Meta Verified คืออะไร? สมัครแล้วดียังไง พร้อมวิธีขอ Blue Badge

Meta Verified

ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ของโซเชียลมีเดีย มีเพียงไม่กี่แพลตฟอร์ม ที่มีอิทธิพลและเข้าถึงผู้คนได้เหมือนกับ Facebook (Meta) ด้วยจำนวนผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลกมันจึงไม่ใช่แพลตฟอร์มสำหรับเชื่อมต่อกับเพื่อนและครอบครัวเท่านั้นแต่มันยังเป็นพื้นที่สำหรับธุรกิจ บุคคลสาธารณะ เพื่อสร้างตัวตนของพวกเขา อย่างไรก็ตามในขณะที่อาณาจักรดิจิทัลนี้ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นในการแยกแยะบัญชีจริงออกจากผู้แอบอ้าง และมอบความรู้สึกไว้วางใจและความน่าเชื่อถือแก่ผู้ใช้หรือผู้ติดตามจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นี่คือจุดที่ “Meta Verified” เข้ามามีบทบาท ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นนี้ พร้อมบอกต่อวิธีการสมัครขอ เมตา เวอร์ริฟายด์ เพื่อให้ได้ Blue Badge หรือ สัญลักษณ์เครื่องหมายติ๊กถูกสีน้ำเงินกันแบบ step by step ตลอดจนรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจครับ 

Meta Verified คืออะไร?

Meta Verified คืออะไร

Meta Verified คืออะไร?

แพ็คเกจ Verified เป็น Subscription Model หรือบริการแบบสมัครสมาชิกตัวใหม่ของ Meta ที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ครีเอเตอร์สร้างและนำเสนอตัวตนบนแพลตฟอร์มได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินสำหรับทั้ง Instagram และ Facebook ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ครีเอเตอร์สามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างชุมชนของตนบน Instagram และ Facebook โดยเฉพาะเพื่อป้องกันการแอบอ้าง นอกจากนี้ยังเป็นบริการที่ผู้สมัครจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายจากทาง Meta อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถใช้ได้กับ Business Account หรือเพจของธุรกิจหรือแบรนด์ต่างๆ ได้

การสมัครขอ Verified สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย สามารถสมัครได้โดยตรงผ่าน Instagram และ Facebook โดยการสมัครสมาชิกแบบแพ็คเกจรายเดือนได้ในราคา 280 บาท เมื่อซื้อผ่านเว็บไซต์ และ 330 บาท เมื่อซื้อผ่านระบบปฎิบัติการ iOS และ Android (ตัวเลือกเว็บใช้ได้เฉพาะกับ Facebook เท่านั้น) อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เมตา เวอร์ริฟายด์ มีให้บริการเฉพาะบุคคลเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม ตราสัญลักษณ์แบบเดิมที่ได้รับการยืนยันบน Instagram และ Facebook ยังคงมีให้ใช้งานสำหรับบุคคลสาธารณะ คนดัง และแบรนด์โดยเฉพาะ บัญชีประเภทที่กล่าวมายังคงสมัครรับการยืนยันรูปแบบเดิมได้หากบัญชีเหล่านี้มีความโดดเด่น (เช่น ปรากฏในข่าวหรือมีชื่อเสียง) ป้ายของ เมตา เวอร์ริฟายด์ และป้ายยืนยันสำหรับบัญชีที่โดดเด่นจะมีลักษณะเหมือนกัน คือ เครื่องหมายถูกสีน้ำเงิน หรือ โล่สีน้ำเงิน หรือ Blue Badge ก็แล้วแต่ตามที่ทุกคนคุ้นเคย

อย่างไรก็ตาม ตรายืนยันรูปแบบเดิม (ซึ่งให้บริการฟรี) จะไม่รวมถึงสิทธิประโยชน์พิเศษที่มาพร้อมกับ เมตา เวอร์ริฟายด์ แต่บุคคลที่ใช้ระบบการยืนยันแบบดั้งเดิมก็สามารถสมัคร เมตา เวอร์ริฟายด์ เพื่อเข้าถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ของระบบสมาชิกได้
 

ใครที่สามารถสมัครแพ็คเกจ เมตา เวอร์ริฟายด์ ได้บ้าง?

เมตา เวอร์ริฟายด์ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับครีเอเตอร์ บุคคลทั่วไป บุคคลสาธารณะ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจ โดยข้อตกลงเบื้องต้นในการสมัคร เมตา เวอร์ริฟายด์ มีดังนี้ครับ
 
  • ต้องเป็นบุคคลที่อายุ 18 ปีขึ้นไป
  • มีโปรไฟล์ที่เชื่อมโยงกับชื่อเต็มและรูปโปรไฟล์ที่แสดงใบหน้า
  • มีบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ตรงกับชื่อและภาพโปรไฟล์ของบัญชี Facebook หรือ Instagram ที่ใช้ในการสมัคร
  • ต้องมีการตั้งค่าการรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัย (two-factor authentication)
  • สำหรับ Facebook สามารถสมัครใช้งาน เมตา เวอร์ริฟายด์ ด้วยโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณเท่านั้น เพจธุรกิจยังไม่มีสิทธิ์
  • สำหรับ Instagram คุณสามารถมีโปรไฟล์ธุรกิจหรือครีเอเตอร์ได้ แต่ต้องมีชื่อเต็มตามที่ปรากฏในรูปถ่ายบัตรประชาชนที่รวมอยู่ในชื่อโปรไฟล์ สามารถมีคำอื่นๆ ได้ เช่น ชื่อธุรกิจ คำอธิบายบริการ หรือบทบาท ไม่สามารถมีเพียงแค่ชื่อธุรกิจได้
  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับกิจกรรมการใช้งานขั้นต่ำ เช่น ประวัติการโพสต์ในอดีต
อย่างไรก็ตาม เมตา เวอร์ริฟายด์ ในตอนนี้ เหมาะสำหรับ Creator เท่านั้น เพราะระบบยังไม่รองรับการใช้งานกับ Facebook Page และส่วนของการเพิ่มการมองเห็นที่ทางเมตามีมาให้ในตอนแรกที่เปิดตัวถูกยกเลิกไปแล้วดังนั้นเจ้าของแบรนด์ยังไม่จำเป็นต้องสมัครแพ็คเกจ เมตา เวอร์ริฟายด์ ในเร็ววันนี้ครับ
 

ประโยชน์ของ Meta Verified

ประโยชน์ของ Meta Verified

ประโยชน์ของการสมัครแพ็คเกจ เมตา เวอร์ริฟายด์

หลังจากตรวจสอบหลักฐานสำคัญต่างๆ เพื่อยืนยันตัวตนของคุณแล้ว Meta จะมอบตราสัญลักษณ์ที่ได้รับการยืนยันแก่คุณ ซึ่งการได้รับการยืนยันบนโซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของสถานะเท่านั้น แต่มันมาพร้อมกับคุณประโยชน์หลายประการที่สามารถช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ส่วนตัว และเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณได้ ซึ่งประโยชน์ที่คุณจะได้รับนั้นมีหลายข้อเลยครับ
 

1. สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ

การยืนยันบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นวิธีการพิสูจน์ว่าคุณเป็นบัญชีที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ชมเห็นว่าคุณได้รับการยืนยันแล้ว พวกเขามีแนวโน้มที่จะไว้วางใจและติดตามคุณมากขึ้น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม
 

2. ปกป้องเอกลักษณ์และภาพลักษณ์

ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการได้รับการยืนยันเมตาบนโซเชียลมีเดียก็คือการช่วยปกป้องเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ส่วนตัว การยืนยันจะทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครสามารถแอบอ้างเป็นคุณหรือใช้ชื่อคุณเพื่อจุดประสงค์ที่เป็นอันตราย นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งหากคุณมีตัวตนและชื่อเสียงในโลกออนไลน์ที่แข็งแกร่ง
 

3. โอกาสมีผู้ติดตามมากขึ้น

หากคุณเป็นเน็ตไอดอล อินฟลูเอนเซอร์ หรือคนดังอยู่แล้ว คุณจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตามของคุณได้ไม่ยาก เนื่องจากผู้คนมักจะเชื่อมโยงกับบัญชีที่ได้รับการยืนยันมากขึ้นโดยเชื่อว่าบัญชีเหล่านั้นถูกต้องและเป็นของแท้ ด้วยบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว คุณจะไม่ต้องจัดการกับบัญชีและการโปรโมตอีกต่อไป คุณสามารถใช้บัญชีเพื่อโปรโมตทุกความต้องการของคุณ รวมถึงการสร้างแบรนด์ส่วนตัวด้วย
 
ผู้ติดตามยังชอบติดตามคนดัง ดังนั้นพวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะติดตามบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบเพื่อติดตามไลฟ์สไตล์ของคนดัง นอกจากนี้ด้วยการเพิ่มขึ้นของ YouTube และคนดังในโซเชียลมีเดีย คุณควรมีบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบเพื่อดึงดูดผู้ติดตามเพื่อสร้างกระแสนิยมให้มากขึ้น เมื่อการสมัครแพ็คเกจผ่านการตรวจสอบแล้ว คุณจะสามารถเชื่อมโยงบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมดของคุณเพื่อเริ่มเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบัญชีของคุณได้
 

4. การเข้าถึงคุณสมบัติพิเศษ

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบางแห่งนำเสนอฟีเจอร์พิเศษสำหรับบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว เช่น การเข้าถึงการวิเคราะห์ ข้อมูลเชิงลึก และเครื่องมืออื่น ๆ คุณลักษณะเหล่านี้สามารถช่วยคุณวัดประสิทธิภาพ ติดตามผู้ชม และเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์เนื้อหาของคุณได้ นอกจากนี้ เมื่อคุณสมัครสมาชิก เมตา เวอร์ริฟายด์ คุณจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงสติกเกอร์บน Facebook และ Instagram Stories ที่ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก สมาชิก เมตา เวอร์ริฟายด์จะได้รับ Facebook Stars100 ดวงต่อเดือน ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่ใน Facebook ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างสามารถสร้างรายได้จากสตรีมสดของตนเองได้
 

