หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำ โฆษณา Facebook มาสักพักแล้ว……ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์? ค่าโฆษณา Facebook แพง? บทความนี้อาจมีคำตอบให้คุณ วันนี้เราจะมาพูดถึงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาของคุณ พร้อมกับเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้การทำโฆษณาของคุณมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมและบรรลุเป้าหมายทางการตลาด ซึ่งเรานำมาฝากกันทั้งหมด 7 วิธีดังต่อไปนี้
1. ทำการทดสอบแคมเปญโฆษณาของคุณ
การทดสอบแคมเปญโฆษณา ช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนตัวแปรต่างๆของโฆษณา เช่น ครีเอทีฟ กลุ่มผู้ชม หรือตำแหน่งในการแสดงโฆษณา เพื่อดูว่าสิ่งใดทำงานได้ดีสุด วิธีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแคมเปญที่คุณกำลังทดสอบในการหาค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการทดสอบนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงการสร้างแคมเปญในอนาคตได้อีกด้วย
เมื่อคุณตัดสินใจเกี่ยวกับตัวแปรที่คุณต้องการทดสอบแล้ว งบประมาณโฆษณาของคุณจะถูกแบ่งโดยอัตโนมัติ ระหว่าง รูปแบบทั้งสองและในการปล่อยโฆษณา
-
- ตั้งงบประมาณแต่ละชิ้นด้วยงบที่เท่าๆกัน
- ปล่อยให้ระบบเลือกในการนำเงินไปใช้
ขอแนะนำให้คุณทำ A/B Testing เมื่อคุณต้องการทดสอบ วัดผลการเปลี่ยนแปลงของโฆษณา Facebook ซึ่งการทำ A/B Testing จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณได้ทดสอบเพื่อหากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการนำมาพัฒนาการทำโฆษณาในอนาคต แทนการทดสอบโฆษณาที่คุณต้องทำการปิดเปิดชุดโฆษณาหรือแคมเปญด้วยตนเอง
2. กำหนดเป้าหมายผู้ชมของคุณ
ในการสร้างแคมเปญโฆษณาการคำนึงถึง Buyer Personas ของคุณในทุกขั้นตอนของกระบวนการสร้างโฆษณาจะช่วยให้คุณสามารถส่งสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใช่มากขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะนอกเหนือไปจากข้อมูลประชากรทั่วไปอย่าง เพศ อายุ แต่เราควรมองลึกลงไปที่ความคิด ความรู้สึกอย่างเจตนา หรือความสนใจของเขานั้นเอง
ซึ่งเราสามารถแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 3 ประเภทที่คุณสามารถใช้กับการโฆษณาบน Facebook
- Cold : กลุ่มเป้าหมายที่ประกอบด้วยผู้ใช้งานทั้งหมดบน Facebook ที่อาจไม่เคยรู้จักแบรนด์ของเราเลย และสามารถจำกัดให้แคบลงได้ด้วยการกำหนดเป้าหมายให้ละเอียด
- Warm : กลุ่มเป้าหมายที่อาจเป็นผู้ใช้ที่เชื่อมต่อกับเพจของคุณหรือกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนดเอง
- Hot : กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในธุรกิจของเราประกอบด้วยผู้ใช้ที่รู้จักธุรกิจของคุณ และผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ
เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มผู้ที่มีโอกาสซื้อที่แตกต่างกัน อย่าลืมที่จะสร้างแคมเปญแยกกันสำหรับแต่ละกลุ่มเพื่อทำการทดสอบหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่
3. การพูดถึงเหตุผลและอารมณ์
อารมณ์ ความรู้สึกของผู้ที่มีโอกาสซื้อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อของพวกเขาเป็นอย่างมาก และในด้านเหตุผลอาจบอกให้พวกเขาอดทน อดกลั้นเอาไว้ เป็นหน้าที่ของคุณที่จะถ่ายทอดทั้งคุณลักษณะและประโยชน์ของสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อให้คุณสามารถดึงดูดทั้งด้านเหตุผลและอารมณ์ของพวกเขา จากนั้นทำการกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจได้ไวมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการการซื้อ
- คุณสมบัติต่างๆ จะอธิบายถึงสิ่งที่ทำให้สินคาหรือบริการของคุณแตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นๆ และทำให้สินค้าของคุณมีเอกลักษณ์
- สิทธิประโยชน์ จะบอกรายละเอียดว่าอะไรทำให้คุณสมบัติเหล่านั้นเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของคุณ
4.การใช้จิตวิทยาของสี
หากคุณยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจิตวิทยาของสีต่างๆ คุณกำลังพลาดโอกาสสำคัญในการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพโฆษณา Facebook ของคุณ ทั้งในเรื่องของการจดจำแบรนด์ ความสะดุดตาที่ทำให้ผู้ชมหยุดชมโฆษณาของคุณ ซึ่งแต่ละสีจะมีผลกระทบต่ออารมณ์ ความรู้สึกของคุณ เรามีตัวอย่างสีที่มีผลต่อในแต่ละอารมณ์มาให้ชมกันค่ะ
สีแดง – แม้ว่าสีแดงจะแสดงถึงอันตราย แต่ก็สามารถใช้ในแคมเปญที่ต้องการกระตุ้นความรู้สึกเข้มแข็งได้
สีส้ม – เป็นที่สีที่มีชีวิตชีวาและมีพลัง ซึ่งไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสีที่อันตรายแบบสีแดง ความมีชีวิตชีวาตามธรรมชาติทำให้ประสบความสำเร็จเมื่อคุณอยากทำให้โฆษณาของคุณโดดเด่น
สีเหลือง – สดใสและเต็มไปด้วยพลัง สีเหลืองหมายถึงความสุข สติปัญญา พลังงาน และความสุข สีเหลืองเข้มที่ใกล้เคียงสีทองสามารถให้ความรู้สึกมั่งคั่งและปลอดภัย
สีเขียว – เป็นสีที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนึกถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสีเขียวยังเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ความมั่นคง ความซื่อสัตย์ และความสดใหม่
สีฟ้า – สร้างความรู้สึกไว้วางใจในผู้ชม อาจแสดงถึงความรู้สึกจริงจังและยังหมายถึงความฉลาด ความจงรักภักดี ความสงบ และพลัง
สีม่วง – เป็นการรวมกันของความมั่นคงของสีน้ำเงินและพลังงานของสีแดง สีม่วงจึงเกี่ยวข้องกับความหรูหรา ความซื่อสัตย์ ความฝัน ความลึกลับ และความสง่างาม ช่วยกระตุ้นการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์
สีดำ สีเทา และสีขาว – แสดงถึงความเป็นกลาง อนุรักษนิยม ซึ่งสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในโฆษณา
5. เพิ่มประสิทธิภาพ โฆษณา Facebook สำหรับมือถือ
การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาของคุณสำหรับมือถือ เป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Facebook ของคุณ
รายได้กว่า 94% ของแพลตฟอร์มโฆษณามากจากอุปกรณ์เคลื่อนที่
ความจริงคือ พฤติกรรมจะแตกต่างกันเมื่ออยู่บนมือถือ ช่วงความสนใจสั้นลงสำหรับผู้เริ่มต้น หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการดึงดูดความสนใจในระยะเวลาสั้นๆ คือการสร้างโฆษณาวิดีโอที่แสดงข้อมูลแบรนด์และข้อความที่สำคัญของคุณทันที
ข้อแนะนำ : ทุกครั้งที่คุณทำชิ้นงานไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอให้ทำการทดสอบเปิดชิ้นงานบนอุปกรณ์มือถือ เพื่อทำการตรวจสอบว่าชิ้นงานมองเห็นชัดเจน ตัวอักษรเล็กไปหรือไม่
6. สร้างความรู้สึกเร่งด่วน
การสร้างความรู้สึกเร่งด่วน ยังคงได้ผลตามหลักของการกลัวที่จะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป หรือที่หลายท่านอาจะรู้จักกันว่า FOMO – Fear of missing out ไม่มีใครอยากพลาดข้อตกลงเพราะสายเกินไป การสร้างความรู้สึกเร่งด่วนให้ผู้ชมของคุณอาจรวมไปถึงการเสนอข้อตกลงที่ดีเกินกว่าที่คุณจะพลาดไป หรือการใช้คำกระตุ้นอย่าง “ด่วน” “ภายในเวลาที่จำกัดเท่านั้น” และ “โอกาสสุดท้าย”
7.การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
เคล็ดลับสุดท้ายในการปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา Facebook ของคุณคือ การมองหาที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยในการทำการตลาดอย่าง Marketing Agency ซึ่ง Facebook มีการเปลี่ยนแปลงระบบอยู่ตลอดเวลา และการติดตามนโยบายต่างๆและฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาอาจใช้เวลานาน เป็นเรื่องสมเหตุผลที่จะหาคนที่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทให้สอดคล้องกัน
ซึ่ง Talka Talka เราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปรับกลยุทธ์ของคุณจากการวิเคราะห์ต่างๆ ที่เหนือไปกว่าสิ่งที่ Facebook แสดง นอกจากการปรับปรุงกลยุทธ์โฆษณาของคุณแล้ว การจ้างเอเจนซีสามารถช่วยคุณประหยัดเงิน และคุณอาจได้รับประโยชน์จากเอเจนซีมากกว่าที่คุณจะได้รับจากพนักงานที่มีเงินเดือน
สรุป
ในการทำโฆษณา Facebook มีหลากหลายเทคนิคที่สามารถช่วยพัฒนาประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาของคุณให้ดียิ่งขึ้นซึ่งในบทความนี้เราได้เลือกทั้ง 7 เทคนิคมาให้ทุกท่านได้ลองใช้กัน
- ทำการทดสอบแคมเปญของคุณด้วยการปรับเปลี่ยน ครีเอทีฟ กลุ่มผู้ชม หรือตำแหน่งในการแสดงโฆษณา เพื่อดูว่าสิ่งใดทำงานได้ดีสุด
- กำหนดกลุ่มผู้ชมของคุณให้ชัดเจนมากยิ่งโดยแบ่งกลุ่มออกเป็น Cold, Warm, Hot
- การใช้เหตุผลและอารมณ์ช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าได้ไวมากยิ่งขึ้น
- การใช้จิตวิทยาของสี ช่วยให้หยุดสายตาของผู้ชมและทำให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
- การเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา Facebook บนมือถือด้วยการออกแบบโฆษณาที่คำนึงถึงการใช้งานบนมือถือ ทำให้การสื่อสารชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- สร้างความรู้สึกเร่งด่วน กระตุ้นให้ผู้ชมรู้สึกจำเป็นต้องทำเดียวนี้ มิฉะนั้นอาจพลาดข้อเสนอที่ดีไป
- การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ในการทำแคมเปญโฆษณา ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย ในการลองผิดลองถูก
แหล่งอ้างอิง