Mobile Marketing กับ 9 เทคนิคมัดใจลูกค้า เพื่อเพิ่มยอดขาย

Mobile Marketing

Mobile Marketing – คุณมีมือถือเครื่องแรกตอนอายุเท่าไหร่? เชื่อว่ามีผู้อ่านหลายคนเกิดทันยุคที่มือถือมีไว้ใช้ติดต่อสื่อสารหรือเล่นเกมส์แก้เบื่อเท่านั้น แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การตลาดบนมือถือหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ก็เริ่มแพร่หลาย จนกลายเป็นช่องทางในการทำการตลาดที่สำคัญของหลายธุรกิจ เนื่องจากยุคนี้ใครๆ ก็มีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตพกติดตัวเป็นเรื่องปกติ แบรนด์ที่คาดหวังที่จะประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลจะมองข้ามศักยภาพของช่องทางนี้ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งวันนี้ Talka จะมาบอกต่อเทคนิคการทำการตลาดกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้มีประสิทธิภาพเพื่อมัดใจลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้คุณได้ครับ

Mobile Marketing คืออะไร?

Mobile Marketing คืออะไร

ทำความเข้าใจ Mobile Marketing คืออะไร?

Mobile Marketing หรือ การตลาดผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ หมายถึง เทคนิคการตลาดออนไลน์หลายช่องทางที่มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ โดยเกี่ยวข้องกับการโปรโมตผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางมือถือหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น เว็บไซต์ อีเมล SMS โซเชียลมีเดีย และแอปมือถือ 
 

ความเป็นมาของ Mobile Marketing

ความเป็นมาของ Mobile Marketing

การตลาดผ่านมือถือได้พัฒนาไปอย่างมากนับตั้งแต่มีอุปกรณ์มือถือเข้ามามีบทบาท ต่อไปนี้คือประวัติ และการพัฒนาโดยคร่าวๆ ครับ

1. ยุคเริ่มต้น (ช่วงปี 1990 ถึงต้นยุค 2000) 

แนวคิดการตลาดผ่านมือถือเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการถือกำเนิดของโทรศัพท์มือถือในช่วงทศวรรษ 1990 ในช่วงแรกนั้นแนวคิดนี้จำกัดอยู่แค่ข้อความ SMS เท่านั้น ธุรกิจต่างๆ จะส่งข้อความส่งเสริมการขายไปยังลูกค้าที่สมัครรับบริการ ถือเป็นวิธีปฏิวัติวงการในการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงและเป็นการส่วนตัว
 

2. การเติบโตของการตลาดผ่าน SMS (ต้นถึงกลางยุค 2000)

เมื่อการใช้โทรศัพท์มือถือแพร่หลายมากขึ้น การตลาดผ่าน SMS ก็ซับซ้อนมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ เริ่มใช้รหัสสั้นๆ เพื่อให้สมัครรับบริการได้ง่ายขึ้น และนำแคมเปญที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นมาใช้ ในยุคนี้ยังได้เห็นการถือกำเนิดของคูปองมือถือและการแข่งขันส่งข้อความเพื่อชิงรางวัล
 

3. ยุคแห่งสมาร์ทโฟน (ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป)

การเปิดตัว iPhone ในปี 2007 และสมาร์ทโฟนรุ่นต่อๆ มาทำให้การตลาดผ่านมือถือเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งทันใดนั้น นักการตลาดก็สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันหลากหลายพร้อมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชัน และความสามารถมัลติมีเดียขั้นสูง
 

4. การตลาดบนแอปฯ (ช่วงปลายทศวรรษ 2000 ถึงต้นทศวรรษ 2010)

ด้วยการเพิ่มขึ้นของ App Store ธุรกิจต่างๆ จึงเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชันของตนเองเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด ซึ่งทำให้ประสบการณ์ทางการตลาดมีส่วนร่วมและโต้ตอบได้มากขึ้น การแจ้งเตือนแบบพุช (Push Notification ) กลายเป็นช่องทางใหม่ในการเข้าถึงผู้บริโภค
 

5. การตลาดบนตำแหน่งที่ตั้ง (ต้นทศวรรษ 2010)

ความสามารถของ GPS ในสมาร์ทโฟนทำให้การตลาดบนตำแหน่งที่ตั้งเป็นไปได้ ธุรกิจต่างๆ สามารถกำหนดเป้าหมายผู้บริโภคตามตำแหน่งที่ตั้งทางกายภาพของพวกเขาได้โดยเสนอโปรโมชั่นและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
 

6. การผสานรวมโซเชียลมีเดีย (ทศวรรษ 2010)

เนื่องจากการใช้งานโซเชียลมีเดียบนอุปกรณ์พกพาเพิ่มขึ้น จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดบนอุปกรณ์พกพา แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Twitter และ Instagram นำเสนอวิธีใหม่ๆ ในการเข้าถึงผู้บริโภคบนอุปกรณ์พกพา
 

7. แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ (กลางทศวรรษ 2010)

แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือโดยเฉพาะจึงเกิดขึ้น ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายและวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น Google AdMob และ iAd ของ Apple เป็นผู้บุกเบิกในพื้นที่นี้ ซึ่งต่อมาได้ยุติการผลิตไปแล้ว
 

8. วิดีโอและสื่อผสม (กลางถึงปลายปี 2010)

ความเร็วอินเทอร์เน็ตบนมือถือและความสามารถของอุปกรณ์ที่ดีขึ้นทำให้โฆษณาวิดีโอและสื่อผสมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ประสบการณ์การตลาดบนมือถือมีส่วนร่วมและดื่มด่ำมากขึ้น
 

9. การปรับแต่งและ AI (ปลายปี 2010-ปัจจุบัน)

การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและ Artificial Intelligence (AI) ทำให้การตลาดบนมือถือปรับแต่งได้สูง นักการตลาดสามารถส่งมอบเนื้อหาและข้อเสนอที่ปรับแต่งได้ตามพฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้แต่ละคน
 

10. การตลาดด้วยความจริงเสริม (AR) (ปลายปี 2010-ปัจจุบัน)

เทคโนโลยี AR ได้เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับประสบการณ์การตลาดบนมือถือแบบโต้ตอบ แบรนด์ต่างๆ สามารถเสนอการลองใช้แบบเสมือนจริง การสาธิตผลิตภัณฑ์แบบเสมือนจริง และโฆษณาแบบโต้ตอบได้
 

11. การตลาดที่สั่งงานด้วยเสียง (ปี 2020)

ด้วยการเพิ่มขึ้นของผู้ช่วยแบบเสียงบนอุปกรณ์พกพา นักการตลาดจึงกำลังสำรวจวิธีต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากการค้นหาและคำสั่งที่สั่งงานด้วยเสียงในกลยุทธ์ของตน
 

12. การตลาดที่เน้นความเป็นส่วนตัว (ปี 2020)

ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแนวทางปฏิบัติทางการตลาดบนมือถือ นักการตลาดกำลังปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบใหม่ๆ และมุ่งเน้นไปที่การสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภค
 

13. 5G และ IoT (ปัจจุบันและอนาคต)

การเปิดตัวเครือข่าย 5G และการเติบโตของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) พร้อมที่จะปฏิวัติการตลาดบนมือถือให้มากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดประสบการณ์ที่เชื่อมต่อและดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น
 
เราจะเห็นได้ว่าการตลาดบนมือถือได้ปรับตัวให้เข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้พัฒนาจากข้อความธรรมดาๆ ไปสู่กลยุทธ์ที่ซับซ้อนและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
 
ในขณะที่อุปกรณ์พกพายังคงมีบทบาทสำคัญในชีวิตของผู้บริโภค การตลาดบนมือถือจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การตลาดโดยรวมสำหรับธุรกิจต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรม

ประโยชน์ของ Mobile Marketing

ประโยชน์ของ Mobile Marketing
การตลาดผ่านมือถือ เป็ฯกลยุทธ์ที่มีประโยชน์มากมายสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็น การมีส่วนร่วม และประสิทธิภาพการตลาดโดยรวม

1. การเข้าถึงที่กว้างขึ้น

ด้วยผู้ใช้มือถือมากกว่า 7 พันล้านคนทั่วโลก การตลาดผ่านมือถือจึงมอบโอกาสที่ไม่มีใครเทียบได้ในการเชื่อมต่อกับผู้ชมจำนวนมากให้กับแบรนด์ต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่มาจากอุปกรณ์พกพา ดังนั้น การใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านมือถือจึงช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถทำลายกำแพงทางภูมิศาสตร์ และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

2. การเข้าถึงและความทันท่วงที

การตลาดผ่านมือถือช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อความจะถูกส่งถึงอย่างรวดเร็ว ความทันท่วงทีนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับโปรโมชันที่จำกัดเวลา เช่น การขายแบบแฟลชหรือข้อเสนอแบบจำกัดเวลา ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์
 

3. อัตราการมีส่วนร่วมสูง

ลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์พกพาทำให้มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่องทางการตลาดแบบเดิม คุณสมบัติต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนแบบพุชและโฆษณาแบบปรับแต่งสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้มีการโต้ตอบกับเนื้อหาของแบรนด์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์พกพามีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียและกิจกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์
 

4. ความคุ้มทุน

การตลาดผ่านมือถือโดยทั่วไปแล้วคุ้มทุนกว่าวิธีการตลาดแบบเดิม ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถดำเนินการตามแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายได้ ซึ่งจะช่วยลดการใช้จ่ายโฆษณาที่สูญเปล่าและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้สูงสุด ประสิทธิภาพนี้ทำให้การตลาดผ่านมือถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจทุกขนาด
 

5. การปรับแต่งส่วนบุคคล

การตลาดผ่านมือถือช่วยให้ปรับแต่งได้ในระดับสูง ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถปรับแต่งข้อความตามความต้องการและพฤติกรรมส่วนบุคคลได้ การปรับแต่งนี้ช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องของการสื่อสารทางการตลาด ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมีคุณค่าและเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมและความภักดี
 

6. การกำหนดเป้าหมายตามตำแหน่งที่ตั้ง

แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดตามตำแหน่งที่ตั้งเพื่อส่งมอบเนื้อหาและข้อเสนอที่เกี่ยวข้องให้กับผู้บริโภคตามตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ความสามารถนี้ช่วยให้กำหนดเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถเพิ่มความเกี่ยวข้องของข้อความทางการตลาดได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในท้องถิ่น
 

7. ผลลัพธ์ที่วัดผลได้

แคมเปญการตลาดผ่านมือถือสามารถติดตามและวิเคราะห์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้แบรนด์ได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคและประสิทธิภาพของแคมเปญ แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์ของตนให้เหมาะสมได้อย่างต่อเนื่องและปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาดในระยะยาว
 
โดยสรุปแล้ว การตลาดผ่านมือถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ดิจิทัลในปัจจุบัน โดยมอบการเข้าถึงที่กว้างขวาง การสื่อสารทันที การมีส่วนร่วมสูง ความคุ้มทุน การปรับแต่ง และผลลัพธ์ที่วัดผลได้

9 เทคนิค Mobile Marketing เพื่อเพิ่มยอดขาย

9 เทคนิค Mobile Marketing เพื่อเพิ่มยอดขาย
ในการใช้เทคนิคการตลาดบนมือถืออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้า กลยุทธ์ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ
 

1. ปรับแต่งเว็บไซต์บนมือถือ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับมือถือ (Mobile Friendly) มีการออกแบบที่ตอบสนอง (Mobile Responsive) เวลาในการโหลดที่รวดเร็ว และการนำทางที่ง่ายดาย ประสบการณ์บนมือถือที่ราบรื่นสามารถลดอัตราการตีกลับได้อย่างมากและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ส่งผลให้มีอัตราการแปลงที่สูงขึ้น
 

2. ใช้การตลาดทาง SMS

ใช้ประโยชน์จากการตลาดทาง SMS เพื่อส่งโปรโมชั่นส่วนบุคคลและข้อเสนอที่จำกัดเวลาโดยตรงไปยังโทรศัพท์ของลูกค้า วิธีนี้มีอัตราการเปิดสูง โดยข้อความมักจะถูกอ่านภายในไม่กี่นาทีหลังจากได้รับ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามกฎระเบียบโดยขอความยินยอมก่อนส่งข้อความ
 

3. ใช้การกำหนดเป้าหมายตามตำแหน่งที่ตั้ง

ใช้การกำหนดขอบเขตทางภูมิศาสตร์เพื่อส่งข้อเสนอที่กำหนดเป้าหมายไปยังลูกค้าเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้ร้านค้าจริงของคุณ แนวทางนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชม และอาจมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโปรโมชั่นหรือกิจกรรมพิเศษ
 

4. ปรับแต่งการแจ้งเตือนแบบพุช

ส่งการแจ้งเตือนแบบพุชส่วนบุคคลผ่านแอปมือถือของคุณเพื่อดึงดูดผู้ใช้ แบ่งกลุ่มผู้ชมตามความชอบและพฤติกรรมเพื่อส่งข้อความที่เกี่ยวข้อง เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่หรือการขายพิเศษ
 

5. ใช้ QR Code 

ใช้รหัส QR ในสื่อการตลาดเพื่อให้เข้าถึงโปรโมชั่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือข้อเสนอพิเศษได้อย่างรวดเร็ว รหัส QR สร้างได้ง่ายและลูกค้าสามารถสแกนได้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การช้อปปิ้งของตน
 

6. ใช้ประโยชน์จากแอปมือถือ

พัฒนาแอปมือถือที่มีตราสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการโต้ตอบโดยตรงกับลูกค้า แอปสามารถเสนอข้อเสนอพิเศษ รางวัลความภักดี และเนื้อหาที่ปรับแต่งได้ ส่งเสริมความภักดีของลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ
 

7. ใช้โฆษณาในแอป

พิจารณาโฆษณาในแอปเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ในขณะที่พวกเขาโต้ตอบกับแอปพลิเคชันอื่น กลยุทธ์นี้สามารถส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพในลักษณะที่ไม่รบกวน ดึงดูดความสนใจของลูกค้าที่มีศักยภาพ
 

8. มีส่วนร่วมกับโซเชียลมีเดีย

ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ใช้มือถือ เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากโต้ตอบกับแบรนด์ผ่านสมาร์ทโฟน สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและโพสต์แบบโต้ตอบเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและนำการเข้าชมไปยังไซต์หรือแอปมือถือของคุณ
 

9. วิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพ

วิเคราะห์ข้อมูลจากแคมเปญการตลาดมือถือของคุณเป็นประจำเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้า ใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าความพยายามทางการตลาดของคุณมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
 
ด้วยการใช้เทคนิคการตลาดมือถือเหล่านี้ แบรนด์ต่างๆ สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า กระตุ้นยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับกลุ่มเป้าหมายได้
 
 
แหล่งที่มา 
 

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *