ชื่อบทความ – เดวิด โอกิลวี นักโฆษณาชื่อดัง เคยกล่าวไว้ว่า “โดยเฉลี่ยแล้วจะมีคนอ่านพาดหัวมากกว่าเนื้อหาถึงห้าเท่า” จากข้อความนี้ ตีความได้ไม่ยากครับว่าไม่ว่าเนื้อหาในบทความของคุณจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าหากชื่อบทความไม่เตะตาละก็ ผู้คนก็อาจจะไม่คลิกเข้าไปอ่านบทความที่คุณได้ทุ่มเทหาข้อมูลและถ่ายทอดออกมาก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม การตั้งชื่อบทความให้ดีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรง และ ความจริงก็คือชื่อบทความที่ดีมีความสำคัญต่อการตลาดเนื้อหาที่ประสบความสำเร็จ โดยสามารถเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่ามีเทคนิคในการตั้งชื่อบทความอย่างไรบ้าง ที่จะช่วยให้คุณสามารถดึงดูดผู้ชมให้คลิกเข้ามายังบทความในเว็บไซต์ของคุณได้
ชื่อบทความ (Blog Title) คืออะไร?
ชื่อบทความ หรือ Blog Title บางทีอาจเรียกว่า “หัวข้อข่าว” มักเป็นส่วนแรกบนบล็อกที่ผู้อ่านจะได้เห็นก่อนที่จะตัดสินใจอ่าน ชื่อบล็อกมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพิจารณาว่าผู้อ่านจะคลิกอ่านเนื้อหาในบล็อกหรือไม่ สิ่งนี้ทำให้จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการเขียนชื่อบล็อกที่จับใจเพื่อให้แน่ใจว่าโพสต์ในบล็อกของคุณมีอัตราการคลิกสูง
องค์ประกอบที่สำคัญของ ชื่อบทความ ที่ดี
ชื่อบล็อกหรือชื่อบทความที่ดีควรดึงดูดความสนใจหรือดึงดูดผู้อ่านให้คลิกชื่อบล็อกได้ทันที เพื่ออ่านโพสต์ในบล็อกทั้งหมด ลองนึกถึงสิ่งที่ดึงดูดให้คุณอ่านเนื้อหาในบล็อก แน่นอนว่ามันมักจะเป็น ชื่อเรื่อง ก่อนเสมอใช่มั้ยครับ นั่นเป็นเพราะมันคือสิ่งที่คุณเห็นเป็นอันดับแรก! ชื่อบบทความ คือสิ่งที่ดึงดูดผู้ชมมายังเว็บไซต์ หากชื่อบทความของคุณขาดชีวิตชีวาในสายตาของผู้ชมย่อมทำให้โอกาสในการคลิกเข้ามาดูในส่วนของเนื้อหาน้อยลงอย่างไม่ต้องสงสัย โดยทั่วไปชื่อบล็อกที่ดีมักจะมีลักษณะร่วมบางอย่างที่เหมือนกัน ได้แก่
1. สะดุดตา
หนึ่งในคุณสมบัติที่เด่นชัดของชื่อบล็อกที่ติดหูก็คือความสามารถในการดึงดูดความสนใจ ด้วยวิธีดึงดูดความสนใจที่ทำให้ผู้ชมสนใจที่จะคลิกต่อเพื่ออ่านเนื้อหาในบทความนี้ นี่คือคุณลักษณะสำคัญของชื่อบล็อกที่สะดุดตา กล่าวคือ สามรถดึงดูดอารมณ์ของผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความประหลาดใจ ความกลัว หรือความอยากรู้อยากเห็น การกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางอารมณ์สามารถทำให้ชื่อของบทความน่าจดจำยิ่งขึ้น
2. น่าเชื่อถือและน่าสนใจ
หากคุณเห็นหัวข้อที่อ่านว่า “ทำอย่างไรจึงจะสร้างรายได้ล้านล้านดอลลาร์ในหนึ่งปี!” ฉันแน่ใจว่าคุณจะรับรู้ว่ามันเป็นชื่อที่ฉ้อโกงหรือทำให้เข้าใจผิดในทันที เนื่องจากบุคคลไม่สามารถดึงความสำเร็จดังกล่าวออกมาได้ภายในหนึ่งปี แม้ว่าชื่อบล็อกที่ติดหูจะดูน่าสนใจ แต่ก็น่าเชื่อถือเช่นกัน พวกเขาอยู่ในจุดที่สูงที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้หากพวกเขาได้รับข้อมูลสำคัญบางอย่างที่โพสต์ในบล็อกนำเสนอ ตัวอย่างที่ดีของชื่อบล็อกที่น่าเชื่อถือจะมีลักษณะดังนี้
“วิธีที่ง่ายที่สุดในการเป็น Copywriter ที่ประสบความสำเร็จ” การสร้างชื่อบล็อกที่สะดุดตาถือเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้ชม และกระตุ้นให้พวกเขาคลิกและอ่านเนื้อหาของคุณ ต่อไปนี้คือคุณลักษณะและเทคนิคบางประการที่สามารถทำให้ชื่อบล็อกของคุณติดหูมากขึ้น
3. ใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการใช้คีย์เวิร์ดหลักในชื่อของคุณมีประโยชน์สำหรับ SEO และมันก็ค่อนข้างตรงไปตรงมา คุณเพียงแค่ต้องรู้ว่าคุณต้องการจัดอันดับคำหลักใดและรวมคำหลักนั้นๆ ไว้ในชื่อของคุณด้วย ตัวอย่างเช่น เรากำลังพยายามจัดอันดับบทความนี้ที่คุณกำลังอ่านสำหรับ “ชื่อบล็อก” ชื่อของหน้านี้คือ “7 สูตรชื่อบล็อกที่ได้รับการคลิก (พร้อมตัวอย่าง)” หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเพิ่มคำหลักของคุณอย่างไรคุณสามารถรับแนวคิดได้โดยการค้นหาคำหลักของคุณใน Google และดูชื่ออื่น ๆ ที่จัดอันดับในปัจจุบัน ดูว่าคู่แข่งของคุณทำผลงานอย่างไรและใช้ชื่อของพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจ หากคุณกำลังกำหนดเป้าหมายคำหลักที่ไม่สมเหตุสมผลทางไวยากรณ์ที่จะใส่ชื่อตามที่เป็นอยู่ คุณสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงได้
4. กระตุ้นอารมณ์
ในโลกแห่งการเขียนและการสื่อสาร อารมณ์เป็นเครื่องมือที่มีพลัง เป็นสะพานเชื่อมคุณกับผู้ฟังอย่างลึกซึ้ง การเลือกคำสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากมีศักยภาพในการสร้างอารมณ์ความรู้สึกมากมายภายในผู้อ่านของคุณ
ยกตัวอย่าง หากวัตถุประสงค์ของบทความคุณ คือการปลูกฝังความสุขให้กับผู้ชมเกี่ยวกับโอกาสในการประหยัดเงิน คำที่คุณเลือกเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การใช้คำต่างๆ เช่น “สนุกสนาน” “น่าตื่นเต้น” จะทำให้คุณมีความสามารถที่จะเติมแต่งเนื้อหาของคุณด้วยเนื้อหาเชิงบวกและยกระดับจิตใจ ดังนั้น แทนที่จะเลือกชื่อที่น่าเบื่ออย่างเช่น “เคล็ดลับการออมเงิน” คุณสามารถเลือกทางเลือกที่มีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดมากกว่า เช่น “เริ่มใช้กลยุทธ์ที่น่าตื่นเต้นเพื่อประหยัดเงินได้มากกว่า” การเปลี่ยนแปลงทางภาษาที่ละเอียดอ่อนนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจเท่านั้น แต่ยังช่วยกำหนดโทนเสียงสำหรับประสบการณ์การอ่านที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และน่าจดจำอีกด้วย
5. จุดประกายความอยากรู้อยากเห็น
การดึงดูดความสนใจของผู้ชมเป็นศิลปะ และความอยากรู้อยากเห็นเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดของคุณ โดยธรรมชาติแล้วผู้คนมักถูกดึงดูดไปยังสิ่งที่ไม่รู้ ทำให้พวกเขากระตือรือร้นที่จะเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังชื่อเรื่องที่น่าสนใจ เมื่อสร้างพาดหัวข่าว ให้พิจารณาใช้คำเช่น “ความลับ” “การค้นพบ” หรือ “เปิดเผย” คำพูดเหล่านี้จุดประกายให้ผู้อ่านเกิดความอยากรู้อยากเห็น โดยบอกว่าบทความของคุณมีสมบัติที่ซ่อนอยู่หรือข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าที่รอการค้นพบ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะตั้งชื่อเรื่องธรรมดาๆ เช่น “Budgeting 101” คุณสามารถดึงดูดผู้อ่านด้วยการใช้คำที่ดึงดูดมากกว่า เช่น “ค้นพบความลับของการจัดงบประมาณที่ง่ายดาย” เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนนี้ไม่เพียงเพิ่มเสน่ห์ให้กับเนื้อหาของคุณ แต่ยังเพิ่มโอกาสที่ผู้อ่านจะคลิก เพื่อสำรวจความลึกลับที่น่าสนใจที่คุณสัญญาว่าจะเปิดเผย โดยพื้นฐานแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นคือเข็มทิศของคุณ ซึ่งนำทางผู้อ่านให้ค้นพบการผจญภัยในบทความของคุณ
6. กระตุ้นความรู้สึกเร่งด่วน
การสร้างชื่อที่ดึงดูดความสนใจมักจะเกี่ยวข้องกับการใส่ความรู้สึกเร่งด่วนลงในข้อความของคุณ คำบางคำสามารถช่วยสื่อถึงความเร่งด่วนนี้ได้ กระตุ้นให้ผู้อ่านดำเนินการอย่างรวดเร็ว การใช้คำเช่น “ตอนนี้” “วันนี้” “ต้อง” หรือ “จำเป็น” หมายความว่าผู้ชมของคุณควรดำเนินการทันทีเพื่อประโยชน์ที่จะได้รับ กลยุทธ์นี้มีประสิทธิผลอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของผู้อ่าน ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเลือกใช้ชื่อที่ธรรมดาๆ เช่น “การเริ่มต้นวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี” ให้พิจารณาทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า เช่น “ขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีตั้งแต่วันนี้” การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยนี้สื่อสารแนวคิดที่ว่าการดำเนินการทันทีเป็นสิ่งสำคัญ หรือกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิก
7. ควบคุมพลังแห่งการกระทำ
เมื่อพูดถึงการตั้งชื่อเรื่องที่น่าดึงดูดใจคำแสดงหรือกริยาถือเป็นกุญแจสำคัญในการผสานความมีชีวิตชีวา และการมีส่วนร่วมเข้าไว้ด้วยกัน คำที่มีพลังเหล่านี้ เช่น “เปลี่ยนแปลง” “เพิ่มพลัง” “เพิ่มสูงสุด” ทำให้ชื่อของบทความคุณมีชีวิตชีวาขึ้นโดยระบุว่าบทความของคุณเป็นตัวเร่งให้เกิดการดำเนินการหรือการปรับปรุงในทางที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น แทนที่จะนำเสนอชื่อที่ค่อนข้างเรียบๆ เช่น “เคล็ดลับการทำอาหารเพื่อสุขภาพ” คุณสามารถเติมพลังและแรงจูงใจลงไปได้ด้วยการใช้คำว่า “เพิ่มสุขภาพให้ดีถึงขีดสุดด้วยเคล็ดลับการทำอาหารนี้สิ” ซึ่งคุณไม่เพียงแต่สัญญาว่าผู้อ่านจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเท่านั้น แต่ยังจุดประกายความปรารถนาที่จะดำเนินการในทันทีอีกด้วย
ความสำคัญของ ชื่อบทความ ที่ดี
ชื่อบทความสามารถสร้างหรือทำลายเนื้อหาของคุณได้ หากชื่อบทความของคุณขาดความน่าสนใจก็ไม่สำคัญว่าเนื้อหาภายในจะดีแค่ไหนหรือคุณใช้เวลาไปกับคีย์บอร์ดไปนานเท่าใด ชื่อบทความที่อิมแพคผู้คน คือ การเปิดประตูเข้าสู่โลกของลูกค้าและถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการซื้อที่มีศักยภาพ
ชื่อบทความไม่เพียงแต่เป็นพื้นฐานของความประทับใจแรกพบที่สำคัญของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงเนื้อหาชิ้นอื่นๆ ทั่วทั้งเว็บไซต์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา อีเมล หรือการแชร์บนโซเชียลมีเดีย ชื่อสามารถมองเห็นได้จากทุกที่ ซึ่งคุณจำเป็นต้องทำให้มันดูน่าสนใจที่จะคลิกในทันที เพื่อหยุดผู้อ่านไว้บนเส้นทางที่พวกเขาเชื่อมต่อกับคุณ
ลองนึกถึงวิธีที่ผู้คนคลิกเข้ามาที่บทความของคุณ พวกเขาเข้ามาเพราะอะไร ?
- บทความของคุณปรากฏในการค้นหาของ Google ?
- มีคนแชร์ลิงก์มายังบทความของคุณบนโซเชียลมีเดีย ?
- พวกเขาอยู่ในกลุ่มผู้ชมของคุณแล้ว และคุณได้ส่งอีเมลเกี่ยวกับบทความใหม่ออกไป ?
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ในกรณีเหล่านี้ทั้งหมดแน่นอนว่าพวกเขาเริ่มต้นจากการเห็นชื่อบทความของคุณก่อน ดังนั้นชื่อเรื่องจำเป็นต้องดึงดูดความสนใจของพวกเขาจริงๆ จากทั้ง 3 กรณีข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องแข่งขันกับสิ่งอื่นๆ มากมาย ที่พวกเขาสามารถหาอ่านได้ หากชื่อบทความของคุณทำงานได้ไม่ไดั พวกเขาอาจไม่มีวันเห็นบทความของคุณโดยเฉพาะบนหน้าเสริ์ชเอนจิ้น นั่นเป็นเพราะชื่อบทความถือเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับบนหน้าเว็บสำหรับ Google หากคุณไม่มีชื่อที่ชัดเจน รวมถึงคีย์เวิร์ดของคุณ คุณก็แทบจะไม่ได้รับการจัดอันดับสำหรับคำหลักนั้นๆ ไม่ว่าเนื้อหาของคุณจะยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ตาม
ชื่อเรื่องยังสามารถมีอิทธิพลต่อผู้ที่แชร์โพสต์ของคุณ หากโพสต์ของคุณมีชื่อที่กระชับและชัดเจน คุณจะเข้าใจได้ว่าเหตุใดผู้อ่านจึงมีแนวโน้มที่จะแชร์เรื่องนั้นๆ กับผู้ชมของพวกเขา ในความเป็นจริง เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากอ่านเฉพาะ ชื่อเรื่อง หรือ พาดหัว ก่อนที่จะแชร์บทความ โดยอาจจะยังไม่ได้คลิกเข้าไปอ่านบทความของคุณด้วยซ้ำ
1. ทำหน้าที่เป็นโฆษณาของบทความ
คำไม่กี่คำที่คุณเลือกใช้สำหรับชื่อโพสต์ของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคนส่วนใหญ่ที่เห็นโพสต์นั้นจะคลิกเพื่ออ่านมันหรือไม่ ในช่วงเวลาที่ผู้คนต้องตาลายไปกับโพสต์หลายร้อยโพสต์ในฟีด RSS จะถูกนำเสนอด้วยทางเลือกหลายพันรายการเมื่อพวกเขาค้นหาใน Google และจับตาดูโพสต์ใหม่ๆ มากมายบนเว็บไซต์โซเชียล พวกเขากำลังตัดสินใจเกี่ยวกับมูลค่าของโพสต์มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาจะตัดสินใจมีส่วนร่วมจากชื่อเรื่องหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ชื่อบทความของคุณทำหน้าที่เป็นโฆษณาขนาดเล็กสำหรับโพสต์ที่เหลือของคุณ ชื่อเรื่องมักเป็นสิ่งแรกที่ผู้มีโอกาสเป็นผู้อ่านจะเห็น ชื่อที่น่าสนใจและออกแบบมาอย่างดีสามารถดึงดูดความสนใจและทำให้ผู้คนอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของบล็อก
2. สำคัญต่อกลยุทธ์ SEO
เครื่องมือค้นหามักจะจัดลำดับความสำคัญของแท็กชื่อ (SEO Title) ในอัลกอริทึม การสร้างชื่อเรื่องด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้องสามารถปรับปรุงการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) ของบทความ และเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา เนื่องจากเครื่องมือค้นหาใช้ชื่อเรื่องเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาของบทความ ชื่อที่เกี่ยวข้องและเต็มไปด้วยคำหลักหรือคีย์เวิร์ดสามารถปรับปรุงการมองเห็นบทความในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาได้ ทำให้มีแนวโน้มที่จะถูกค้นพบโดยบุคคลที่ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ใช้ค้นหาได้ง่ายขึ้น ดังนั้น คำในชื่อโพสต์จึงมีพลังมากกว่าคำอื่นๆ ในโพสต์ของคุณ เมื่อพูดถึงวิธีที่ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ จัดทำดัชนีโพสต์แล้ว หากคุณต้องการได้รับการจัดอันดับสำหรับคำหลักบางคำ คุณควรหาวิธีที่จะรวมคำหลักนั้นไว้ในชื่อบทความของคุณเสมอ เหตุผลก็คือเสิร์ชเอนจิ้นมองชื่อเรื่องเป็นตัวบ่งชี้หัวข้อโพสต์ นอกจากนี้ยังดูที่ Tag และโครงสร้างลิงก์ หรือ URL ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับชื่อบทความของคุณเสมอ
3. เป็นประตูสู่การ Go Viral
ชื่อบทความเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเว็บไซต์ ไม่ใช่เพราะพวกเขาดึงดูดผู้คนให้ต้องคลิกเข้ามาอ่านเนื้อหาของคุณ แต่เนื่องจากชื่อนั้นอาจเป็นเหตุผลเดียวที่ผู้ใช้บางคนของเว็บไซต์เหล่านี้ลงคะแนนให้กับบทความของคุณ ชื่อที่สะดุดตา และน่าสนใจสามารถดึงดูดผู้ใช้ให้คลิกลิงก์เพื่ออ่านเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในโลกที่มีเนื้อหาจำนวนมากแข่งขันกันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
4. กำหนดความคาดหวัง
ชื่อของบทความที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีช่วยให้ระบุได้ชัดเจนว่าบทความนั้นมีความเกี่ยวข้องกับอะไร โดยจะกำหนดความคาดหวังสำหรับผู้อ่านเกี่ยวกับเนื้อหาและช่วยให้พวกเขาตัดสินใจว่าเนื้อหานั้นสอดคล้องกับความสนใจหรือความต้องการของพวกเขาหรือไม่
5. เพิ่มความน่าเชื่อถือ
ชื่อที่ดีย่อมบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจในรายละเอียด มันสามารถนำไปสู่ความน่าเชื่อถือโดยรวมของเนื้อหาและผู้เขียน ในทางกลับกัน ชื่อที่สร้างไม่ดีหรือทำให้เข้าใจผิดอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจได้ทุกเมื่อ
6 กลเม็ด การตั้งชื่อบทความ ให้ได้ Traffic
6 กลเม็ด ตั้งชื่อบทความ ให้ได้ Traffic เข้าเว็บ
1. ใส่คีย์เวิร์ดหลักในชื่อบทความ
การมีชื่อเรื่องของคุณอยู่ในใจตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการเขียนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อคุณเริ่มค้นคว้าคำหลักและระบุหัวข้อที่จะเขียน ทำให้ง่ายต่อการเชื่อมโยงชื่อเนื้อหาของคุณกับคำมั่นสัญญาในชื่อบล็อกของคุณ แน่นอนว่าชื่อเรื่องของคุณสามารถ (และอาจจะ) เปลี่ยนแปลงไปตามที่คุณทำ แต่คุณต้องการเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากการใส่คีย์เวิร์ดหลักของคุณในชื่อบทความนั้นมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ ได้แก่
- เพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) เครื่องมือค้นหาใช้ชื่อบทความเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการพิจารณาความเกี่ยวข้องของหน้าเว็บกับคำค้นหาเฉพาะ การใส่คีย์เวิร์ดหลักของคุณในชื่อเรื่องสามารถช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร เพิ่มโอกาสที่เพจของคุณจะมีอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา
- การมองเห็นและอัตราการคลิกผ่าน เมื่อผู้ใช้ทำการค้นหา พวกเขามักจะสแกนผลการค้นหาเพื่อหาชื่อที่ตรงกับข้อความค้นหาของตน หากชื่อบทความของคุณมีคำหลักที่พวกเขากำลังมองหา ก็มีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้มากขึ้น ซึ่งนำไปสู่อัตราการคลิกผ่านที่สูงขึ้น
- ความคาดหวังของผู้ใช้ : ชื่อที่จัดทำมาอย่างดีซึ่งมีคำหลักหลักจะทำให้ผู้อ่านทราบได้ชัดเจนว่าควรคาดหวังอะไรจากเนื้อหา ช่วยกำหนดความคาดหวังและช่วยดึงดูดผู้ชมที่เหมาะสมมายังบทความของคุณ
- การแบ่งปันทางสังคม : เมื่อผู้คนแชร์บทความของคุณบนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ชื่อเรื่องมักจะเป็นสิ่งแรกที่ถูกสังเกตเห็น ชื่อที่มีคีย์เวิร์ดหลักมีแนวโน้มที่จะสื่อถึงแก่นแท้ของเนื้อหาได้มากกว่า ทำให้สามารถแชร์ได้มากขึ้นและเพิ่มการเข้าถึงในที่สุด
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน : หากคู่แข่งของคุณเพิ่มประสิทธิภาพชื่อของตนสำหรับคำหลักเฉพาะเจาะจง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำเช่นเดียวกันเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ ชื่อที่ได้รับการปรับปรุงอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้เนื้อหาของคุณโดดเด่นในพื้นที่ออนไลน์ที่มีผู้คนหนาแน่น
แม้ว่าการระบุคำหลักจะมีความสำคัญ แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแน่ใจว่าชื่อนั้นน่าสนใจ ให้ความรู้ และสะท้อนถึงเนื้อหาของบทความอย่างถูกต้อง การสร้างสมดุลระหว่างการพิจารณา SEO กับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างชื่อที่มีประสิทธิภาพและมีผลกระทบ
2. เพิ่มตัวเลขในชื่อบทความ
คุณไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเลขในชื่อเรื่องเสมอไป แต่การทำเช่นนี้ถือเป็นทางลัดที่ดีเยี่ยมในการสร้างชื่อเรื่องที่ดึงดูดผู้อ่าน การใช้ตัวเลขเป็นวิธีที่รวดเร็วในการทำให้ผู้อ่านทราบว่าโพสต์จะมีความยาวเท่าใด นอกจากนี้ยังสามารถจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น วิธีสร้างรายได้จาก TikTok กับ 12 ไอเดีย ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง! แม้ว่าคุณจะไม่ต้องการเติมตัวเลขลงในชื่อโพสต์บล็อกของคุณทุกบทความ แต่การใช้ตัวเลขในตำแหน่งที่สมเหตุสมผลก็ถือเป็นเรื่องฉลาดและเป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มโอกาสในการได้รับคลิกมากขึ้น
3. บอกผู้อ่านถึงสิ่งที่คาดหวัง
ในอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยเนื้อหาจำนวนมากซึ่งอาจส่งผลให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลมากเกินไป เมื่อมีผลลัพธ์หลายร้อยรายการปรากฏขึ้นสำหรับข้อความค้นหาใน Google แน่นอนว่าผู้คนไม่มีเวลาอ่านทุกบทความในหน้าผลลัพธ์ ผู้อ่านต้องการทราบว่าพวกเขากำลังเจออะไรก่อนที่จะคลิกพาดหัว ซึ่งเป็นสาเหตุที่คุณต้องการให้ระบุอย่างชัดเจนว่าโพสต์ของคุณเกี่ยวกับอะไร เนื้อหาของคุณควรส่งมอบสิ่งที่ชื่อโพสต์บล็อกของคุณสัญญาไว้ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมไม่รู้สึกว่าพวกเขาต้องเสียเวลา ใครก็ตามที่คลิกพาดหัวจะรู้สึกมั่นใจกับสิ่งที่พวกเขากำลังเจอ ดังนั้น เมื่อเขียนชื่อเรื่องของคุณ พยายามระบุให้เจาะจง การใช้พาดหัวข่าวที่คลุมเครืออาจดูน่าสนใจน้อยกว่า เนื่องจากไม่ได้ให้สัญญาว่าผู้อ่านจะได้รับประโยชน์ใดๆ การบอกให้ผู้อ่านคาดหวังในบางสิ่งบางอย่างจะทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นและอยากคลิก
4. แบ่งปันเรื่องราวให้ผู้อ่านต้องการข้อมูลเพิ่ม
ทุกคนรักเรื่องราวที่ดี หากชื่อโพสต์บนบล็อกของคุณสามารถสื่อความหมายได้โดยไม่ต้องเปิดเผยมากเกินไป ชื่อเรื่องเหล่านั้นจะดึงดูดสายตาผู้อ่านของคุณ แม้ว่าพวกเขาจะสนใจหัวข้อนี้เพียงเล็กน้อย แต่ผู้อ่านก็อาจเต็มใจคลิกที่หัวข้อข่าวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น การเขียนหัวข้อขประเภทนี้ต้องใช้ความคิดอย่างรอบคอบ คุณไม่ต้องการให้อะไรมากเกินไป แต่คุณต้องการแบ่งปันให้มากพอที่จะดึงดูดผู้อ่านต่อ ลองแนะนำตัวละครหรือวัตถุที่สำคัญ และแบ่งปันเล็กน้อยว่าทำไมสิ่งเหล่านั้นจึงมีความสำคัญ
5. ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหา
คุณอาจทราบจากประสบการณ์ส่วนตัวว่าผู้คนมักใช้เครื่องมือค้นหาเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีในการทำสิ่งต่างๆ ผู้คนมีปัญหา และอินเทอร์เน็ตก็มีทางแก้ไขให้เสมอ หากบทความของคุณมีคำตอบสำหรับปัญหาทั่วไป คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อของบทความของคุณได้สะท้อนถึงสิ่งนี้ ด้วยการเริ่มต้นด้วยคำอย่างเช่น “เทคนิค” “วิธีการ” “เคล็ดลับ” เป็นความคิดที่ดี เนื่องจากผู้ใช้มักค้นหาคำต่างๆ เช่น “อย่างไร” “ทำไม” และ “อะไร” บน Search Engine ซึ่งทำให้ชื่อที่มีคำเหล่านี้รวมอยู่เหมาะสำหรับการได้อยู่ใน 10 อันดับแรกบน SERP
6. ตั้งชื่อให้สั้นและจับใจ
เลือกใช้ชื่อที่ สั้น สะดุดตา จดจำง่าย และสะกดง่าย แม้บางครั้งในการตั้งชื่อ อาจไม่เหมาะกับหลักทั้ง 4 ข้อนี้เสมอไป แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ทั้งหมดเหล่านี้เมื่อดำเนินการตั้งชื่อบทความของคุณ เพราะท้ายที่สุดแล้ว คุณต้องการให้ผู้อื่นสามารถค้นหาคุณเจอทางอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าชื่อที่สั้นและไพเราะสามารถช่วยคุณได้เสมอ เพราะชื่อที่ยาวและน่าเบื่อมักไม่จับใจผู้คน เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้การใช้คำสั้นดีกว่าก็คือชื่อบล็อกของคุณมักจะเป็นส่วนหนึ่งของชื่อในบทความในบล็อก WordPress หรือใน CMS ของคุณ ที่มักจะมีการกำหนดความยาวของชื่อบทความที่เหมาะสมเพื่อให้ส่งผลดีต่อการทำ SEO ของคุณ
สรุป
แนวทางทั้งหมดที่มาแนะนำวันนี้เป็นเพียงไม่กี่วิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเข้าชม Blog หรือบทความของคุณด้วยเทคนิคในการตั้งชื่อที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถทดลองตามคำแนะนำแต่ละข้อได้เป็นครั้งคราวจนกว่าจะพบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าโพสต์บนบล็อกของคุณตรงตามความคาดหวัง หากใครมาคาดหวังว่าจะได้เห็นสิงโตตัวใหญ่ อย่างน้อยพวกเขาก็ควรจะได้เจอสิงโตที่โตแล้ว พวกเขาไม่ควรเข้ามาแล้วเจอกับลูกสิงโตตัวน้อยๆ
เพราะสุดท้ายแล้วหากเนื้อหาในบล็อกให้ประโยชน์กับคนอ่านต่ำกว่าความคาดหวัง ผู้อ่านอาจออกจากบล็อกนั้นไปได้เร็วเท่ากับวินาทีที่พวกเขาเปิดหน้านั้นขึ้นมา นอกจากนี้ อย่าลืมทำให้ชื่อของคุณเป็นมิตรกับ SEO เสมอ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดหากชื่อของคุณฟังดูน่าสนใจแต่ไม่เป็นมิตรกับ SEO ชื่อนั้นอาจถูกฝังกลบอยู่ในหน้าค้นหาหลายพันหรือหลายล้านหน้าและอาจไม่มีใครเห็นบทความนั้นเลย สุดท้ายนี้ขออวยพรให้คุณประสบความสำเร็จกับการเขียนบทความเรื่องต่อไปของคุณนะครับ
แหล่งที่มา :
