Pantone – ในแต่ละปีจะมีการประกาศสีแห่งปีจากแพนโทน ซึ่งในปี 2024 ก็ได้มีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขอบเขตของการออกแบบ ศิลปะ และการสื่อสารด้วยภาพ คำว่า “Pantone” นั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงพลังที่แพร่หลายและมีอิทธิพลไปทั่วโลก โดยเฉพาะในแวดวงของนักออกแบบ และแบรนด์ต่างๆ แล้วแพนโทนคืออะไร? และเหตุใดจึงมีความสำคัญในโลกแห่งสีสันที่หลากหลายนี้? วันนี้ Talka จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจในประเด็นนี้ให้ดียิ่งขึ้นไปพร้อมกันครับ
Pantone คืออะไร?
ระบบสี Pantone หรือ PMS เป็นระบบจับคู่สีมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเครื่องพิมพ์และนักออกแบบในการระบุและควบคุมสีสำหรับงานพิมพ์ ระบบสีแพนโทนช่วยให้คุณสามารถระบุสีที่ไม่สามารถผสมใน CMYK แบบดั้งเดิมได้ กล่าวคือ ระบบสี CMYK นั้นเป็นกระบวนการสีที่ใช้ฐานสี 4 สี ได้แก่ ฟ้า ม่วงแดง เหลือง และดำเป็นโมเดลสีที่ใช้ในการพิมพ์สี
ในความหลากหลายของการออกแบบ และความคิดสร้างสรรค์ สี คือสิ่งที่มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดอารมณ์ การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ และสร้างประสบการณ์การมองเห็นที่น่าจดจำ ท่ามกลางเฉดสีมากมายหลายล้านเฉด มีชื่อหนึ่งที่โดดเด่นในฐานะภาษาสากลสำหรับการสื่อสารด้วยสี นั่นคือแพนโทน ตั้งแต่แฟชั่นและการออกแบบกราฟิกไปจนถึงการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอื่นๆ อีกมากมายแพนโทนได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความแม่นยำและความสม่ำเสมอของสี
Pantone Matching System (PMS) ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 60 โดย Lawrence Herbert วัตถุประสงค์คือเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่มีอยู่ในการสื่อสารด้วยสี ก่อนการถือกำเนิดของแพนโทนนักออกแบบและผู้ผลิตล้วนต้องเผชิญกับความไม่สอดคล้องกันในการสร้างสีอันเนื่องมาจากความแปรผันของกระบวนการพิมพ์ หมึก และวัสดุ เมื่อระบบสีนี้เกิดขึ้นทำให้นักออกแบบสามารถจับคู่สีที่ต้องการได้ โดยไม่คำนึงถึงกระบวนการที่ใช้ในการผลิต สิ่งนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถกำหนดสีที่แน่นอนให้กับแบรนด์ของตนได้ โดยมั่นใจว่าสีจะเข้ากันอย่างลงตัวกับทุกการใช้งาน แต่ละสีในระบบการจับคู่แพนโทนจะมีหมายเลขเฉพาะของตัวเอง (หมายเลข PMS) ซึ่งช่วยให้สามารถจับคู่แบบตรงทั้งหมดได้ทุกครั้ง
ระบบการจับคู่สี
หัวใจสำคัญของอิทธิพลของแพนโทน คือ Pantone Matching System ซึ่งเป็นระบบระบุสีและจับคู่สีที่ครอบคลุมที่สร้างมาตรฐานสีในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ละสีในระบบนั้นได้รับการกำหนดรหัสตัวอักษรและตัวเลขที่ไม่ซ้ำกัน ช่วยให้สามารถสื่อสารและจำลองสีได้อย่างแม่นยำ สถาบันสีแพนโทนซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแบรนด์ ทุ่มเทให้กับการวิจัยและคาดการณ์แนวโน้มสี ซึ่งมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่แฟชั่นและการออกแบบภายใน ไปจนถึงการตลาดและการสร้างแบรนด์
แพนโทนในการออกแบบและการสร้างแบรนด์
นักออกแบบและนักวางกลยุทธ์ด้านแบรนด์ทั่วโลกไว้วางใจแพนโทนในความสม่ำเสมอของสีบนสื่อและวัสดุต่างๆ ระบบ แพนโทนเป็นเสมือนภาษาสากลของนักออกแบบและผู้ผลิตในการพูดคุยและเลือกใช้สีอย่างถูกต้อง ช่วยส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับภาษาภาพที่ตั้งใจไว้ ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแบรนด์ โดยที่การรักษาชุดสีที่สม่ำเสมอถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจดจำแบรนด์และความไว้วางใจของผู้บริโภค แบรนด์หลักๆ มักระบุสีแพนโทนในคู่มือเกี่ยวกับสไตล์ของตน เพื่อให้มั่นใจว่าโลโก้และเนื้อหาด้านภาพของตนได้รับการทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอในแอปพลิเคชันต่างๆ ที่หลากหลาย
แพนโทนในการออกแบบแฟชั่น
ในโลกแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทรนด์สีจะพัฒนาไปในแต่ละฤดูกาล และการก้าวนำหน้านั้นต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภค แพนโทนมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยมีอิทธิพลต่อเทรนด์สีผ่านรายงานแนวโน้มสีแฟชั่นปีละสองครั้ง นักออกแบบและบริษัทแฟชั่นต่างมองหาคำแนะนำจาก แพนโทน เกี่ยวกับสีที่จะครองรันเวย์และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง สี แพนโทนแห่งปี ซึ่งประกาศเป็นประจำทุกปี ช่วยเพิ่มรูปทรงให้กับดีไซน์และเทรนด์แฟชั่น ซึ่งส่งผลต่อทุกสิ่งตั้งแต่เสื้อผ้าและเครื่องประดับไปจนถึงของตกแต่งบ้าน
แพนโทนในศิลปะและวัฒนธรรม
ผลกระทบของแพนโทนนั้นขยายไปไกลกว่าการใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยแทรกซึมอยู่ในอาณาจักรแห่งศิลปะและวัฒนธรรม ศิลปินและนักสร้างสรรค์นำสีแพนโทนมาใช้ในงานของตน โดยนำระบบที่ได้มาตรฐานมาเป็นเครื่องมือในการแสดงสีที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศสีแพนโทนแห่งปี ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม ที่สะท้อนและมีอิทธิพลต่อกระแสและอารมณ์ของสังคม ตั้งแต่งานศิลปะ ไปจนถึงพื้นที่สาธารณะ สีแพนโทนยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนภูมิทัศน์ที่ไม่อาจลบเลือนได้
ประโยชน์ของการใช้ระบบสีแพนโทน
ในโลกแห่งการออกแบบที่ไม่หยุดนิ่ง ที่ซึ่งสีสันเป็นเสมือนตัวเล่าเรื่องที่ปราศจากเสียงและอัตลักษณ์ของแบรนด์ถือกำเนิดขึ้น ได้มีการค้นพบโลกที่ความสม่ำเสมอ ความแม่นยำ และการสื่อสารมาบรรจบกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ไปจนถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ นั้นคือการถือกำเนิดของระบบสีแพนโทน ที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเร่งในการยกระดับสุนทรียภาพในการออกแบบและส่งเสริมความเข้าใจที่เป็นสากลเกี่ยวกับสี ทุกวันนี้ระบบสีแพนโทนนั้นมอบคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งทำให้กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งต่อไปนี้เป็นข้อดีที่สำคัญบางประการของการใช้ระบบสี แพนโทนครับ
1. ความสม่ำเสมอของสี
แพนโทนมีระบบจับคู่สีที่ได้มาตรฐานสูง เพื่อให้มั่นใจถึงความสอดคล้องกันของวัสดุ สื่อ และกระบวนการต่างๆ ความสม่ำเสมอนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกแบบโลโก้และการสร้างแบรนด์ขององค์กร ซึ่งการจำลองสีที่แม่นยำถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
2. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
รหัสสีแพนโทน ถือเป็นภาษาสากลสำหรับนักออกแบบ เครื่องพิมพ์ ผู้ผลิต และลูกค้า ระบบที่ได้มาตรฐานนี้อำนวยความสะดวกในการสื่อสารที่ชัดเจนและแม่นยำเกี่ยวกับสีเฉพาะ ลดโอกาสที่จะตีความหมายผิดและข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิต
3. ความผันแปรของสีที่ลดลง
ก่อนที่จะมีการใช้แพนโทนอย่างแพร่หลาย ความแปรปรวนของสีถือเป็นความท้าทายที่พบบ่อยในการพิมพ์และการผลิต อย่างไรก็ตามระบบจับคู่แพนโทนช่วยลดความผันแปรเหล่านี้ให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้และทำซ้ำได้เพื่อให้ได้สีที่ต้องการในการใช้งานต่างๆ
4. กระบวนการออกแบบที่คล่องตัว
นักออกแบบสามารถปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของตนได้โดยใช้สีแพนโทน ด้วยการเลือกและระบุสีแพนโทนในการออกแบบ พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการปรับสีที่ใช้เวลานานในระหว่างขั้นตอนการพิมพ์หรือการผลิต ประสิทธิภาพนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องคำนึงถึงเวลา เช่น แฟชั่นและการออกแบบผลิตภัณฑ์
5. ส่งเสริมการรับรู้ถึงแบรนด์
สำหรับธุรกิจ การรักษาความสมบูรณ์ของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง สีแพนโทน กลายเป็นส่วนสำคัญของเอกลักษณ์ของแบรนด์ และการใช้สื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น บรรจุภัณฑ์ สื่อส่งเสริมการขาย และเนื้อหาออนไลน์ ช่วยเสริมการรับรู้ถึงแบรนด์และความไว้วางใจในหมู่ผู้บริโภค
6. การพยากรณ์แนวโน้มสี
สถาบันสีแพนโทนให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับแนวโน้มสีผ่านการวิจัยและการพยากรณ์จากผู้เชี่ยวชาญ นักออกแบบและธุรกิจสามารถก้าวนำหน้าด้วยการผสมผสานแนวโน้มเหล่านี้เข้ากับโครงการสร้างสรรค์ของตน เพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบของพวกเขาจะสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน
7. ความคล่องตัวในอุตสาหกรรมต่างๆ
ความอเนกประสงค์ของแพนโทน ทำให้สามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้หลากหลาย อาทิ การออกแบบกราฟิก แฟชั่น การออกแบบภายใน การผลิตผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ ความสามารถในการปรับตัวข้ามภาคส่วนที่หลากหลายเหล่านี้ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับมืออาชีพที่กำลังมองหาความแม่นยำของสี
8. การเข้าถึงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
แม้ว่าอิทธิพลของแพนโทนนั้นจะสัมผัสได้ทั่วโลก แต่ธุรกิจขนาดเล็กและนักออกแบบอิสระก็สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน คู่มือสีแพนโทนและหนังสือสวอตช์แพนโทน นั้นมีจำหน่ายในราคาต่างๆ ช่วยให้องค์กรเล็กๆ ได้รับประโยชน์จากข้อดีของระบบสีนี้
9. การจับคู่สีที่มีประสิทธิภาพ
แพนโทนช่วยให้กระบวนการจับคู่สีง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานกับเทคโนโลยีการพิมพ์ วัสดุพิมพ์ หรือวัสดุที่แตกต่างกัน ประสิทธิภาพนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่การสร้างสีต้องอาศัยความแม่นยำสูง เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์และการผลิตผลิตภัณฑ์
10. เป็นมาตรฐานสากล
ในฐานะมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับและยอมรับทั่วโลก แพนโทนได้จัดเตรียมภาษากลางสำหรับสีข้ามพรมแดน มาตรฐานนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเข้าถึงในระดับสากล ทำให้มั่นใจได้ว่าสีจะยังคงสม่ำเสมอไม่ว่าการผลิตหรือการออกแบบจะเกิดขึ้นที่ใด
โดยสรุปแล้ว ประโยชน์ของระบบสีแพนโทนนั้นมีมากกว่าแค่การจับคู่สีเท่านั้น แต่ ผลกระทบที่มีต่อการออกแบบ การสร้างแบรนด์ และอุตสาหกรรมต่างๆ นั้นได้ตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะรากฐานที่สำคัญในโลกแห่งสี ซึ่งมีส่วนทำให้ภาพมีความสม่ำเสมอ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์
Pantone 2024
ล่าสุดสถาบันสีแพนโทน หรือ Pantone Color Institute ได้ประกาศ สีแห่งปี 2024 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่ สี Peach Fuzz (โค้ด PANTONE 13-1023) ซึ่งเป็นสีพีชโทนอุ่นที่อ่อนโยนราวกับกำมะหยี่ ที่สื่อถึงจิตวิญญาณที่โอบรับทุกด้าน ช่วยเติมเต็มหัวใจ จิตใจและร่างกาย ให้ความนุ่มนวลพร้อมสัมผัสถึงอ้อมกอดอันอบอุ่น ผู้เชี่ยวชาญของแพนโทน ให้ข้อมูลถึงการเลือกสีในปี 2024 ว่าจะต้องเป็นสีที่สื่อถึงความปราถนาในการใกล้ชิดกับผู้คนที่เรารักทั้งญาติสนิทมิตรสหาย และแม้จะอยู่เพียงลำพังก็ยังสามารถมีความสุขไปกับความรู้สึกนั้นได้
Peach Fuzz เป็นสีพีชจากใจ ที่ให้ความรู้สึกถึงความเมตตาและความอ่อนโยน สื่อถึงข้อความแห่งความห่วงใยและการแบ่งปัน ชุมชน และการทำงานร่วมกัน เป็นเฉดสีที่อบอุ่นและสบาย เน้นความปรารถนาของเราในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น หรือเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสงบ ปลุกประสาทสัมผัสให้รู้สึกถึงสัมผัสที่ปลอบโยนและอบอุ่น ละเอียดอ่อนแต่อ่อนหวานและโปร่งสบาย นอกจากนี้ยังปลุกเร้าความทันสมัย แม้จะเน้นไปที่ประสบการณ์ของมนุษย์ในการเติมเต็มและบำรุงจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ แต่ก็ยังเป็นสีพีชที่มีความซับซ้อนและร่วมสมัยแฝงอยู่อย่างสุขุมนุ่มลึก ช่วยให้ดูเรียบง่ายแต่ทรงพลังที่พร้อมนำความงดงามมาสู่โลกดิจิทัล โทนสีพีชที่สะอาดตาพร้อมกลิ่นอายวินเทจ ทำหน้าที่สะท้อนถึงอดีตได้อย่างลงตัว แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยบรรยากาศร่วมสมัย
ซึ่งก่อนที่จะได้สีแห่งปี 2024 ผู้เชี่ยวชาญด้านสีของแพนโทน ได้วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ มากมาย โดยไม่นับเอาความชื่นชอบส่วนตัวใส่ลงในการตัดสิน ซึ่งปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์นั้นค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบของดีไซเนอร์ ชิ้นงานศิลปะต่างๆ ของศิลปิน ตลอดจนวงการบันเทิงและภาพยนตร์ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของผู้คน รวมไปถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และสภาพเศรษฐกิจและสังคม
แหล่งที่มา :
