วันนี้ Talka จะมาพูดถึงใจความสำคัญของการ ขายตรง (Direct Selling) กับ แชร์ลูกโซ่ (Pyramid Schemes) ว่าคืออะไร? ทั้งสองแบบมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ขายตรง กับ แชร์ลูกโซ่ คืออะไร?
การขายตรง คืออะไร?
- ปฏิสัมพันธ์ส่วนตัว : การขายตรงเน้นที่ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างตัวแทนขายและลูกค้า ปฏิสัมพันธ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านการประชุมแบบตัวต่อตัว งานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน หรือการสาธิตออนไลน์
- ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย : การขายตรงครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ สินค้าในครัวเรือน และอื่นๆ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักไม่มีจำหน่ายในร้านค้าปลีกทั่วไป
- รูปแบบธุรกิจที่ยืดหยุ่น : บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการขายตรงมักทำงานเป็นผู้รับเหมาอิสระหรือผู้จัดจำหน่าย ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถกำหนดเวลาและทำงานตามจังหวะของตนเองได้
ประเภทของการขายตรง
- การตลาดแบบชั้นเดียว (Single level marketing) : ตัวแทนขายได้รับรายได้จากการขายเท่านั้น กล่าวคือ ผู้ขายสามารถสร้างรายได้จากยอดขายของตนเอง โดยไม่ต้องสร้างเครือข่ายของตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติม
- การตลาดแบบหลายชั้น (Multi level marketing) : รูปแบบนี้อนุญาตให้ผู้ขายสามารถสร้างรายได้จากยอดขายของทีมงานที่ตนเองสร้างขึ้น (ดาวน์ไลน์) นอกจากนี้ยังมีระบบค่าคอมมิชชั่นที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็น Pyramid Schemes ได้
โครงสร้างรายได้ : รายได้จากการขายตรงอาจมาจากแหล่งหลักสองแหล่ง ได้แก่
- ค่าคอมมิชชันการขาย : ตัวแทนจะได้รับค่าคอมมิชชันตามยอดขายที่พวกเขาทำได้
- ค่าคอมมิชชันการสรรหาบุคลากร : ในการตลาดแบบหลายชั้น (MLM) ตัวแทน สามารถรับค่าคอมมิชชันจากยอด ขายที่ทำโดยผู้สมัครที่พวกเขาสนับสนุน
- ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ : โอกาสในการขายตรงจำนวนมากต้องการการลงทุนเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจแบบดั้งเดิม
- ความยืดหยุ่น : ตัวแทนขายสามารถทำงานนอกเวลาหรือเต็มเวลาได้ตามความต้องการ
- บริการส่วนบุคคล : ผู้ขายตรงสามารถให้คำแนะนำและการสนับสนุนที่เหมาะสมกับลูกค้าได้
- การสร้างความสัมพันธ์ : รูปแบบนี้ส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าซึ่งสามารถนำไปสู่การทำธุรกิจซ้ำได้
- ความอิ่มตัวของตลาด : ในบางพื้นที่ ตลาดอาจอิ่มตัวด้วยตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน
- ความผันแปรของรายได้ : รายได้อาจไม่แน่นอน และส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความพยายามของแต่ละบุคคล และสภาวะของตลาด
- ศักยภาพในการบิดเบือนข้อมูล : เป็นไปได้ที่อาจมีการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจต่อผู้สมัครหรือลูกค้าที่มีศักยภาพ
เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจขายตรงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจด้วยต้นทุนต่ำและมีความยืดหยุ่นสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรศึกษาและเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมายกับ Pyramid Schemes เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
แชร์ลูกโซ่ คืออะไร?
- เน้นการหาสมาชิกใหม่ : หัวใจหลัก คือ การรับสมัคร หรือ ใช้คำว่าการระดมหาผู้สมัครก็ว่าได้ ซึ่งผู้เข้าร่วมจะต้องรับสมาชิกใหม่เข้ามาเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งจะสร้างโครงสร้างที่คล้ายกับพีระมิดนั่นเอง ผู้ที่เข้าร่วมจะต้องชักชวนคนอื่นให้เข้ามาลงทุน โดยมักจะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นหรือโบนัสให้กับผู้ที่สามารถหาสมาชิกใหม่ได้มากขึ้น
- ขาดผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย : แม้อาจมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักเป็นสินค้าคุณภาพต่ำ หรือราคาสูงเกินจริง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเพียงฉากหน้าของกระบวนการรับสมัครเท่านั้น
- รูปแบบที่ไม่ยั่งยืน : ต้องพึ่งพาผู้สมัครใหม่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรุ่นก่อนหรือที่เรียกว่าอัพไลน์ ซึ่งในที่สุดโครงการก็จะล้มเหลวเมื่อการรับสมัครสมาชิกล่าช้าลงหรือไม่สามารถขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้จริง
- ต้นทุนการเข้าร่วมสูง : ผู้เข้าร่วมมักจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวนมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินจำนวนมากหากระบบพีระมิดล้มเหลว
- ประเด็นทางกฎหมาย : เป็นรูปแบบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากมีลักษณะฉ้อโกงและเอารัดเอาเปรียบผู้เข้าร่วม
- การสูญเสียทางการเงิน : ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่สูญเสียเงิน เนื่องจากมีเพียงผู้ที่มีอำนาจสูงสุดเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากธุรกิจนี้
- ผลที่ตามมาทางกฎหมาย : การมีส่วนร่วมในธุรกิจแชร์ลูกโซ่อาจนำไปสู่การถูกตั้งข้อหาทางอาญาและการถูกปรับเงินเป็นจำนวนมาก
- ความเสียหายต่อชื่อเสียง : บุคคลที่เกี่ยวข้องอาจได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงส่วนตัวและอาชีพการงานหากเข้าไปผัวพันเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการฉ้อโกง
ขายตรง กับ แชร์ลูกโซ่ ต่างกันอย่างไร
1. ความชอบธรรม
2. การคุ้มครองผู้บริโภค
3. แนวทางการสรรหาบุคลากร
ในการขายตรง การสรรหาบุคลากรไม่ใช่จุดเน้นหลัก ในขณะที่ตัวแทนอาจสรรหาบุคลากรคนอื่นเพื่อขยายเครือข่ายการขาย รายได้ของพวกเขาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายผลิตภัณฑ์ ผู้ขายตรงที่ประสบความสำเร็จสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและมอบคุณค่าผ่านข้อเสนอของตน
ในทางกลับกัน แชร์ลูกโซ่มักเน้นหนักที่การสรรหาบุคลากร ผู้เข้าร่วมมีแรงจูงใจที่จะนำสมาชิกใหม่เข้ามาโดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงโดยพิจารณาจากความสามารถในการรับสมัครมากกว่าการขายผลิตภัณฑ์ สิ่งนี้สร้างวัฏจักรที่เฉพาะผู้ที่อยู่ในระดับสูงสุด (ยอดพีระมิด) เท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ทางการเงิน ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักจะต้องสูญเสียเงิน
4. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และ ผลกระทบต่อผู้เข้าร่วม
ผู้เข้าร่วมในการขายตรงสามารถประสบความสำเร็จทางการเงินได้ด้วยการทำงานหนักและกลยุทธ์การขายที่มีประสิทธิภาพ หลายคนพบว่าเป็นหนทางที่เป็นไปได้ในการสร้างรายได้เพิ่มเติมหรือดำเนินธุรกิจแบบเต็มเวลา ในทางตรงกันข้าม ผู้เข้าร่วมในธุรกิจแชร์ลูกโซ่มักเผชิญกับการสูญเสียทางการเงินจำนวนมาก เนื่องจากรูปแบบที่ล้มเหลวเมื่อการรับสมัครช้าลง หรือไม่สามารถขายสินค้าได้จริง
5. พลวัตของตลาด
การขายตรงมีส่วนสนับสนุนพลวัตของตลาดในเชิงบวกโดยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการที่สุจริต ในทางกลับกัน ธุรกิจแบบ Pyramid Schemes มักบิดเบือนการแข่งขันในตลาดโดยทำให้บุคคลเข้าใจผิดและลงทุนในรูปแบบธุรกิจที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจส่งผลเสียต่อทั้งผู้บริโภคและผู้เข้าร่วมอย่างร้ายแรงการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการขายตรงกับแชร์ลูกโซ่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่กำลังพิจารณามีส่วนร่วมในรูปแบบธุรกิจประเภทนี้
ในขณะที่การขายตรงสามารถให้โอกาสในการสร้างรายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมายผ่านการขายผลิตภัณฑ์ แต่ธุรกิจแบบ Pyramid Schemes มีความเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายได้เนื่องจากไม่เน้นการขายผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง การรับรู้ถึงความแตกต่างเหล่านี้ทำให้บุคคลสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้และหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการปฏิบัติที่ฉ้อโกง
ตัวอย่าง ธุรกิจขายตรง ในไทย
1. Amway (แอมเวย์)
2. Herbalife (เฮอร์บาไลฟ์)
เฮอร์บาไลฟ์ เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและการควบคุมน้ำหนัก มีชื่อเสียงในด้านการส่งเสริมสุขภาพ ลักษณะการดำเนินงาน ผู้จำหน่ายสามารถสร้างรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์และการสร้างเครือข่ายสมาชิกใหม่