การทำ Music Marketing ในปัจุบันมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นและ สามารถพบเห็นกันได้มากขึ้นในหลายๆช่องทาง วิทยุ โทรทัศน์ เสียงรอสายของบริษัท และโฆษณาบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการเติบโตของคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ ทำให้เสียงที่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของวิดีโอโดดเด่นมายิ่งขึ้น และสร้างมิติในการจดจำมากขึ้นกว่าภาพที่เรามองเห็นเพียงอย่างเดียว คุณสามารถจดจำแบรนด์ๆ ได้เพียงผ่านเสียงเพียงไม่กี่วินาที และนี้คือพลังของ Music Markting ที่เราจะมาพูดกันในบทความนี้ค่ะ
Music Marketing คืออะไร
การตลาดดนตรีหรือเพลงที่ดีช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถสร้างกลุ่มผู้ชมให้กับธุรกิจของตนได้ โดยการกำหนดเป้าหมาย ความรู้สึกนอกเหนือจากวิสัยทัศน์ หรือการมองเห็น เสียงค่อนข้างทรงพลัง และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าจดจำธุรกิจของคุณได้ การตลาดที่ดีนั้นมีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากทุกคนใช้ความรู้สึกบางอย่างเพื่อกำหนดพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็นการได้กลิ่น การได้ยิน การสัมผัส การลิ้มรส หรือการมองเห็น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสสร้างความแตกต่างให้กับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเน้นที่กิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยภาพ
การทำการตลาดด้วยเพลงช่วยแบรนด์คุณอย่างไร
- เพิ่มการรับรู้ครั้งใหญ่ – แคมเปญเปิดเสียงของ TikTok ช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้ดีกว่าโฆษณาของคู่แข่ง ทั้งแบบมีและไม่มีเสียง
- สื่อสารข้อมูลใหม่ – ไม่เพียงทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก แต่ยังมีประสิทธิภาพอย่างมากในการถ่ายทอดเอกลักษณ์และคุณค่าของคุณสู่ผู้บริโภค
- ยอดขาย – สร้างการยกระดับที่สำคัญทั้งในด้านความตั้งใจในการซื้อและความชื่นชอบในแบรนด์
เคล็ดลับการทำ Music Marketing
กำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณ
วิธีที่ดีที่สุดในการพิจารณาว่าคุณกำลังสร้างผลลัพท์ที่ถูกต้องต่อกลุ่มคนที่เหมาะสมคือ การทำความเข้าใจตลาดเป้าหมายของคุณอย่างถ่องแท้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณ และมุ่งเน้นไปที่กลุ่มที่ทำกำไรได้เฉพาะกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อเฉพาะของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องแน่ใจว่าคุณเข้าใจความต้องการของตลาดของคุณอย่างละเอียด
ช่องทางการตลาด
ธุรกิจควรทำวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับช่องทางการตลาดต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ พิจารณาพฤติกรรมของผู้บริโภคในอดีตอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อกำหนดช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด วิเคราะห์ผลกระทบด้านต้นทุนของช่องทางเหล่านี้ด้วย ROI
ทำให้สั้นและน่าจดจำ
แม้ว่าการใช้เพลงโปรดของคุณเพื่อสร้างแบรนด์บริษัทอาจเป็นการดึงดูดใจ แต่สิ่งนี้มักเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนมีความชอบที่แตกต่างกันไปเมื่อพูดถึงประเภทของเพลงที่พวกเขาชื่นชอบ การสร้างแบรนด์เสียงที่ยอดเยี่ยมจะต้องไพเราะและน่าจดจำ ยิ่งเสียงสั้นเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะยิ่งจดจำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเราถึงจำเพลงง่ายๆ จากรายการทีวี โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ได้อย่างรวดเร็วในขณะที่เราจำกิจกรรมของวันก่อนไม่ได้ นี่เป็นเพราะเราตอบสนองต่อเสียงได้ดีเนื่องจากการเชื่อมต่อทางปัญญาที่แข็งแกร่งระหว่างหน่วยความจำและเสียง
รักษาความสม่ำเสมอ
เช่นเดียวกับการตลาดรูปแบบอื่นๆ การสร้างแบรนด์ที่ดีต้องมีเอกลักษณ์ เนื่องจากเสียงกลายเป็นส่วนสำคัญของการตลาด เสียงของแบรนด์ที่เป็นส่วนตัวจึงมีคุณค่าต่อธุรกิจของคุณอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนสิ่งอื่นใด ให้นึกถึงประเภทของเสียงที่แสดงถึงบริษัทของคุณได้ดีที่สุด เพราะนอกเหนือจากโลโก้ที่มองเห็นแล้ว น้ำเสียงที่สม่ำเสมอคือสิ่งที่ช่วยผลักดันให้เกิดความคุ้นเคยกับลูกค้าของคุณ
แหล่งอ้างอิง
