Netflix จากร้านเช่าหนัง สู่แพลตฟอร์ม Streaming ระดับโลก พวกเขาทำได้อย่างไร?

Netflix
ทุกวันนี้อะไรๆ ก็ต่างพึ่งพา Streaming มากขึ้นทุกวัน ทั้งการช้อปปิ้ง การประชุม การศึกษา และความบันเทิง ซึ่งถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำของโลก หนึ่งในนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Netflix ที่เชื่อว่าพวกเราหลายคนรู้จักดี อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาทำความรู้จักพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น ย้อนไปดูถึงประวัติความเป็นมาตลอดจนเส้นทางสู่ความสำเร็จของพวกเขาว่ามีจุดเริ่มต้นและมีพัฒนาการไปอย่างไร รวมถึงส่องกลยุทธ์เด็ดต่างๆ ที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำของโลกครับ
 

Netflix คืออะไร?

Netflix คืออะไร?

Netflix คืออะไร? ใครไม่รู้ต้องรู้แล้ว!

Netflix คือ บริการสตรีมมิ่งวิดีโอที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งให้ผู้ใช้เข้าถึงภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่หลากหลายได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดหรือเช่าภาพยนตร์แบบเดิมๆ บริการนี้เริ่มต้นในปี 1997 โดย Reed Hastings และ Marc Randolph ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในช่วงแรกเน็ตฟลิกซ์ ให้บริการเช่าดีวีดีทางไปรษณีย์ แต่ในปี 2007 ได้เปลี่ยนแนวทางไปสู่การให้บริการสตรีมมิ่งออนไลน์ ซึ่งนี่เองที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเติบโตของบริษัท จนเป็นบริการวิดีโอออนดีมานด์ที่มีผู้สมัครสมาชิกมากที่สุดทั่วโลก โดยในปี 2024 เน็ตฟลิกซ์ มีสมาชิกที่ชำระเงินประมาณ 282.7 ล้านคนในกว่า 190 ประเทศ ปัจจุบันเน็ตฟลิกซ์พัฒนาและยกระดับตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการภาพยนตร์ รายการทีวี และเนื้อหาต้นฉบับมากมายแก่ผู้ชมตามต้องการ

ความเป็นมาของ Netflix

ความเป็นมาของ Netflix

ความเป็นมาของ Netflix

เน็ตฟลิกซ์เริ่มต้นจากบริการเช่าดีวีดีธรรมดาๆ จนกลายมาเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่งระดับโลกได้อย่างในปัจจุบัน เรียกได้ว่าพวกเขาปฏิวัติวงการได้อย่างสิ้นเชิง เรื่องราวความเป็นมาของพวกเขานั้นมีหลายมุมที่น่าสนใจซึ่งเรามาติดตามไปพร้อมกันในส่วนนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันครับ
 

1. การก่อตั้งและช่วงเริ่มต้น (1997-2006)

  • จุดเริ่มต้น
เน็ตฟลิกซ์ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 1997 โดย Reed Hastings และ Marc Randolph ใน Scotts Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย รีด เล่าว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากการถูกปรับค่าคืนวีดีโอเกินกำหนดของร้านเช่าวิดีโอ Blockbuster (ร้านเช่าวิดีโอที่โด่งดังในยุคนั้น) ค่าปรับเล็กน้อยนี้กระตุ้นให้เขาคิดถึงการสร้างระบบที่ไม่มี “ค่าปรับล่าช้า” (No Late Fee) และให้ผู้บริโภคเข้าถึงภาพยนตร์ได้ง่ายกว่าเดิม
 
  • การเปิดตัว
ในช่วงแรก เน็ตฟลิกซ์ดำเนินธุรกิจในลักษณะการเช่าและส่งแผ่น DVD ทางไปรษณีย์ ผู้ใช้งานสามารถเลือกภาพยนตร์ที่ต้องการจากเว็บไซต์ของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมบันเทิง หลังจากเลือกเสร็จ แผ่น DVD จะถูกส่งไปยังบ้านของลูกค้าผ่านทางไปรษณีย์ จุดเด่นของเน็ตฟลิกซ์ ในยุคนี้คือ ไม่มีค่าปรับการส่งคืนล่าช้า ลูกค้าสามารถเก็บแผ่น DVD ได้นานเท่าที่ต้องการ และคืนเมื่อสะดวก และ ใช้การสมัครสมาชิกแบบเหมาจ่าย เน็ตฟลิกซ์แนะนำโมเดลการสมัครสมาชิกรายเดือนในปี 1999 ซึ่งผู้ใช้สามารถเช่าแผ่น DVD ได้ไม่จำกัดจำนวนในแต่ละเดือน
 

2. การเปลี่ยนสู่ Streaming (2007-2012)

  • การเปิดตัวการสตรีม
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเน็ตฟลิกซ์ เกิดขึ้นในปี 2007 เมื่อบริษัทเปิดตัวบริการ “สตรีมมิ่ง” ซึ่งเป็นการชมภาพยนตร์และซีรีส์ผ่านอินเทอร์เน็ตแบบออนไลน์ โดยไม่ต้องพึ่งพาแผ่น DVD อีกต่อไป เน็ตฟลิกซ์เลือกใช้โมเดลนี้เนื่องจากเล็งเห็นถึงการเติบโตของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มชอบการเข้าถึงเนื้อหาแบบทันทีทันใด
 
  • การขยายตัว
ในปี 2010 เน็ตฟลิกซ์ได้เปิดตัวแผนบริการสตรีมอย่างเดียวเป็นครั้งแรก บริษัทได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกโดยเริ่มจากละตินอเมริกาในปี 2011 จากนั้นจึงขยายไปสู่ยุโรปในปี 2012 ในเวลานี้ บริษัทได้กลายเป็นแหล่งที่มาของปริมาณการสตรีมทางอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
 
  • เนื้อหาต้นฉบับ
ในปี 2013 เน็ตฟลิกซ์เริ่มผลิตโปรแกรมต้นฉบับด้วยรายการต่างๆ เช่น House of Cards และ Orange is the New Black ซึ่งได้รับคำชมเชยและรางวัลมากมาย การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้บริษัทมีตำแหน่งที่มั่นคงในฐานะผู้เล่นหลักในการสร้างเนื้อหา
 

3. การครองตลาด (2013-ปัจจุบัน)

  • เข้าถึงทั่วโลก

เน็ตฟลิกซ์เป็นหนึ่งในบริการสตรีมมิ่งชุดแรกที่เปิดตัวทั่วโลก ทำให้สามารถดึงดูดฐานสมาชิกที่หลากหลายได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ณ เดือนมีนาคม 2024 เน็ตฟลิกซ์รายงานจำนวนสมาชิกที่สำคัญจากภูมิภาคต่างๆ 82.66 ล้านคนในอเมริกาเหนือ 91.73 ล้านคนในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) และเติบโตอย่างมากในละตินอเมริกาและเอเชียแปซิฟิก ในปี 2016 เน็ตฟลิกซ์ เปิดให้บริการทั่วโลก (ยกเว้นในประเทศจีน) โดยมีสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน บริษัทได้ลงทุนอย่างหนักในเนื้อหาต้นฉบับเพื่อดึงดูดและรักษาผู้ชมท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ เช่น Amazon Prime Video และ Hulu25

 
  • การเติบโตของสมาชิก
การระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้คนหันมาใช้ความบันเทิงภายในบ้านในช่วงล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางปี ​​2023 เน็ตฟลิกซ์ เผชิญกับความท้าทาย เช่น การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากแพลตฟอร์มอย่าง Disney+ และ HBO Max เพื่อตอบสนองต่อเรื่องนี้ บริษัทได้นำมาตรการต่างๆ เช่น “การปราบปรามรหัสผ่าน” มาใช้เพื่อลดการแชร์บัญชีและเพิ่มจำนวนสมาชิก
 
  • สถานะปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของเน็ตฟลิกซ์ที่เน้นการแก้ปัญหาค่าปรับล่าช้า ได้กลายเป็นรากฐานของบริษัทที่สามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างมหาศาล เน็ตฟลิกซ์ไม่เพียงแต่สร้างการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการเข้าถึงเนื้อหา แต่ยังพัฒนาระบบแนะนำเนื้อหา (Recommendation System) เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ชม ด้วยความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน เน็ตฟลิกซ์จึงกลายเป็นตัวอย่างของการปรับตัวและความสำเร็จในยุคดิจิทัล ณ ต้นปี 2023 เน็ตฟลิกซ์รายงานว่ามีสมาชิกที่ชำระเงินประมาณ 232 ล้านคนทั่วโลก รายได้พุ่งสูงจาก 1.36 พันล้านดอลลาร์ในปี 2007 เป็นมากกว่า 26 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 แม้จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ จากคู่แข่งและพฤติกรรมการรับชมที่เปลี่ยนไป แต่ เน็ตฟลิกซ์ยังคงเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง

 
การเดินทางของเน็ตฟลิกซ์จากบริการเช่าดีวีดีสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมในภาคส่วนความบันเทิง ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคทำให้เน็ตฟลิกซ์ สามารถรักษาความเกี่ยวข้องและเติบโตต่อไปในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ การที่บริษัทให้ความสำคัญกับเนื้อหาต้นฉบับไม่เพียงแต่กำหนดเทรนด์เท่านั้น แต่ยังปรับเปลี่ยนวิธีการบริโภคสื่อทั่วโลกอีกด้วย

ส่อง 7 กลยุทธ์เด็ด Netflix

ส่อง 7 กลยุทธ์เด็ด Netflix

เน็ตฟลิกซ์ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำระดับโลก โดยมีสมาชิกที่ชำระเงินประมาณ 270 ล้านคนในช่วงต้นปี 2024 ความสำเร็จนี้สามารถอธิบายได้ด้วยการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์ การนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลาย และความสามารถในการปรับตัวตามแนวโน้มของตลาด

1. Netflix สร้างเนื้อหาที่เป็นต้นฉบับ

ในช่วงแรก เน็ตฟลิกซ์พึ่งพาข้อตกลงการอนุญาตสิทธิ์กับสตูดิโออื่นๆ อย่างมากสำหรับเนื้อหา อย่างไรก็ตาม เมื่อการแข่งขันรุนแรงขึ้นและต้นทุนการอนุญาตสิทธิ์เพิ่มขึ้นเน็ตฟลิกซ์จึงหันมาผลิตเนื้อหาต้นฉบับ โดยเป็นหนึ่งในบริการสตรีมมิ่งรายแรกๆ ที่ลงทุนอย่างหนักในเนื้อหาต้นฉบับ โดยพวกเขาเริ่มลงทุนในการผลิตเนื้อหาต้นฉบับตั้งแต่ปี 2013 ด้วยซีรีส์ House of Cards ซึ่งสร้างความสนใจและดึงดูดผู้สมัครสมาชิกใหม่อย่างมาก การผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงช่วยให้เน็ตฟลิกซ์สามารถควบคุมโปรแกรมของตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสตูดิโอภายนอก การสร้างสรรค์เนื้อหาต้นฉบับถือเป็นรากฐานสำคัญของกลยุทธ์ของเน็ตฟลิกซ์ ในตลาดโลก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการเป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ไปสู่การเป็นผู้ผลิตรายการที่เป็นเอกลักษณ์ชั้นนำ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เน็ตฟลิกซ์สามารถสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองท่ามกลางตลาดสตรีมมิ่งที่มีการแข่งขันสูง และสร้างฐานสมาชิกที่ภักดี

ผลงานต้นฉบับของเน็ตฟลิกซ์ มีผลกระทบต่อวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง โดยมักจะกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก รายการอย่าง “Stranger Things,” “The Crown” และ “Squid Game” ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ชมได้จำนวนมากเท่านั้น แต่ยังหล่อหลอมวัฒนธรรมยอดนิยมในภูมิภาคต่างๆ อีกด้วย

2. Netflix ปรับตัวเข้ากับตลาดท้องถิ่น

Netflix ใช้กลยุทธ์การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและรสนิยมของผู้ชมในแต่ละประเทศ เช่น การสร้างซีรีส์ Darkในเยอรมนี และ Sacred Games ในอินเดีย เพื่อดึงดูดผู้ชมในตลาดเหล่านั้น  ด้วยการลงทุนในเนื้อหาในท้องถิ่นที่เข้าถึงผู้ชมหลากหลายเน็ตฟลิกซ์ จึงสามารถขยายการเข้าถึงในตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ชมในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังสร้างเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใครที่สามารถทำการตลาดได้ทั่วโลก ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของเน็ตฟลิกซ์ทั่วโลกสำหรับในประเทศไทย เน็ตฟลิกซ์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการผลิตเนื้อหาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมไทย โดยการจ้างทีมงานคนไทยในการเขียนบทและกำกับ เช่น ผลงาน The Lost Lotteries และ Hunger ที่ได้รับความนิยมในไทย

3. Netflix ร่วมมือกับผู้ผลิตท้องถิ่น

ความร่วมมือกับผู้ผลิตในท้องถิ่นถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของเน็ตฟลิกซ์ ที่ปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาและดึงดูดผู้ชมจากทั่วโลก แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ทำให้แคตตาล็อกของแพลตฟอร์มมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อีกด้วย

ในประเทศไทยเน็ตฟลิกซ์ได้นำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้เพื่อร่วมมือกับผู้ผลิตในท้องถิ่น ซึ่งรวมถึง การผลิตซีรีส์ในท้องถิ่น โดยได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตในไทยเพื่อสร้างเนื้อหาต้นฉบับที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ชมชาวไทย ตัวอย่างเช่น ซีรีส์เรื่อง “Don’t Come Home” ซึ่งผลิตร่วมกับ Hub Ho Hin Bangkok นำเสนอเรื่องราวและความสามารถของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังร่วมมือในการจัดจำหน่ายเนื้อหากับผู้ให้บริการทีวีดิจิทัลของไทยในการออกอากาศละครยอดนิยม เช่น “จักรพรรดินีแห่งอโยธยา” ทางช่อง One31 และ “Dare to Love” ทางช่อง 3 ซึ่งความร่วมมือนี้ช่วยให้สามารถจัดจำหน่ายเนื้อหาของไทยได้กว้างขวางขึ้น
 
ในปี 2023 เน็ตฟลิกซ์ได้เปิดตัว Reel Life Film Camp ในประเทศไทย ซึ่งมุ่งหวังที่จะส่งเสริมผู้สร้างภาพยนตร์หน้าใหม่โดยจัดให้มีการฝึกอบรมและทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง ความคิดริเริ่มนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเน็ตฟลิกซ์ ที่จะส่งเสริมความสามารถและการเล่าเรื่องในท้องถิ่น ด้วยความพยายามร่วมกันเหล่านี้เน็ตฟลิกซ์ ไม่เพียงแต่เพิ่มความหลากหลายของเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อในท้องถิ่นอีกด้วย โดยสร้างระบบนิเวศที่เป็นประโยชน์ร่วมกันซึ่งสะท้อนถึงผู้ชมทั้งในท้องถิ่นและทั่วโลก
 
ปัจจุบันรัฐบาลไทยมีความร่วมมือกับเน็ตฟลิกซ์ ในการส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยผ่านภาพยนตร์และสื่อ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างรอยเท้าทางวัฒนธรรมของประเทศในระดับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงการนำเสนอประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวผ่านคู่มือการเดินทางเฉพาะที่เชื่อมโยงกับภาพยนตร์และซีรีส์ของเน็ตฟลิกซ์
 

4. Netflix ตัดสินใจด้วยข้อมูล

เน็ตฟลิกซ์ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมหาศาล เพื่อแจ้งข้อมูล สร้างเนื้อหา และกำหนดกลยุทธ์การตลาด โดยการวิเคราะห์นิสัยและความชอบในการรับชมของผู้ใช้ เน็ตฟลิกซ์สามารถปรับแต่งข้อเสนอเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทำให้มีอัตราการมีส่วนร่วมที่สูงขึ้น และรักษาสมาชิกไว้ได้ อัลกอริทึมที่ซับซ้อนของแพลตฟอร์มให้คำแนะนำการรับชมส่วนบุคคล ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมาชิกไว้ การปรับแต่งนี้มีความสำคัญในยุคที่ผู้ชมมีตัวเลือกมากมาย
 

5. Netflix ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม

ยกตัวอย่างเช่น เน็ตฟลิกซ์ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและเทคโนโลยีการบีบอัดวิดีโอ เพื่อให้บริการสตรีมมิ่งที่รวดเร็วและมีคุณภาพสูงบนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาการลงทุนของเน็ตฟลิกซ์ ในโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย และเทคโนโลยีการบีบอัดวิดีโอ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งมอบประสบการณ์การสตรีมที่รวดเร็วและมีคุณภาพสูงผ่านอุปกรณ์ต่างๆ กลยุทธ์นี้ครอบคลุมส่วนประกอบสำคัญหลายประการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบเนื้อหาและประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้

6. กลยุทธ์ทดลองใช้งานฟรี

กลยุทธ์การตลาดแบบทดลองใช้ฟรีของเน็ตฟลิกซ์ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเติบโตและการรับสมาชิก ช่วยให้ลูกค้าที่มีศักยภาพสามารถสัมผัสประสบการณ์บนแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องผูกมัดทางการเงินในทันที การทดลองใช้ฟรีนั้นโดยปกติจะมีระยะเวลา 30 วัน โดยในระหว่างนั้น ผู้ใช้ใหม่จะสามารถเข้าถึงภาพยนตร์ รายการทีวี และเนื้อหาต้นฉบับของเน็ตฟลิกซ์ ได้ฟรี วิธีนี้มีวัตถุประสงค์หลายประการ เช่น  การลดความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับผู้สมัครรับบริการได้ด้วยการเสนอให้ทดลองใช้ฟรี ผู้ใช้สามารถสำรวจข้อเสนอของแพลตฟอร์มและประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่งในตลาดสตรีมมิ่งที่มีการแข่งขันสูงซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย หรือ การแสดงคุณภาพเนื้อหา

โดยช่วงทดลองใช้ ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับรายการต้นฉบับคุณภาพสูงของเน็ตฟลิกซ์ การได้รับการเปิดเผยนี้อาจทำให้ผู้ใช้สนใจสมัครรับบริการเพิ่มขึ้นเมื่อช่วงทดลองใช้สิ้นสุดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ใช้พบเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของตน นอกจากนี้ยังมีการส่งอีเมลเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ที่ไม่ต่ออายุหลังจากทดลองใช้งานกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

7. กลยุทธ์ด้านราคา

เน็ตฟลิกซ์มีแผนการสมัครสมาชิกที่หลากหลาย ตั้งแต่แผน Mobile Plan ที่เหมาะสำหรับการรับชมผ่านมือถือ ไปจนถึง Premium Plan ที่รองรับการรับชมพร้อมกันหลายจอ ซึ่งช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยเน็ตฟลิกซ์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้า โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวเนื้อหาใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์รสนิยมของคนไทย รวมถึงการทดลองถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการรับชม คาดว่าในอนาคต เน็ตฟลิกซ์จะยังคงเป็นผู้นำตลาดสตรีมมิ่งด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายและมีความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในระดับโลกและในตลาดไทย

เน็ตฟลิกซ์ เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่เปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนบริโภคสื่อ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด  ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอันดับหนึ่งของโลกของเน็ตฟลิกซ์ นั้นเป็นผลมาจากการมองการณ์ไกลเชิงกลยุทธ์ในการสร้างเนื้อหาต้นฉบับ อีกทั้งกลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ไปจนถึงความพยายามขยายธุรกิจทั่วโลก แคมเปญส่งเสริมการขายที่สร้างสรรค์ ความสามารถในการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด และความมุ่งมั่นในการจัดหาเนื้อหาที่หลากหลายและน่าดึงดูด ในขณะที่ภูมิทัศน์ของการสตรีมมิ่งยังคงพัฒนาต่อไป ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเน็ตฟลิกซ์ จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาตำแหน่งผู้นำท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น

 
 
 
 
 
 

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *