การตลาดผ่านมือถือได้พัฒนาไปอย่างมากนับตั้งแต่มีอุปกรณ์มือถือเข้ามามีบทบาท ต่อไปนี้คือประวัติ และการพัฒนาโดยคร่าวๆ ครับ
1. ยุคเริ่มต้น (ช่วงปี 1990 ถึงต้นยุค 2000)
แนวคิดการตลาดผ่านมือถือเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการถือกำเนิดของโทรศัพท์มือถือในช่วงทศวรรษ 1990 ในช่วงแรกนั้นแนวคิดนี้จำกัดอยู่แค่ข้อความ SMS เท่านั้น ธุรกิจต่างๆ จะส่งข้อความส่งเสริมการขายไปยังลูกค้าที่สมัครรับบริการ ถือเป็นวิธีปฏิวัติวงการในการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงและเป็นการส่วนตัว
2. การเติบโตของการตลาดผ่าน SMS (ต้นถึงกลางยุค 2000)
เมื่อการใช้โทรศัพท์มือถือแพร่หลายมากขึ้น การตลาดผ่าน SMS ก็ซับซ้อนมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ เริ่มใช้รหัสสั้นๆ เพื่อให้สมัครรับบริการได้ง่ายขึ้น และนำแคมเปญที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นมาใช้ ในยุคนี้ยังได้เห็นการถือกำเนิดของคูปองมือถือและการแข่งขันส่งข้อความเพื่อชิงรางวัล
3. ยุคแห่งสมาร์ทโฟน (ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป)
การเปิดตัว iPhone ในปี 2007 และสมาร์ทโฟนรุ่นต่อๆ มาทำให้การตลาดผ่านมือถือเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งทันใดนั้น นักการตลาดก็สามารถเข้าถึง
แพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันหลากหลายพร้อมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชัน และความสามารถมัลติมีเดียขั้นสูง
4. การตลาดบนแอปฯ (ช่วงปลายทศวรรษ 2000 ถึงต้นทศวรรษ 2010)
ด้วยการเพิ่มขึ้นของ App Store ธุรกิจต่างๆ จึงเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชันของตนเองเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด ซึ่งทำให้ประสบการณ์ทางการตลาดมีส่วนร่วมและโต้ตอบได้มากขึ้น การแจ้งเตือนแบบพุช (Push Notification ) กลายเป็นช่องทางใหม่ในการเข้าถึงผู้บริโภค
5. การตลาดบนตำแหน่งที่ตั้ง (ต้นทศวรรษ 2010)
ความสามารถของ GPS ในสมาร์ทโฟนทำให้การตลาดบนตำแหน่งที่ตั้งเป็นไปได้ ธุรกิจต่างๆ สามารถกำหนดเป้าหมายผู้บริโภคตามตำแหน่งที่ตั้งทางกายภาพของพวกเขาได้โดยเสนอโปรโมชั่นและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
6. การผสานรวมโซเชียลมีเดีย (ทศวรรษ 2010)
เนื่องจากการใช้งานโซเชียลมีเดียบนอุปกรณ์พกพาเพิ่มขึ้น จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดบนอุปกรณ์พกพา แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Twitter และ Instagram นำเสนอวิธีใหม่ๆ ในการเข้าถึงผู้บริโภคบนอุปกรณ์พกพา
7. แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ (กลางทศวรรษ 2010)
แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือโดยเฉพาะจึงเกิดขึ้น ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายและวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น Google AdMob และ iAd ของ Apple เป็นผู้บุกเบิกในพื้นที่นี้ ซึ่งต่อมาได้ยุติการผลิตไปแล้ว
8. วิดีโอและสื่อผสม (กลางถึงปลายปี 2010)
ความเร็วอินเทอร์เน็ตบนมือถือและความสามารถของอุปกรณ์ที่ดีขึ้นทำให้โฆษณาวิดีโอและสื่อผสมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ประสบการณ์การตลาดบนมือถือมีส่วนร่วมและดื่มด่ำมากขึ้น
9. การปรับแต่งและ AI (ปลายปี 2010-ปัจจุบัน)
การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและ Artificial Intelligence (AI) ทำให้การตลาดบนมือถือปรับแต่งได้สูง นักการตลาดสามารถส่งมอบเนื้อหาและข้อเสนอที่ปรับแต่งได้ตามพฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้แต่ละคน
10. การตลาดด้วยความจริงเสริม (AR) (ปลายปี 2010-ปัจจุบัน)
เทคโนโลยี AR ได้เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับประสบการณ์การตลาดบนมือถือแบบโต้ตอบ แบรนด์ต่างๆ สามารถเสนอการลองใช้แบบเสมือนจริง การสาธิตผลิตภัณฑ์แบบเสมือนจริง และโฆษณาแบบโต้ตอบได้
11. การตลาดที่สั่งงานด้วยเสียง (ปี 2020)
ด้วยการเพิ่มขึ้นของผู้ช่วยแบบเสียงบนอุปกรณ์พกพา นักการตลาดจึงกำลังสำรวจวิธีต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากการค้นหาและคำสั่งที่สั่งงานด้วยเสียงในกลยุทธ์ของตน
12. การตลาดที่เน้นความเป็นส่วนตัว (ปี 2020)
ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแนวทางปฏิบัติทางการตลาดบนมือถือ นักการตลาดกำลังปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบใหม่ๆ และมุ่งเน้นไปที่การสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภค
13. 5G และ IoT (ปัจจุบันและอนาคต)
การเปิดตัวเครือข่าย 5G และการเติบโตของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) พร้อมที่จะปฏิวัติการตลาดบนมือถือให้มากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดประสบการณ์ที่เชื่อมต่อและดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น
เราจะเห็นได้ว่าการตลาดบนมือถือได้ปรับตัวให้เข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้พัฒนาจากข้อความธรรมดาๆ ไปสู่กลยุทธ์ที่ซับซ้อนและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ในขณะที่อุปกรณ์พกพายังคงมีบทบาทสำคัญในชีวิตของผู้บริโภค การตลาดบนมือถือจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การตลาดโดยรวมสำหรับธุรกิจต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรม