AdTech คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้สำเร็จ

AdTech
AdTech – ในยุคดิจิทัลทุกวันนี้การโฆษณาได้กลายเป็นระบบที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ผู้โฆษณาไม่ได้พึ่งพาช่องทางของสื่อดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หรือสิ่งพิมพ์อีกต่อไป แต่หันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีโฆษณาดิจิทัล (Advertising Technology) เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้มีส่วนสำคัญในการปฏิวัติวิธีที่แบรนด์ต่างๆ โต้ตอบกับผู้บริโภค ทำให้สามารถใช้กลยุทธ์โฆษณาที่ปรับแต่งได้ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งวันนี้ Talka จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจ ความหมาย ประเภท และความสำคัญของ Advertising Technology ในภูมิทัศน์ของการโฆษณาสมัยใหม่กันครับ
 

Adtech คืออะไร?

AdTech คืออะไร?

ทำความเข้าใจ Adtech คืออะไร?

Adtech (Advertising Technology) หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ในการโฆษณาดิจิทัล ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถซื้อ ขาย บริหาร และวิเคราะห์โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งดำเนินการ จัดการ และวิเคราะห์แคมเปญโฆษณาดิจิทัล Advertising Technology ครอบคลุมแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงเครือข่ายโฆษณา แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP) แพลตฟอร์มด้านอุปทาน (SSP) การแลกเปลี่ยนโฆษณา (Ad Exchange) และแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (DMP) ซึ่งทั้งหมดต้องทำงานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อและขายโฆษณาดิจิทัล
 
ปัจจุบัน Advertising Technology มีบทบาทสำคัญในการทำให้แน่ใจว่าโฆษณาจะถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายโฆษณาให้สูงสุด Advertising Technology ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล AI และ Machine Learning เพื่อปรับความพยายามในการโฆษณาให้เหมาะสม ทำให้การตลาดดิจิทัลมีประสิทธิภาพ และวัดผลได้มากกว่าวิธีการแบบเดิม

ทำความรู้จัก AdTech 15 ประเภท

ทำความรู้จัก AdTech 15 ประเภท

ในยุคที่การตลาดดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีโฆษณากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์และนักโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ Advertising Technology ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น ยังมีแพลตฟอร์มและโซลูชันที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างกัน มาดูกันว่า AdTech มีกี่ประเภท และแต่ละแบบทำงานอย่างไร ซึ่งต่อไปนี้คือประเภทหลักๆ ที่พบเห็นได้ในปัจจุบันครับ

1.  แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP)

หรือ Demand-Side Platform (DSP) เป็นระบบซอฟต์แวร์อัตโนมัติ ที่ช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถซื้อสินค้าคงคลังโฆษณาดิจิทัลบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้พร้อมกัน ผู้โฆษณาใช้ DSP เพื่อกำหนดพารามิเตอร์การกำหนดเป้าหมาย เช่น ข้อมูลประชากร ตำแหน่งที่ตั้ง และความสนใจ เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องที่สุด

คุณสมบัติหลัก

  • การเสนอราคาแบบเรียลไทม์ (RTB) : เสนอราคาสำหรับการแสดงโฆษณาในหน่วยมิลลิวินาที
  • การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย :  ใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามเพื่อแบ่งกลุ่ม
  • แคมเปญหลายช่องทาง : รองรับการแสดงผล วิดีโอ มือถือ และทีวีที่เชื่อมต่อ (CTV)
  • การซื้อตามโปรแกรม : การซื้อโฆษณาโดยอัตโนมัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ตัวอย่างแพลตฟอร์ม DSP ยอดนิยม : Google Display & Video 360 , The Trade Desk , MediaMath , Amazon DSP,  Adobe Advertising Cloud

2. แพลตฟอร์มด้านอุปทาน (SSP)

หรือ Supply-Side Platform (SSP) เป็นเครื่องมือที่ผู้เผยแพร่ใช้ในการจัดการ ขาย และเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่โฆษณาดิจิทัลของตน SSP ช่วยให้ผู้เผยแพร่เพิ่มรายได้สูงสุดโดยทำให้พื้นที่โฆษณาพร้อมใช้งานสำหรับแหล่งอุปสงค์หลายแหล่ง รวมถึง DSP และเครือข่ายโฆษณา

คุณสมบัติหลัก 

  • การเสนอราคาส่วนหัว :  เพิ่มรายได้สูงสุดโดยอนุญาตให้ผู้โฆษณาหลายรายเสนอราคาพร้อมกัน
  • การจัดการสินค้าคงคลังโฆษณา : ผู้เผยแพร่ควบคุมว่าโฆษณาใดจะปรากฏและราคาเท่าใด
  • การเพิ่มประสิทธิภาพผลตอบแทน : ใช้ AI เพื่อปรับราคาแบบไดนามิก

แพลตฟอร์ม SSP ยอดนิยมGoogle Ad Manager , OpenX , PubMatic , Magnite , Index Exchange

3. การแลกเปลี่ยนโฆษณา (Ad Exchange) 

Ad Exchange เป็นตลาดดิจิทัลที่ผู้ลงโฆษณาและผู้เผยแพร่ซื้อและขายพื้นที่โฆษณาแบบเรียลไทม์ การแลกเปลี่ยนโฆษณาช่วยอำนวยความสะดวกในการโฆษณาตามโปรแกรม โดยที่อัลกอริทึมจะกำหนดพื้นที่โฆษณาตามการเสนอราคาแบบเรียลไทม์

คุณสมบัติหลัก

  • การประมูลแบบเรียลไทม์ : อำนวยความสะดวกในการซื้อและขายพื้นที่โฆษณาทันที
  • ความโปร่งใส : ช่วยให้มองเห็นราคาและความพร้อมใช้งานของพื้นที่โฆษณา
  • การรวมอุปกรณ์หลายอุปกรณ์ : รองรับเดสก์ท็อป มือถือ และ CTV

Ad Exchange ยอดนิยม : Google AdX , OpenX , AppNexus (Xandr) , Rubicon Project

4. เครือข่ายโฆษณา (Ad Networks)

เครือข่ายโฆษณารวบรวมพื้นที่โฆษณาจากผู้เผยแพร่หลายรายและขายให้กับผู้โฆษณา ซึ่งต่างจากการแลกเปลี่ยนโฆษณาที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมโดยตรง เครือข่ายโฆษณาจะคัดเลือกและรวมพื้นที่โฆษณาเข้าด้วยกันเพื่อเสนอโซลูชันโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งประเภทของ Ad Networks สามารถแยกออกได้อีก ดังนี้

  • เครือข่ายโฆษณาแนวตั้ง : เน้นที่อุตสาหกรรมเฉพาะ (เช่น แฟชั่น เทคโนโลยี)
  • เครือข่ายโฆษณาระดับพรีเมียม : นำเสนอสินค้าคงคลังคุณภาพสูงที่ปลอดภัยต่อแบรนด์
  • เครือข่ายโฆษณาแบบซ่อน : จัดเตรียมตำแหน่งโฆษณาต้นทุนต่ำโดยไม่เปิดเผยรายละเอียดผู้เผยแพร่

คุณสมบัติหลัก

  • สินค้าคงคลังที่จัดหมวดหมู่ : เสนอกลุ่มแนวตั้งเฉพาะ (เช่น กีฬา แฟชั่น การเงิน)
  • โมเดลราคาคงที่ : ทำงานบนโมเดล CPM, CPC และ CPA
  • การเข้าถึงแบบเลือก : เครือข่ายบางเครือข่ายให้บริการโฆษณาระดับพรีเมียม

Ad Networks ยอดนิยม : Google AdSense , Media.net , AdThrive , Taboola (สำหรับโฆษณาเนทีฟ)

5. แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (DMP)

แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (DMP) รวบรวม จัดระเบียบ และวิเคราะห์ชุดข้อมูลผู้ชมขนาดใหญ่จากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงเว็บไซต์ แอป และช่องทางออฟไลน์ DMP ช่วยให้นักโฆษณาปรับแต่งกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายโดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค

คุณสมบัติหลัก 

  • การรวบรวมข้อมูล : รวมข้อมูลของบุคคลที่หนึ่ง บุคคลที่สอง และบุคคลที่สามเข้าด้วยกัน
  • การแบ่งกลุ่มลูกค้า : ช่วยให้นักโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้
  • ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม : ติดตามการโต้ตอบของผู้ใช้เพื่อปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น

แพลตฟอร์ม DMP ยอดนิยม : Adobe Audience Manager , Oracle BlueKai , Lotame , Salesforce DMP

6. แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP)

ไม่เหมือนกับ DMP แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) มุ่งเน้นไปที่การรวบรวม และจัดระเบียบข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งจากการโต้ตอบของลูกค้าในจุดสัมผัสต่างๆ CDP มอบโปรไฟล์ลูกค้าแบบรวมศูนย์ ซึ่งช่วยให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะบุคคลได้

คุณสมบัติหลัก 

  • การรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์ : ผสานข้อมูลลูกค้าออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
  • การกำหนดเป้าหมายทุกช่องทาง : เปิดใช้งานการตลาดแบบปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้ในทุกอุปกรณ์
  • การแก้ไขข้อมูลประจำตัว : ติดตามผู้ใช้ในจุดสัมผัสหลายจุด

แพลตฟอร์ม CDP ยอดนิยม : Segment , Tealium , BlueConic , Treasure Data

7. เซิร์ฟเวอร์โฆษณา (Ad Servers)

ทั้งผู้โฆษณา และผู้เผยแพร่โฆษณาใช้เซิร์ฟเวอร์โฆษณาเพื่อจัดการ ติดตาม และแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัล เซิร์ฟเวอร์โฆษณา มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา และวัดผลความสำเร็จของแคมเปญ

คุณสมบัติหลัก

  • การจัดการความคิดสร้างสรรค์ : จัดเก็บและจัดการความคิดสร้างสรรค์โฆษณาต่างๆ
  • การติดตามประสิทธิภาพ : วัดการแสดงผล คลิก และการแปลง
  • การตรวจจับการฉ้อโกง : ระบุกิจกรรมที่น่าสงสัยและบอท

Ad Servers ยอดนิยม : Google Ad Manager , AdButler , Kevel

8. แพลตฟอร์มโฆษณาตามบริบท (Contextual Advertising Platforms)

แพลตฟอร์มโฆษณาตามบริบท (Contextual Advertising Platforms) เป็นระบบที่ใช้  เนื้อหา (Content) ของหน้าเว็บหรือแอป เป็นตัวกำหนดว่าโฆษณาใดควรจะแสดง แทนที่จะอ้างอิงจากข้อมูลพฤติกรรมหรือประวัติการใช้งานของผู้ใช้โดยตรง

คุณสมบัติหลัก

  • การกำหนดเป้าหมายตามคำหลัก : วิเคราะห์เนื้อหาของหน้าเพื่อให้ตรงกับโฆษณาที่เกี่ยวข้อง
  • เป็นมิตรกับความเป็นส่วนตัว : ไม่พึ่งพาคุกกี้หรือข้อมูลส่วนบุคคล
  • ความปลอดภัยของแบรนด์ : รับรองว่าโฆษณาจะปรากฏในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

แพลตฟอร์มยอดนิยม : GumGum , Integral Ad Science , Peer39

9. แพลตฟอร์มโฆษณาตามโปรแกรม (Programmatic Advertising Platforms)

แพลตฟอร์มโฆษณาตามโปรแกรม (Programmatic Advertising Platforms) คือ กระบวนการซื้อและขายโฆษณาแบบอัตโนมัติ โดยใช้ AI และ Machine Learning ในการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ (RTB – Real-Time Bidding) แทนการซื้อโฆษณาแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้คนกลางหรือดีลตรง (Direct Buying) โปรแกรมเมติกช่วยให้นักการตลาดสามารถ กำหนดเป้าหมายโฆษณาได้แม่นยำขึ้น และ ปรับงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ในการตัดสินใจ

คุณสมบัติหลัก

  • การเสนอราคาที่ขับเคลื่อนด้วย AI : ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อการใช้จ่ายโฆษณาที่เหมาะสมที่สุด
  • การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ : ให้ข้อมูลเชิงลึกทันทีเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ
  • การเข้าถึงหลายช่องทาง : ครอบคลุมการแสดงผล วิดีโอ มือถือ และ CTV

แพลตฟอร์มยอดนิยม : Google Display & Video 360 , Xandr Invest , StackAdapt

10. แพลตฟอร์มโฆษณาเนทีฟ (Native Advertising Platforms)

 แพลตฟอร์มที่ผสานรวมโฆษณาเข้ากับเนื้อหาอย่างราบรื่นเพื่อประสบการณ์ที่ดีไม่รบกวนผู้ใช้

คุณสมบัติหลัก

  • โฆษณาในฟีด : ตรงกับรูปลักษณ์และความรู้สึกของเว็บไซต์หรือแอป
  • เนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน : บทความหรือวิดีโอที่ส่งเสริมแบรนด์อย่างแนบเนียน
  • การมีส่วนร่วมที่สูงขึ้น : โฆษณาเนทีฟมักจะได้รับการโต้ตอบมากกว่า

แพลตฟอร์มยอดนิยม : Outbrain , Taboola , Nativo

11. แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ (Mobile Advertising Platforms)

แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อแสดงโฆษณาบนอุปกรณ์มือถือ

คุณสมบัติหลัก

  • โฆษณาในแอป : วางโฆษณาภายในแอปมือถือ
  • การกำหนดเป้าหมายตามตำแหน่ง : ใช้การกำหนดเป้าหมายตามตำแหน่งเพื่อการเข้าถึงที่ดีขึ้น
  • โฆษณาที่เล่นได้ : โฆษณาแบบโต้ตอบภายในเกมมือถือ

แพลตฟอร์มยอดนิยม : Google AdMob , Facebook Audience Network, Unity Ads

12. แพลตฟอร์มโฆษณาวิดีโอ

แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับการให้บริการและปรับแต่งโฆษณาวิดีโอในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และบริการสตรีมมิ่ง

คุณสมบัติหลัก

  • โฆษณาก่อนวิดีโอและระหว่างวิดีโอ : โฆษณาก่อนหรือระหว่างเนื้อหาวิดีโอ
  • โฆษณาแบบนอกสตรีม : โฆษณาวิดีโอที่เล่นนอกเครื่องเล่นวิดีโอแบบดั้งเดิม
  • การผสานรวม CTV และ OTT : นำเสนอโฆษณาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

แพลตฟอร์มยอดนิยม : YouTube Ads , Tremor Video , SpotX

13. แพลตฟอร์มโฆษณาโซเชียลมีเดีย

แพลตฟอร์มที่ให้ผู้โฆษณาสามารถเรียกใช้แคมเปญแบบชำระเงินบนเครือข่ายโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้

คุณสมบัติหลัก

  • โฆษณาที่กำหนดเป้าหมายสูง : ใช้ข้อมูลประชากรและพฤติกรรม
  • การติดตามการมีส่วนร่วม : วัดจำนวนไลค์ การแชร์ และความคิดเห็น
  • โฆษณาแบบไดนามิก : ปรับรูปแบบโฆษณาโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ที่แตกต่างกัน

แพลตฟอร์มยอดนิยม : Meta Ads (Facebook & Instagram) , X (Twitter) Ads , LinkedIn Ads , TikTok Ads

14. โฆษณาบนสื่อดิจิทัลนอกบ้าน (Digital Out-of-Home Advertising)  

หรือ ที่เรียกว่า DOOH เป็น โซลูชัน Advertising Technology ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อแสดงโฆษณาในพื้นที่สาธารณะ เช่น ป้ายดิจิทัลขนาดใหญ่, จอ LED ในห้างสรรพสินค้า, สถานีขนส่ง, สนามบิน, หรือแม้แต่จอในลิฟต์และรถไฟฟ้า มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้ชมในพื้นที่สาธารณะและสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

คุณสมบัติหลัก

  • การวางโฆษณาแบบเรียลไทม์ : ปรับโฆษณาตามเวลาและสถานที่
  • การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย : ใช้ AI เพื่อประมาณข้อมูลประชากรของผู้ชม
  • คุณสมบัติเชิงโต้ตอบ : หน้าจอบางรุ่นรองรับการโต้ตอบด้วยการสัมผัส

แพลตฟอร์ม DOOH ยอดนิยม : Vistar Media, Broadsign, Clear Channel

15. เครือข่ายการตลาดพันธมิตร (Affiliate Marketing Networks)

แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้ลงโฆษณากับผู้เผยแพร่ที่โปรโมตผลิตภัณฑ์เพื่อแลกกับค่าคอมมิชชัน

คุณสมบัติหลัก

  • โฆษณาตามประสิทธิภาพ : ผู้ลงโฆษณาจ่ายเฉพาะการแปลงเท่านั้น
  • การติดตามและการรายงาน : ตรวจสอบการคลิกและการแปลง
  • ความร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล : หลายแห่งรวมการบูรณาการการตลาดของผู้มีอิทธิพลไว้ด้วย

เครือข่ายยอดนิยม : Amazon Associates , CJ Affiliate , Rakuten Advertising

AdTech เหมือนหรือต่างกับ MarTech อย่างไร?

AdTech เหมือนหรือต่างกับ MarTech อย่างไร?

AdTech (เทคโนโลยีการโฆษณา) และ MarTech (เทคโนโลยีการตลาด) มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดแต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันภายในภูมิทัศน์การตลาดดิจิทัล Advertising Technologyมุ่งเน้นหลักไปที่เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับ การซื้อ การจัดส่ง และการปรับแต่งโฆษณาดิจิทัล บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เครื่องมือค้นหา โซเชียลมีเดีย เครือข่ายแสดงผล และบริการสตรีมมิ่ง ซึ่งรวมถึงเครื่องมือต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP) แพลตฟอร์มด้านอุปทาน (SSP) การแลกเปลี่ยนโฆษณา และโซลูชันการโฆษณาแบบโปรแกรม ซึ่งทำให้กระบวนการลงโฆษณาเป็นแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม Advertising Technology ขับเคลื่อนโดยแคมเปญเป็นส่วนใหญ่ โดยเน้นที่สื่อแบบชำระเงิน การกำหนดเป้าหมาย และการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ (RTB) เพื่อปรับการใช้จ่ายโฆษณาให้เหมาะสมและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้สูงสุด

ในทางตรงกันข้าม MarTech ครอบคลุมเทคโนโลยีที่หลากหลายกว่าซึ่งรองรับ กลยุทธ์การตลาด การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูล การตลาดเนื้อหา และการปรับแต่งส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงเครื่องมือต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) แพลตฟอร์มการตลาดอีเมล ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ระบบอัตโนมัติทางการตลาด และซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล MarTech มุ่งเน้นที่การบ่มเพาะความสัมพันธ์กับลูกค้า การปรับปรุงการมีส่วนร่วม และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสำหรับกลยุทธ์การตลาดส่วนบุคคล

ในขณะที่ Advertising Technology ดำเนินงานตามรูปแบบแคมเปญระยะสั้นเป็นหลักสำหรับการดึงดูดลูกค้า MarTech มุ่งเน้นไปที่  การรักษาลูกค้าในระยะยาว ความภักดีต่อแบรนด์ และกลยุทธ์การตลาดแบบ Omnichannelแม้ว่าจะมีความทับซ้อนกันบ้างระหว่างทั้งสอง เช่น การจัดการข้อมูลและการกำหนดเป้าหมายผู้ชม แต่ความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่การใช้งาน โดย Advertising Technology เน้นที่การโฆษณาภายนอก (สื่อที่จ่ายเงิน) เป็นหลัก ในขณะที่ MarTech ออกแบบมาสำหรับกระบวนการทางการตลาดภายใน (สื่อที่เป็นเจ้าของและสื่อที่ได้รับ) กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่มักจะรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่น โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจากความพยายามในการโฆษณาเพื่อแจ้งข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาด 

ประโยชน์ของ AdTech สำหรับผู้โฆษณา

ประโยชน์ของ AdTech สำหรับผู้โฆษณา
เนื่องจากการโฆษณาออนไลน์มีความซับซ้อนมากขึ้น เครื่องมือและโซลูชันใหม่ๆ จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถจัดการและวัดผลแคมเปญของตนได้ Advertising Technology ช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถดำเนินแคมเปญผ่านช่องทางต่างๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพได้ ช่วยประหยัดเวลาและช่วยให้ผู้โฆษณาปรับแต่งแคมเปญดิจิทัลให้เหมาะสมได้ อย่างไรก็ตามต่อไปนี้ คือประโยชน์ของ Advertising Technology สำหรับผู้โฆษณาครับ

1. การทำงานอัตโนมัติและการปรับขนาด

ก่อนจะมี Advertising Technology ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาต้องค้นคว้า เลือก และอนุมัติช่องโฆษณาหรือตำแหน่งโฆษณาแต่ละรายการด้วยตนเอง ปัจจุบัน แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้การทำงานอัตโนมัติ รวมถึง AI และการเรียนรู้ของเครื่องจักร เพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาและปรับแต่งแคมเปญตามผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ได้  เครื่องมือ Advertising Technology ทำให้การเปิดตัวแคมเปญในระดับขนาดใหญ่เป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยไม่ต้องมีทีมการตลาดขนาดใหญ่

2. การใช้จ่ายโฆษณาที่เหมาะสม

Advertising Technology ช่วยให้คุณระบุและเข้าถึงกลุ่มประชากรเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องเสียเงินงบประมาณไปกับการโฆษณาทั่วไป ซึ่งอาจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในอุดมคติของคุณได้หรือไม่ก็ได้

3. การติดตามข้ามอุปกรณ์

ด้วย Advertising Technology คุณสามารถรันแคมเปญแบบ Omnichannel ข้ามอุปกรณ์ได้ ซึ่งทำได้โดยการจดจำผู้ใช้ตามที่อยู่อีเมลหรือคุกกี้และจับคู่กับอุปกรณ์อื่นๆ เมื่อจับคู่กันได้ในเครือข่ายแล้ว เครือข่ายโฆษณาสามารถแสดงโฆษณาแบบมีส่วนร่วมอีกครั้งเพื่อให้ผู้บริโภคมีจุดสัมผัสหลายจุด การติดตามข้ามอุปกรณ์ยังช่วยให้วิเคราะห์ได้ดีขึ้น ทำให้เห็นภาพรวมของการเดินทางของลูกค้าในอุปกรณ์ต่างๆ ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

4. ความรวดเร็ว

เนื่องจาก Advertising Technology สามารถส่งเอกสารประกอบแคมเปญเพื่อเสนอราคาได้ภายในเสี้ยววินาที คุณจึงเปิดตัวแคมเปญที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนการเจรจา และการจัดวางที่ยาวนานลง ทำให้คุณได้รับการเปิดเผยแบรนด์ มีลูกค้าเป้าหมาย และยอดขายในกรอบเวลาที่สั้นลง

Adtech สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ

AdTech สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ

Adtech สำคัญอย่างไรต่อความสำเร็จของธุรกิจ?

เทคโนโลยีโฆษณามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดและโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างมีนัยสำคัญ ต่อไปนี้คือรายละเอียดของความสำคัญของ Advertising Technology ต่อความสำเร็จของธุรกิจ

1. การกำหนดเป้าหมายลูกค้าได้อย่างแม่นยำ (Targeted Advertising)

Advertising Technology ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลและ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อสร้างโฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง ซึ่งช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสียทรัพยากร

  • ใช้ Data Analytics เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค
  • ใช้ Machine Learning ในการคาดการณ์แนวโน้มความสนใจของลูกค้า
  • Re-Targeting Ads เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่เคยสนใจสินค้า

2. เพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา (Optimized Ad Campaigns)

Advertising Technology  มีเครื่องมือช่วยให้ธุรกิจสามารถทดสอบและปรับแต่งแคมเปญโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าโฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด

  • A/B Testing เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโฆษณาต่างๆ
  • Real-Time Bidding (RTB) ช่วยให้โฆษณาแสดงผลในแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่า
  • Programmatic Advertising ทำให้โฆษณาได้รับการจัดการโดยอัตโนมัติและมีความแม่นยำสูง

3. ลดต้นทุนและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (Cost Efficiency & ROI Improvement)

Advertising Technology ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ทรัพยากรโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และเพิ่ม ROI

  • ใช้ Automated Bidding เพื่อลดค่าใช้จ่ายของโฆษณาแต่ยังได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • วิเคราะห์ Customer Lifetime Value (CLV) เพื่อกำหนดงบประมาณให้เหมาะสม
  • ลด Ad Fraud หรือการฉ้อโกงโฆษณาที่ทำให้ธุรกิจเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

4. การเข้าถึงลูกค้าได้ทุกช่องทาง (Omnichannel Marketing)

ปัจจุบันลูกค้าใช้งานหลายแพลตฟอร์มในการค้นหาและซื้อสินค้า Advertising Technology ทำให้ธุรกิจสามารถจัดการโฆษณาผ่านหลายช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • Cross-Device Targeting เพื่อให้โฆษณาติดตามลูกค้าจากมือถือไปยังคอมพิวเตอร์
  • Social Media Ads เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม
  • Connected TV (CTV) & Audio Ads สำหรับโฆษณาในรูปแบบใหม่ เช่น สตรีมมิ่งและพอดแคสต์

5. การวิเคราะห์ข้อมูลและวัดผลที่แม่นยำ (Advanced Analytics & Measurement)

Advertising Technology ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลและวิเคราะห์ความสำเร็จของแคมเปญได้อย่างละเอียด

  • Attribution Modeling เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาอย่างไร
  • Real-Time Analytics ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแคมเปญได้ทันที
  • ใช้ Heatmaps & Engagement Metrics เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้

6. สร้างประสบการณ์โฆษณาที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น (Personalized Ad Experiences)

Advertising Technology ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างโฆษณาที่เหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละคน ทำให้เพิ่มโอกาสในการแปลงลูกค้า

  • ใช้ Dynamic Creative Optimization (DCO) ในการปรับแต่งโฆษณาอัตโนมัติ
  • Personalized Email & SMS Marketing ตามพฤติกรรมของลูกค้า
  • AI-Powered Chatbots & Recommendations แนะนำสินค้าและบริการที่ตรงกับลูกค้า

7. รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และกฎหมายโฆษณา (Adapting to Trends & Regulations)

Advertising Technology ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัว เช่น PDPA เป็นต้น

  • ปรับใช้ Privacy-Focused Advertising เช่น First-Party Data
  • ใช้ Contextual Advertising แทนการใช้ Third-Party Cookies
  • ปรับกลยุทธ์โฆษณาตามเทรนด์ เช่น การใช้ Influencer Marketing

สรุป

Advertising Technology  เป็นกระดูกสันหลังของการโฆษณาดิจิทัล ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และนวัตกรรมในอุตสาหกรรม ในขณะที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไป ความก้าวหน้าใหม่ๆ ใน AI การเรียนรู้ของเครื่องจักรและข้อมูลขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มความสามารถของ Advertising Technology ต่อไป ทำให้การโฆษณาดิจิทัลมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้น สำหรับผู้ลงโฆษณาและแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขัน การใช้ประโยชน์จาก Advertising Technology จะไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก สร้างโฆษณาที่เป็นส่วนตัวและปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์และกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว การใช้ Advertising Technology อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
แหล่งที่มา :

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *