่คุณเผยแพร่ในวันนั้น และระบุสิ่งที่ทำให้เนื้อหานั้นแตกต่างออกไป
นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึก เพื่อค้นหาว่าอะไรที่กระตุ้นการเข้าถึงและการมีส่วนร่วม จากแผงภาพรวม (Overview Panel) ให้แตะเพื่อดูบัญชีที่เข้าถึงหรือบัญชีที่มีส่วนร่วม จากนั้นเลื่อนลงเพื่อดูรูปแบบเนื้อหาและโพสต์ยอดนิยม เรื่องราว และสื่อต่างๆ สำหรับบัญชีของคุณ
การสร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่และน่าสนใจสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนนอกฐานผู้ติดตามปัจจุบันของคุณได้ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเผยแพร่ที่ไม่เชื่อมต่อกันอินสตาแกรมใช้สัญญาณต่างๆ เช่น การมีส่วนร่วมกับเนื้อหา ความนิยมของบัญชี และการตั้งค่าของผู้ใช้เพื่อวางโพสต์ที่แนะนำในฟีดของผู้ใช้ เมื่อคุณขยายแบรนด์และเปลี่ยนลูกค้า ให้มุ่งเน้นที่การรวบรวมและใช้ประโยชน์จากความคิดเห็น อย่าเพิ่งเก็บความคิดเห็นและคำวิจารณ์ของลูกค้าหลังจากตอบกลับแล้ว แบ่งปันกับผู้ชม IG ของคุณและปล่อยให้ลูกค้าของคุณพูดด้วยคำพูดของพวกเขาเอง
ข้อความรับรองและบทวิจารณ์ยังเป็นหลักฐานทางสังคมที่ดีซึ่งสามารถกระตุ้นผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้ต้องการ “เข้าร่วม” โดยการซื้อ นั่นหมายถึงการแชร์เนื้อหาที่ลูกค้าสร้างขึ้นอาจเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสนใจในธุรกิจของคุณมากขึ้นและเปลี่ยนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากขึ้นนั่นเอง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้แฮชแท็ก การเข้าถึง และการค้นพบของ Instagram
การเผยแพร่เนื้อหาประเภทที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างแบรนด์บน IG ด้วยการเพิ่มแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาของคุณ แบรนด์ของคุณจะมีศักยภาพในการสร้างผลกระทบต่อผู้ชมที่กว้างขึ้น แฮชแท็กทำให้เนื้อหาของคุณมีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น หากเนื้อหาของคุณทำงานได้ดี ก็มีแนวโน้มที่จะปรากฏในหน้าสำรวจและในฟีดแฮชแท็ก ดังนั้น หากคุณเพิ่มแฮชแท็กที่ถูกต้องให้กับเนื้อหาคุณภาพสูง อินสตาแกรมอาจจัดลำดับความสำคัญของการแสดงแฮชแท็กให้กับผู้ใช้ที่ติดตามหรือมีส่วนร่วมกับแฮชแท็กเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม การสร้างเนื้อหาที่ผู้ชมชื่นชอบควรมีความสำคัญสูงสุดสำหรับการสร้างแบรนด์เสมอ แต่การเพิ่มแฮชแท็กของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยเพิ่มการรับรู้ในขณะที่เพิ่มโอกาสในการค้นพบ
วิธีง่ายๆ ในการติดตามผลลัพธ์ของแฮชแท็กและกำหนดว่าผู้คนค้นหาเนื้อหาของคุณอย่างไรคือการใช้ข้อมูลเชิงลึกของโพสต์บน Instagram เลือกโพสต์ที่เผยแพร่แล้วเลื่อนลงเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าถึง ที่นี่ คุณสามารถดูจำนวนผู้ที่พบเนื้อหาของคุณผ่านแฮชแท็ก หน้าสำรวจ ฟีดหลักของพวกเขา และแหล่งที่มาอื่นๆ
นอกจากนี้ เมื่อคุณเผยแพร่ Reels การใช้ฟีเจอร์หัวข้อของ Instagram ก็มีประโยชน์เช่นกัน ระหว่างเวิร์กโฟลว์การเผยแพร่ คุณสามารถเพิ่มหัวข้อได้สูงสุดสามหัวข้อในแต่ละรีล ด้วยการเพิ่มบริบทลงในวิดีโอแบบสั้น คุณสามารถช่วยแพลตฟอร์มในการเผยแพร่เนื้อหาของคุณไปยังผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องได้
4. เป็นพันธมิตรกับแบรนด์เสริม
แม้ UGC มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อเสียบางอย่าง เช่น แบรนด์ของคุณไม่สามารถควบคุมเนื้อหาในส่วนนี้ได้ และคุณอาจประสบปัญหาในการจัดหาแหล่งที่มาให้เพียงพอ หากคุณเพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์ และต้องการสร้างกระแสที่มุ่งเน้นมากขึ้นเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ หนทางที่ดีคือร่วมมือกับ Influencer หรือแบรนด์อื่นๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายทับซ้อนกันหรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะกลุ่มของคุณ คุณสามารถทำงานร่วมกับพวกเขาเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่ดึงดูดผู้ชมของผู้มีอิทธิพลและแสดงความคิดริเริ่มในปัจจุบันของแบรนด์ของคุณ
หากต้องการค้นหาเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสม ให้เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ผู้ชมที่มีอยู่ของคุณ ผู้ติดตามของคุณบางคนแสดงความคิดเห็นในทุกสิ่งที่คุณโพสต์หรือมีสิ่งดีๆ พูดถึงแบรนด์ของคุณอยู่เสมอหรือไม่? ยืนยันศักยภาพการเป็นพันธมิตรโดยประเมินขนาดผู้ชมและรูปแบบเนื้อหา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้การค้นหาแฮชแท็กของ อินสตาแกรมเพื่อค้นหาพันธมิตรแบรนด์ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นทำงานร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ของคุณเพื่อแท็กโพสต์โดยใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันในตัวของ IG ใช้ตัวเลือกเชิญผู้ทำงานร่วมกัน เพื่อข้ามโพสต์ (Cross Posting) เนื้อหาไปยังบัญชีทั้งสองของคุณและเพิ่มการเข้าถึงสูงสุด
สำหรับการเป็นหุ้นส่วนแบบชำระเงิน ผู้มีอิทธิพลควรใช้เครื่องมือเนื้อหาที่มีตราสินค้าเพื่อแท็กบัญชีของคุณ ในอนาคตอันใกล้คุณอาจสามารถค้นหาและเชื่อมต่อกับผู้สร้างโดยใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันของ อินสตาแกรม เพื่อลดความซับซ้อนของพาร์ทเนอร์อินฟลูเอนเซอร์ได้
5. โปรโมตบัญชีของคุณผ่านช่องทางต่างๆ
หากต้องการขยายการเข้าถึงของคุณให้ดียิ่งขึ้นและดึงดูดผู้ชมนอกอินสตาแกรม ให้ใช้เครื่องมือการแชร์ในตัวของแพลตฟอร์ม เพื่อเข้าถึงผู้คนบนทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่คุณใช้ ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ คุณสามารถสร้างลิงก์หรือคิวอาร์โค้ดสำหรับเนื้อหาแทบทุกประเภท รวมถึงโพสต์ เรื่องเด่น และโปรไฟล์ของคุณ
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถแชร์คิวอาร์โค้ดสำหรับ Reels ยอดนิยมกับลูกค้าในร้านค้าเพื่อให้แนวคิดดีๆ สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ คุณสามารถแชร์รหัส QR ในกิจกรรมแบบตัวต่อตัวเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ชมของคุณ คุณยังสามารถแชร์เนื้อหาไปยังโปรไฟล์โซเชียลอื่นๆ ของแบรนด์คุณได้โดยตรง ซึ่งจะมีประโยชน์หากคุณเผยแพร่เนื้อหาพิเศษบนอินสตาแกรม หากต้องการรับลิงก์หรือคิวอาร์โค้ดสำหรับโพสต์ทั่วไป Reels Stories และ Highlight ให้แตะจุดสามจุดเพื่อเปิดเมนูเนื้อหา เลือก QR Code เพื่อรับลิงก์หรือแชร์ไปยังช่องทางโซเชียลอื่นทันที หรือหากต้องการสร้าง QR สำหรับบัญชีของคุณ ให้เปิดที่การตั้งค่าบัญชีของคุณแล้วเลือกรหัส QR จากเมนู
แหล่งที่มา :
