ทำไม Email Marketing ยังไม่ตายและยังคงสร้างเม็ดเงินอยู่ในหลายๆ อุตสาหกรรม

การทำ  Email Marketing เป็นช่องทางการตลาดที่ให้ผลกำไรสูงสุด โดยสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ย 42 ดอลลาร์สำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้ไป (DMA) จากสถิตินี้เราคงเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่าการทำการตลาดผ่านอีเมลมีอิทธิพลมากแค่ไหน ซึ่งการไม่ทำการตลาดผ่านอีเมลก็เหมือนกับการทิ้งเงินไว้บนโต๊ะ 

ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า Email Marketing คืออะไร ยังได้ผลจริงอย่างที่เขาว่าหรือไม่ และหากคุณสนใจจะเริ่มทำการตลาดอีเมลบ้างจะต้องเตรียมตัว และมีขั้นตอนอะไรบ้างตามไปดูกันค่ะ

1. อีเมลต้อนรับ

อีเมลต้อนรับจะแสดงอัตราการเปิดและอัตราการคลิกที่ดีขึ้น เมื่อให้ความเป็นส่วนตัวและแนะนำองค์กรของคุณโดยไม่พูดถึงการขาย อย่าเพิ่งแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ก่อนที่คุณจะสร้างความสัมพันธ์ เพียงแค่พยายามสร้างความประทับใจแรกพบที่ดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของคุณ เพื่อปูทางสำหรับการติดต่อในอนาคต

2. อีเมลข่าวสาร

ธุรกิจและองค์กรจำนวนมากส่งจดหมายข่าวสารทางอีเมลเพื่อให้ผู้รับของพวกเขานึกถึง ซึ่งธุรกิจอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ใช้จดหมายข่าวทางอีเมลเป็นรากฐานของโปรแกรมการตลาดผ่านอีเมล เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการให้ความรู้แก่ลูกค้า และผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณ

3. อีเมลการดูแลลูกค้าเป้าหมาย

ในฐานะกลยุทธ์ Inbound Marketing การดูแลลูกค้าเป้าหมายนั้นเกี่ยวกับการทำความเข้าใจความแตกต่างของเวลาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราให้ชัดเจน เพื่อเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ มิฉะนั้น อีเมลของคุณจะไม่ถูกเปิดหรือถูกลบทิ้ง การดูแลลูกค้าเป้าหมายควรนำเสนอชุดอีเมลที่เชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา โดยมีจุดประสงค์ที่สอดคล้องกันและเต็มไปด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์ 

1. เลือกซอฟต์แวร์การตลาดผ่านอีเมลที่เหมาะสม

ขั้นตอนแรกคือ การหาผู้ให้บริการอีเมล (Email Service Provider – ESP) เพื่อส่งและจัดการแคมเปญอีเมลให้แก่อีเมลสมาชิกของคุณ ซึ่งมีเครื่องมือที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Mailchimp, Constant Contact, Convertkit และ HubSpot เป็นต้น

ด้วย ESP หลายร้อยเจ้าในตลาด จึงเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าอันไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ ต้องพิจารณาในหลายๆ ด้านเพื่อความคุ้นค่าต่อราคาที่จ่ายไป และมุ่งเน้นแค่สิ่งที่จำเป็นสำหรับตอนนี้ ซึ่งอาจพิจารณาเบื้องต้นจากปริมาณอีเมลสมาชิกเทียบกับราคา

2. สร้างรายชื่ออีเมลของคุณ

ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่จะให้คุณสร้างแบบฟอร์มการสมัครรับ เพื่อฝังบนเว็บไซต์ของคุณ เมื่อสร้างแบบฟอร์มการสมัครรับข้อมูล เราควรกำหนดเงื่อนไขรายละเอียดในการสมัครรับอีเมลว่าสมาชิกจะได้รับเนื้อหาอีเมลประเภทใดและบ่อยแค่ไหน แปลว่าเมื่อไหร่ที่คุณเริ่มส่งอีเมลที่ไม่เกี่ยวข้องกับความสนใจของสมาชิก มีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะเลิกติดตามคุณ

ข้อควรจำ : เมื่อผู้คนไว้วางใจคุณมากพอที่จะให้ที่อยู่อีเมลของพวกเขา อย่าใช้ความเชื่อถือนั้นในทางที่ผิด

3. ตั้งค่าอีเมลต้อนรับสำหรับสมาชิกใหม่

เมื่อมีคนลงทะเบียนในรายชื่ออีเมลของคุณ คุณจะได้รับความสนใจจากพวกเขา ถึงเวลาแล้วที่จะดึงดูดพวกเขาให้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นด้วยอีเมลต้อนรับ

อีเมลต้อนรับเป็นข้อความอัตโนมัติที่ส่งถึงลูกค้าใหม่ และสมาชิก แนวคิดคือ การแนะนำแบรนด์ของคุณและเนื้อหาใดๆ ที่จะสร้างความสัมพันธ์ของคุณกับสมาชิกเช่น ส่วนลดต้อนรับ ลิงก์ไปยังบทความล่าสุด ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ฯลฯ

4. กำหนดเป้าหมายของแคมเปญการตลาดทางอีเมลของคุณ

เมื่อคุณเริ่มสร้างรายชื่ออีเมลแล้ว ก็ถึงเวลาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการบรรลุจากแคมเปญนี้ แคมเปญการตลาดทางอีเมลทุกรายการต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน 

ตัวอย่างของเป้าหมายทั่วไป ได้แก่:

• โปรโมทสินค้าใหม่
• แบ่งปันส่วนลดกับลูกค้าประจำ 
• เพิ่มยอดการดาวน์โหลดสำหรับ ebook ล่าสุดของคุณ
• อัพเดทสมาชิกในข่าวสำคัญของบริษัท  

เป้าหมายของคุณอาจเป็นแบบเจาะจงมากเกินไปหรือแบบกว้างก็ได้ ตราบเท่าที่เหมาะสมกับธุรกิจและผู้ชมของคุณ ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน การสร้างเนื้อหาอีเมลของคุณจะง่ายขึ้นอีกด้วย

5. สร้างอีเมลของคุณ

เมื่อคุณรู้เป้าหมายของคุณ กลุ่มเป้าหมาย เราก็จะมาเติมคำลงในอีเมลกัน ซึ่งคุณต้องนำเสนอคุณค่า และพูดถึงหัวข้อที่ผู้ฟังของคุณสนใจ คุณต้องตอกย้ำด้วยการเขียนอีเมลที่น่าดึงดูด และมีส่วนร่วมโปรดคำนึงถึงเคล็ดลับเหล่านี้:

• ฉันจะช่วยกลุ่มเป้าหมายของฉันได้อย่างไร?
• ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเขียนถึงคนคนหนึ่ง 
• แสดงบุคลิกของคุณ
• เล่าเรื่อง
• เขียนเพื่อกระตุ้นให้อยากรู้เพิ่มอย่างการเริ่มต้นด้วยหัวเรื่องอีเมลและดูเนื้อหาเพิ่มเติมที่ด้านล่าง
• ใช้น้ำเสียงในสื่อสาร เช่น การเขียนโดยใช้ภาษาพูด
• แยกเนื้อหาแต่ละช่วงด้วยย่อหน้าสั้น ๆ และใช้สัญลักษณ์หัวข้อย่อยเพื่อให้เนื้อหาอ่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

6. กำหนดเวลาแคมเปญของคุณในเวลาที่เหมาะสม

แทนที่เราจะสุ่มเวลาให้เปลี่ยนเป็นการกำหนดเวลาเชิงกลยุทธ์ โดยการเลือกเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้ชมของคุณ โดยพิจารณาจากสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับพวกเขา

คนส่วนใหญ่มักจะเข้าไปที่กล่องจดหมายของพวกเขาสองสามครั้งในแต่ละวัน หาเวลาที่จะทำให้คุณอยู่ในอันดับต้นๆ ของกล่องจดหมายเมื่อสมาชิกกำลังตรวจสอบอีเมลของพวกเขา สิ่งนี้จะเพิ่มอัตราการเปิดของคุณอย่างแน่นอน

แคมเปญการตลาดทางอีเมลมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อส่งในวันอังคาร หรือวันพฤหัสบดีในช่วงเช้าประมาณ 10.00 น. หรือในช่วงบ่ายประมาณ 14.00 น. ซึ่งเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล: หลายคนเช็คอีเมลในตอนเช้าเมื่อไปทำงาน รวมทั้งหลังกลับจากรับประทานอาหารกลางวัน

แต่สิ่งที่ได้ผลสำหรับคนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ผลดีที่สุดสำหรับคุณ สิ่งสำคัญคือต้องทดสอบช่วงเวลาต่างๆ เพื่อดูว่าผู้ชมสนใจจุดไหนมากที่สุด

การทำการตลาดผ่านอีเมลสามารถสร้างผลลัพธ์และกำไรได้มากกว่าที่หลายๆ คนคิดเอาไว้และยังเป็นเครื่องมือในการตลาดที่สามารถดูแลลูกค้าได้ตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักกัน ดูแลให้ข้อมูล ส่งข่าวสารและโปรโมชั่น การตัดสินใจซื้อ ไปจนถึงขั้นตอนการดูแลหลังการขาย ดังนั้นคุณอาจลองการตลาดแบบอีเมลไปลองปรับใช้กับธุรกิจของคุณเพื่อสร้างยอดขาย

แหล่งอ้างอิง

https://mailchimp.com/email-marketing/

https://www.sendinblue.com/blog/what-is-email-marketing/

https://blog.thomasnet.com/types-of-email-marketing

https://www.campaignmonitor.com/wp-content/uploads/2020/01/CM_Global_Email_Benchmarks_2021_CM-_Global-_Email-Benchmarks_Industry_Totals_Graphic.png