หลังจากที่ทุกคนได้เข้าใจแล้ว่าการทำโฆษณาบนไลน์คืออะไร ทำไมธุรกิจของคุณควรลงทุนทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้ รวมไปถึงรูปแบบของโฆษณาในรูปแบบต่างๆ แล้ว วันนี้เราจะพาไปลงมือสร้างโฆษณาบน LINE ได้ง่ายๆ ที่คุณก็สามารถทำได้ด้วยตนเองค่ะ
ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการลงโฆษณาบน LINE Ads Platform สามารถซื้อโฆษณาได้ด้วยตนเอง หรือจะซื้อโฆษณาผ่านเอเจนซี่ก็ได้เช่นกันค่ะ มีขั้นตอนในการทำโฆษณาอะไรบ้าง และจะวัดผลอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ
1)สร้างบัญชี LINE Business ID และเข้าสู่ระบบที่ Admanager.line.biz
-
เปิด ลิงก์นี้ > คลิกที่ “สร้างบัญชี”
-
ที่คุณต้องการใช้ล็อกอินแล้วคลิก “ส่งลิงก์ลงทะเบียนใช้บริการ”
-
ระบบจะส่งอีเมลสำหรับลงทะเบียนไปยังอีเมลแอดเดรสที่คุณกรอก กรุณาตรวจสอบเนื้อหาแล้วคลิกที่ลิงก์สำหรับลงทะเบียนที่อยู่ในอีเมล
-
กรอกชื่อและรหัสผ่าน > คลิก “ลงทะเบียน”
-
เมื่อข้อความ “เสร็จสิ้นการลงทะเบียนแล้ว” ปรากฏ > คลิกที่ “เริ่มใช้บริการ”
-
ตรวจสอบข้อกำหนดการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัว แล้วคลิกที่ “ยอมรับและดำเนินการต่อ”
2)สร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณา เพิ่มข้อมูล พร้อมแนบเอกสารที่จําเป็น
บัญชีผู้ใช้โฆษณา คือบัญชีสำหรับจัดการโฆษณาของ LINE Ads Platform สามารถสร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณาได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เปิดกลุ่มที่ต้องการสร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณา > คลิกเลือกแท็บ “บัญชีผู้ใช้โฆษณา” > คลิกที่ “+ บัญชีผู้ใช้โฆษณาใหม่”
- กรอกข้อมูลหัวข้อต่างๆ แล้วคลิกที่ “สร้าง”
2.วิธีสร้างแคมเปญโฆษณา
เมื่อคุณมีบัญชีผู้ใช้โฆษณาแล้ว คุณสามารถเริ่มสร้างแคมเปญ เพื่อลงโฆษณาผ่านช่องทาง LINE Ads Platform ซึ่งในการสร้างแคมเปญโฆษณาจะประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
1.กำหนดวัตถุประสงค์ของแคมเปญ
1.กำหนดวัตถุประสงค์ของแคมเปญแบ่งตามวัตถุประสงค์
ในการเริ่มต้นทำแคมเปญเราต้องกำหนดวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาก่อน ว่ารูปแบบใดที่จะตอบโจทย์กับเป้าหมายของบริษัท ซึ่งในการทำโฆษณาบน LINE Ads Platform ก็มีวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาที่หลากหลาย เช่น
- การเข้าชมเว็บไซต์
- เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน
- ติดตั้งแอป
- การมีส่วนร่วมในแอป
- เพิ่มเพื่อน
- ดูวิดีโอ
สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่องวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาได้ที่ : LINE Official Account คืออะไร? ช่วยธุรกิจในการทำโฆษณาอย่างไรบ้าง
2.กำหนดงบประมาณ
การกำหนดงบประมาณของแคมเปญเราสามารถตั้งค่าได้ 2 แบบ ได้แก่ “ต่อเดือน” โดยคำนวณแยกเป็นรายเดือน และ “ทั้งหมด” ซึ่งคำนวณรวมตลอดช่วงเวลาที่แสดงโฆษณา
เนื่องจากรายการที่จะถูกเรียกเก็บเงินแตกต่างกัน จึงแนะนำให้ตรวจสอบกรณีตัวอย่างและข้อควรระวังก่อนทำการโฆษณา
เช่น: กำหนดเวลาการโฆษณาจาก วันที่ 1 กันยายน ถึง 10 ตุลาคม และวงเงินใช้จ่ายแคมเปญโฆษณาคือ 10,000 บาท/เดือน ในกรณีที่เปลี่ยนการตั้งค่างบประมาณแคมเปญเป็น 15,000 บาท ในวันที่ 10 กันยายน ระบบจะใช้จำนวนเงินที่เปลี่ยนแปลงเป็นงบประมาณรายเดือนนับจากตอนนั้น
กล่าวคือเปลี่ยนแปลงเป็น งบประมาณเดือนกันยายน 15,000 บาท และงบประมาณเดือนตุลาคม 15,000 บาท หากคุณต้องการปรับงบประมาณแคมเปญเดือนตุลาคมเท่านั้น โปรดสร้างแคมเปญโฆษณาใหม่หรือเปลี่ยนค่างบประมาณหลังเข้าสู่เดือนตุลาคม
ในบางกรณีอาจมีการเรียกเก็บเงินขึ้นหลังจากสิ้นสุดแคมเปญโฆษณา แต่ระบบจะปรับลบในภายหลังเมื่อมีการเรียกชำระเงิน อย่างไรก็ตามหากมีการเปลี่ยนแปลงเวลาสิ้นสุดของแคมเปญ ภายใน 25 ชั่วโมงจากนับจากเวลาปัจจุบันตอนตั้งค่าการปรับ หลังจากการตั้งค่าโฆษณาเสร็จสิ้นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังสิ้นสุดแคมเปญโฆษณาอาจรวมอยู่ในการเรียกชำระเงิน
3.เลือกกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย (Audience) คือ การกำหนดเป้าหมาย โดยใช้ข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือข้อมูลการดำเนินการภายในแอปพลิเคชัน, ข้อมูลเพื่อนของ LINE Official Account, ข้อมูลลูกค้า มาช่วยค้นหาผู้ใช้งาน LINE ที่เป็นลูกค้าของคุณอยู่แล้วเพื่อนำมาใช้ในการเผยแพร่โฆษณา
กลุ่มเป้าหมายของ LINE มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ
- กลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audience) ที่เหมาะสมได้ โดยกำหนดเพศ, อายุ, ตําแหน่งที่ตั้ง (จังหวัด, ภาค,เขต และสามารถกำหนดรัศมีได้), ระบบปฎิบัติการมือถือ และความสนใจ
- กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience) โดยแบรนด์สามารถนำฐานข้อมูลลูกค้าเหล่านี้มาใช้ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้
- Website / App – สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ผ่าน LINE tags บนเว็บไซต์ หรือ SDK บนแอปพลิเคชันเพื่อระบุกลุ่มลูกค้าที่เคยเข้าเว็บไซต์, เคยเปิดแอปพลิเคชัน เป็นต้น
- Device ID / Phone / Email – แบรนด์สามารถอัปโหลดฐานข้อมูลที่มี ไม่ว่าจะเป็น รหัสเฉพาะเครื่อง (ADID/ IDFA), หมายเลขโทรศัพท์, และอีเมลเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง
- LINE Official Account – เชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับ LINE Official Account ของแบรนด์ เช่นโฆษณาหากลุ่มคนที่เคยติดตามแต่กด Block, กลุ่มคนที่เคยเห็นข้อความบรอดแคสต์บน LINE Official Account เป็นต้น
- VDO View – เก็บข้อมูลการรับชมโฆษณาประเภทวิดีโอที่เคยสร้างแคมเปญบน LINE Ads Platform
- Smart Channel – เก็บข้อมูลกลุ่มผู้ชมที่เคยคลิกหรือดู VDO Expandable ของแบรนด์บน Smart Channel
- Lookalike Audience – การหาลูกค้าใหม่ที่ใกล้เคียงกับฐานลูกค้าเดิม ทั้งผู้ติดตามบน LINE Official Account ผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือผู้ใช้แอปพลิเคชัน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ยอดขายเพิ่มมากยิ่งขึ้น
4.รูปแบบโฆษณา
กรณีชำระเงินแบบ CPM สามารถเลือกได้ระหว่างรูปภาพ วิดีโอ และภาพสไลด์
กรณีชำระเงินแบบ CPC สามารถเลือกได้ระหว่างรูปภาพและภาพสไลด์
5.รออนุมัติภายใน 48 ชั่วโมง
เมื่อคุณนำส่งโฆษณา จะมีทีมงานไลน์ดำเนินการพิจารณา “โฆษณา” และ “มีเดีย” ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากนั้นโฆษณาจะสามารถเผยแพร่ได้ต่อเมื่อทั้งสองสิ่งผ่านการอนุมัติแล้ว
สามารถตรวจสอบสถานะการพิจารณามีเดียได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกที่ “≡” > ไปที่หัวข้อ “ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน” > “มีเดีย”
- ตรวจสอบ “สถานะการพิจารณา”
สถานะที่แสดงในหน้า “สถานะการพิจารณา” มีดังต่อไปนี้
- กำลังพิจารณา คือสถานะที่อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณา สามารถสร้างโฆษณาได้ แต่ไม่สามารถเผยแพร่ได้
- พร้อมใช้งาน คือสถานะที่พิจารณาเสร็จสิ้นและผ่านการอนุมัติแล้ว สามารถเผยแพร่โฆษณาได้เมื่อตั้งค่าเสร็จ
- ปฏิเสธ คือสถานะที่พิจารณาแล้วไม่อนุมัติ ไม่สามารถเผยแพร่โฆษณาได้ เหตุผลที่ปฏิเสธจะปรากฏเมื่อเลื่อนเคอร์เซอร์เมาส์ไว้บนสัญลักษณ์ “?”
3.สร้างชิ้นงานสำหรับโฆษณา
สำหรับใครที่ไม่ถนัดในเรื่องการออกแบบหรือพวกกราฟิกทางไลน์ได้มีตัวช่วยโดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างโฆษณาบน LINE Ads Platform แต่ทำกราฟิกไม่เป็นอย่าง LINE Creative Lab ให้คุณสามารถสร้างชิ้นงานโฆษณาสวย ๆ ได้ในไม่กี่คลิก มีเทมเพลตให้เลือกใช้หลกหลาย
4.วิธีการวัดผลโฆษณา
1.Impression – การเห็นโฆษณา
จำนวนครั้งที่โฆษณา LINE ได้แสดงออกไป โดยเราสามารถวัดผลได้ในทันทีเมื่อโฆษณานั้นได้แสดงออกไปใน LINE Ads Platform ของผู้ใช้งาน ถึงแม้ว่าผู้ที่เห็นโฆษณาจะเป็นคนเดิมก็ตาม โดยการเห็นโฆษณา
เหมาะสำหรับแคมเปญที่อยากสร้างการรับรู้หรืออยากให้คนจดจำแบรนด์ได้
ตัววัดค่า Impression คือ CPM ย่อมาจาก Cost Per 1000 Impression ซึ่ง ผู้โฆษณาที่ใช้โฆษณาแบบ CPM จะตั้งราคาที่ต้องการต่อการแสดงโฆษณา 1,000 ครั้ง และจ่ายเงินทุกครั้งที่โฆษณาปรากฏ
2.Click – การคลิก
การที่ผู้ใช้งานได้คลิกโฆษณานั้นๆ เช่น ผู้เห็นโฆษณาได้คลิกปุ่ม หรือลิงก์ที่แบรนด์ได้สร้างไว้เพื่อเข้าไปชมเว็บไซต์ของแบรนด์ ซึ่งเหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการดูเรื่องคลิกเป็นหลัก เช่น ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
ตัวที่ใช้วัดการคลิก คือ CPC ย่อมาจาก Cost Per Click ซึ่งจะเกิดการเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนมาคลิกที่โฆษณานั้นๆ ตามราคาที่ได้กำหนดไว้
3.Add Friends – การเพิ่มเพื่อน
ในแพลทฟอร์มของ LINE Official Account จะมีฟีเจอร์การเพิ่มเพื่อน ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้เลยว่าในแต่ละ Account ของแบรนด์นั้นมีเพื่อนอยู่จำนวนเท่าไร และฟีเจอร์นี้ยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากแบรนด์สามารถส่งข่าวสารและโฆษณาให้ลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนเข้ามาได้โดยตรงผ่าน ระบบ Broadcast
สำหรับค่าที่ใช้ในการวัดการเพิ่มเพื่อน คือ CPF ย่อมาจาก Cost Per Friend ซึ่งจะมีการเสียเงินค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีลูกค้าเพิ่มเพื่อนคุณใน LINE OA เท่านั้น
4.จำนวนการดูวิดีโอ
เป็นการวัดต้นทุนต่อการรับชมวิดีโอโฆษณา ซึ่งจะแบ่งออกเป็นระยะเวลาในการรับชมวิดีโอกับจำนวน % ในการรับชม ซึ่งตัวเลขเหล่าสามารถบอกได้ถึงคุณภาพของโฆษณากับความสนใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์
5.จำนวนคอนเวอร์ชันบนเว็บไซต์
เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน คือ การวัดผลคอนเวอร์ชันบนเว็บไซต์การวัดผลคอนเวอร์ชันบนเว็บไซต์จำเป็นต้องติดตั้ง LINE Tag ซึ่งการวัดผลเว็บไซต์คอนเวอร์ชันมี 2 ประเภท คือ การวัดผลโดยใช้คอนเวอร์ชันโค้ด และ การวัดผลโดยคอนเวอร์ชันแบบกำหนดเอง
การวัดผลโดยใช้คอนเวอร์ชันโค้ด จำเป็นต้องติดตั้งคอนเวอร์ชันโค้ดในตำแหน่งคอนเวอร์ชัน เมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณาซึ่งแสดงบน LINE Ads Platform แล้วเข้าชมเว็บไซต์ที่ติดตั้งคอนเวอร์ชันโค้ดเอาไว้ ระบบจะเรียก LINE Tag ขึ้นมาทำงานและนับจำนวนคอนเวอร์ชัน
ระบบจะตรวจสอบข้อมูล Cookie ของผู้ใช้ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ว่ามีการคลิกที่โฆษณาหรือไม่ หากมีการคลิกโฆษณาในช่วงระยะเวลาการวัดผล (คอนเวอร์ชันโค้ดมีระยะเวลา 30 วัน) จะถูกนับเป็นค่าคอนเวอร์ชัน
การวัดผลด้วยคอนเวอร์ชันแบบกำหนดเอง เหมาะสำหรับกรณีต่อไปนี้
- ต้องการติดตั้งคอนเวอร์ชันโค้ดในตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งคอนเวอร์ชัน
- ต้องการวัดผลคอนเวอร์ชันด้วย URL หรืออีเวนท์ที่กำหนดเอง
- ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนระยะเวลา
6.จำนวนการติดตั้งแอป
เมื่อต้องการวัดผลของอีเวนท์ เช่นการติดตั้งหรือเปิดแอปพลิเคชัน จำเป็นต้องใช้การวัดผล SDK ที่เชื่อมโยงกับ LINE Ads Platform
SDK เชื่อมโยงที่สามารถใช้งานได้คือ Appflyers, Adjust และ Kochava ซึ่งสามารถวัดผลของอีเวนท์ได้ 11 ประเภท เช่น การติดตั้งหรือเปิดแอปพลิเคชัน
5.ตัวช่วยในการทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มไลน์
สำหรับหลายๆ คนที่มองหาตัวช่วยในการทำโฆษณา หรือต้องการที่ปรึกษาที่ช่วยให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น TALKA TALKA เรามีทีมงานที่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาในการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE รวมไปถึงกลยุทธ์ในการฟีดคอนเทนต์ต่างๆ ในแต่ละช่องทางเพื่อสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใช่
สรุป
ในการสร้างโฆษณาบน LINE Ads Platform สามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือผ่านเอเจนซี่ซึ่งมีขั้นตอนหลักๆ คือ การกำหนดวัตถุประสงค์หลักในการทำโฆษณา การกำหนดงบประมาณและระยะเวลาที่ต้องการโปรโมท การเลือกกลุ่มเป้าหมายและกลยุทธ์ในการประมูล การเลือกรูปแบบโฆษณา และสุดท้ายรออนุมัติภายใน 48 ชั่วโมง
แหล่งอ้างข้อมูลและรูปภาพ