5. เข้าถึงความช่วยเหลือได้รวดเร็ว

Meta มีผู้ติดตามมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก ทำให้พนักงานอาจตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้ได้ยาก Meta มุ่งเน้นไปที่การทำให้แพลตฟอร์มเป็นมิตรกับผู้ใช้เป็นหลักโดยทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้แบบเสมือนจริง อย่างไรก็ตาม กรณีต่างๆ เช่น การถูกแฮกบัญชีอาจต้องการความช่วยเหลือพิเศษจากทีมสนับสนุน ผู้ใช้ส่วนใหญ่แทบจะไม่สามารถรับบริการสนับสนุนที่ต้องการได้เนื่องจากแพลตฟอร์ม Meta มีข้อกังวลด้านบริการลูกค้าที่ต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ด้วยการยืนยันตัวตนนี้จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงทีมช่วยเหลือได้ฟรีและทันที Meta จะตรวจสอบบัญชีของคุณในเชิงรุกเพื่อหาสัญญาณของการแอบอ้างจากบุคคลอื่น ซึ่งมีโอกาสน้อยที่คุณจะถูกกำหนดเป้าหมายโดยสแปมหรือการหลอกลวง ข้อดีอีกอย่างคือคุณสามารถสื่อสารกับบริการสนับสนุนผ่านบริการสื่อสารที่หลากหลาย เช่น โทรศัพท์ อีเมล หรือการสื่อสารบนแพลตฟอร์ม Meta เรียกได้ว่าสมาชิกจะสามารถเข้าถึงการสนับสนุนโดยตรงจากบุคคลจริง หากเกิดปัญหากับบัญชี Instagram หรือ Facebook ของพวกเขา
 

วิธีสมัครแพ็คเกจ เมตา เวอร์ริฟายด์

วิธีสมัคร Meta Verified

วิธีสมัครแพ็คเกจ Meta Verified

วิธีที่ 1 : สมัครจากแอป Instagram หรือ Facebook (330 บาท / เดือน) 

เปิด Instagram หรือ Facebook และจากโปรไฟล์ของคุณให้เลือกเมนูการตั้งค่า เลือก Accounts Center แล้วเลือก Meta Verified หากบัญชีของคุณมีสิทธิ์ จะมีข้อความว่า Verified available จากนั้นแตะที่ชื่อบัญชี ตรวจสอบรายการสิทธิประโยชน์ จากนั้นเลือก Continue เพื่อดำเนินการต่อจากนั้นให้ตั้งค่าการยืนยันวิธีการชำระเงินของคุณ แล้วแตะ Pay now เพื่อชำระเงิน ทำตามขั้นตอนการยืนยันให้เสร็จสิ้นและอัปโหลดรูปถ่ายบัตรประชาชนของคุณ โดยชื่อบนบัตรปีะชาชนของคุณต้องตรงกับชื่อโปรไฟล์และรูปถ่ายในบัญชี Instagram หรือ Facebook เท่านั้น

วิธีที่ 2 : สมัครจากเว็บอินเตอร์เฟสของ Facebook (280 บาท /เดือน)

  1. จากโปรไฟล์ Facebook ที่คุณต้องการยืนยัน ให้คลิกไอคอนจุดสามจุดทางด้านขวาของเมนูด้านบน
  2. คลิก Subscribe to Meta Verified
การยืนยันบัญชีของคุณอาจใช้เวลาสูงสุด 48 ชั่วโมง  ระยะเวลาที่ Meta ในการตรวจสอบและยืนยันบัญชีอาจแตกต่างกันไป แม้ว่า Meta จะไม่เปิดเผยลำดับเวลาที่เฉพาะเจาะจง แต่โดยทั่วไปแล้วกระบวนการตรวจสอบจะใช้เวลาสองสามวันถึงสองสามสัปดาห์ ระยะเวลาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณคำขอตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของข้อมูลที่ให้ไว้ เมื่อคุณได้รับการยืนยันแล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ ชื่อโปรไฟล์ วันเกิด หรือรูปถ่ายในบัญชีของคุณได้ (เว้นแต่คุณต้องการทำขั้นตอนการยืนยันอีกครั้ง) หากมีข้อกังวลหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะคำขอตรวจสอบของคุณ คุณสามารถลองติดต่อทีมสนับสนุนของ Meta หรืออ้างอิงถึงเอกสารและทรัพยากรที่แพลตฟอร์มให้ไว้
 
หมายเหตุ :  หากคุณต้องการยืนยันบัญชีบนทั้งสองแพลตฟอร์ม คุณยังคงต้องสมัคร (และชำระเงิน) แยกต่างหากบน Instagram และ Facebook
 
 
แหล่งที่มา :
 
 

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *