อินไซท์การตลาด Recruitment ศิลปะในการหาคนคุณภาพมาขับเคลื่อนธุรกิจ

Recruitment

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของธุรกิจ ด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีความสามารถย่อมนำมาซึ่งผลผลิต นวัตกรรม และนำไปสู่วัฒนธรรมการทำงานเชิงบวก ดังนั้นการลงทุนเวลาและความพยายามในการสรรหาคนที่พร้อมจะขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้านั้นย่อมให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในแง่ของประสิทธิภาพที่ดีขึ้นตลอดจนการเติบโตและความสำเร็จโดยรวมขององค์กร ท่ามกลางตลาดแห่งการหาคนทำงาน ศิลปะในการสรรหาคนคุณภาพอย่างมีกลยุทธ์เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรณ์ไม่ว่าจะในธุรกิจและอุตสาหกรรมใดก็ตามไม่ควรมองข้าม วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงกลยุทธ์ต่างๆ ที่ทุกองค์กรสามารถมาใช้เพื่อดึงดูดพนักงานเกรด A มาสู่องค์กรกันครับ

Recruitment Marketing คืออะไร

Recruitment Marketing คืออะไร

Recruitment Marketing คืออะไร?

ในตลาดสรรหาแรงงานที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดึงดูดและว่าจ้างผู้ที่มีความสามารถที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความท้าทายนี้ หลายบริษัทจึงหันมาใช้การตลาดด้านการสรรหาบุคลากร แต่  การตลาดจัดหางาน คืออะไรกันแน่? และช่วยดึงดูดผู้สมัครงานชั้นแนวหน้าได้อย่างไร? การตลาดการจัดหางาน คือ การรวมกันของกลยุทธ์และเครื่องมือที่องค์กรใช้ในการดึงดูดและดึงดูดผู้สมัครงานในช่วงก่อนการสรรหาผู้สมัคร มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมคุณค่าของการทำงานให้กับองค์กรและสร้างวัฒนธรรมองค์กรหรือแบรนด์เพื่อดึงดูดผู้สมัคร

โดยทั่วไปการตลาดการจัดหางานนิยมใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล อาทิ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย การสื่อสารแบบ Omnichannel การวิเคราะห์ข้อมูล การส่งข้อความแบบเจาะจงเป้าหมาย และระบบอัตโนมัติ เป็นต้น หัวใจสำคัญของการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรนั้นควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ของนายจ้างที่น่าสนใจ และใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเข้าถึงและดึงดูดผู้สมัครที่มีศักยภาพ นอกเหนือไปจากวิธีการสรรหาบุคลากรแบบเดิมๆ โดยใช้แนวทางเชิงรุก กำหนดเป้าหมาย และให้ผู้สมัครเป็นศูนย์กลาง ท้ายที่สุด การนำแนวคิดทางการตลาดมาใช้กับกระบวนการจ้างงาน องค์กรต่างๆ จะสามารถสร้างแบรนด์ของผู้ว่าจ้างที่แข็งแกร่ง สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และวางตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้ว่าจ้างที่พึงประสงค์ในสายตาของผู้สมัครที่มีศักยภาพ

ความสำคัญของ Recruitment Marketing

ความสำคัญของ Recruitment Marketing
การตลาดการจัดหางานมีความสำคัญสูงสุดในตลาดแรงงานที่ตึงตัวซึ่งการแข่งขันด้านแรงงานเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่ก็มีประโยชน์เสมอในการหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
 
ผู้หางานมักจะค้นหาโอกาสในการทำงานในลักษณะเดียวกับที่ผู้บริโภคทำการซื้อ โดยค้นหาแหล่งข้อมูลออนไลน์และอ่านความคิดเห็นสาธารณะต่างๆ หลายคนอาจเป็นผู้สมัครที่ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะมองหางานใหม่ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่พวกเขาพบเกี่ยวกับการทำงานในบริษัทอื่นๆ สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสมัครงานหรือรับตำแหน่งในบริษัทนั้นๆได้ ดังนั้นบทบาทของนักการตลาดด้านการสรรหาบุคลากร คือ การเสริมการสรรหาบุคลากรด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ควบคู่ไปกับรายละเอียดของงาน
 
นอกจากนี้ การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้การรับรู้ถึงแบรนด์เพิ่มขึ้น ค้นพบผู้มีความสามารถที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากขึ้น การจ้างงานเร็วขึ้น และประสบการณ์ของผู้สมัครที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งต่อไปเราจะมาเจาะลึกถึงความสำคัญของการตลาดเพื่อสรรหาบุคลากรกันไปทีละข้อครับ
 

1. ดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพ

ในตลาดงานที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน องค์กรจำเป็นต้องโดดเด่นและดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูง การตลาดการจัดหางานช่วยสร้างแบรนด์นายจ้างที่น่าสนใจและสื่อสารคุณค่าขององค์กรไปยังผู้สมัครที่มีศักยภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพสูงซึ่งเหมาะสมกับองค์กร
 

2. สร้าง Talent Pipeline

การตลาดการจัดหางานเกี่ยวข้องกับการจัดหาผู้สมัครในเชิงรุกและการสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งองค์กรต่างๆ สามารถมีส่วนร่วมกับผู้สมัครได้ก่อนที่จะมีการเปิดรับสมัครงาน วิธีการนี้ช่วยให้กระบวนการจ้างงานมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากองค์กรต่างๆ มีกลุ่มผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้พิจารณาอยู่แล้ว
 

3. การส่งเสริมแบรนด์ของนายจ้าง

สถานะแบรนด์ที่แข็งแกร่งของนายจ้างเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับสูง กิจกรรมการตลาดการจัดหางาน อาทิ การจัดแสดงวัฒนธรรมของบริษัท การแบ่งปันคำนิยมของพนักงาน และการเน้นย้ำถึงโอกาสในการพัฒนาอาชีพ ล้วนมีส่วนช่วยในการสร้างแบรนด์ของผู้ว่าจ้างในเชิงบวก ชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแกร่งช่วยให้องค์กรต่างๆ โดดเด่นในฐานะนายจ้างที่พึงประสงค์ และเพิ่มความดึงดูดใจต่อผู้สมัครที่คาดหวัง
 

4. มีส่วนร่วมกับผู้สมัครแบบพาสซีฟ

ไม่ใช่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกคนที่จะมองหาโอกาสในการโยกย้ายงานหรือหางานใหม่ อย่างไรก็ตาม การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรสามารถดึงดูดความสนใจของผู้สมัครที่ไม่โต้ตอบ ซึ่งอาจเปิดรับการพิจารณาบทบาทใหม่ หากมีโอกาสที่เหมาะสมเกิดขึ้น การมีส่วนร่วมกับผู้สมัครที่มีศักยภาพอย่างสม่ำเสมอผ่านการตลาดเนื้อหา สื่อสังคมออนไลน์ และการสื่อสารที่ตรงเป้าหมาย องค์กรจะสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้สมัครที่ไม่โต้ตอบและดึงดูดให้พวกเขาสำรวจตำแหน่งที่ว่างได้
 

5. การปรับปรุงระยะเวลาจ้างงาน

กลยุทธ์การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรสามารถลดเวลาที่ต้องใช้ในการเติมตำแหน่งที่เปิดรับได้อย่างมาก การรักษาบุคลากรที่มีความสามารถและการมีส่วนร่วมเชิงรุกกับผู้สมัครที่มีศักยภาพ องค์กรจะสามารถระบุบุคคลที่มีคุณสมบัติและเร่งกระบวนการจ้างงานได้อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยลดการหยุดชะงักที่เกิดจากตำแหน่งงานว่างที่ยืดเยื้อ และทำให้มั่นใจว่าองค์กรสามารถจัดหาบุคลากรที่มีความสามารถที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็ว
 

6. ประสิทธิภาพด้านต้นทุน

วิธีการสรรหาบุคลากรแบบดั้งเดิม เช่น ประกาศรับสมัครงานและหน่วยงานภายนอก อาจมีค่าใช้จ่ายสูง การตลาดการจัดหางานช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณการสรรหาโดยใช้กลยุทธ์และช่องทางที่ตรงเป้าหมาย ด้วยการมุ่งเน้นความพยายามในการดึงดูดผู้สมัครที่เหมาะสม องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับแนวทางที่ไม่ได้ผลหรือแนวทางกว้างๆ ซึ่งนำไปสู่การประหยัดต้นทุนในระยะยาว
 

7. การสร้างประสบการณ์เชิงบวกแก่ผู้สมัคร

การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรเน้นความสำคัญของการมอบประสบการณ์เชิงบวกแก่ผู้สมัครตลอดกระบวนการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงคำอธิบายงานที่ชัดเจนและมีส่วนร่วม การสื่อสารที่รวดเร็ว และการโต้ตอบที่เป็นส่วนตัว ประสบการณ์เชิงบวกของผู้สมัครไม่เพียงแต่ช่วยในการดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูง แต่ยังช่วยเพิ่มชื่อเสียงขององค์กรและกระตุ้นให้ผู้สมัครกลายเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์
 

องค์ประกอบของ Recruitment Marketing

องค์ประกอบของ Recruitment Marketing
การตลาดการจัดหางานเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลักหลายอย่างที่ต่างต้องทำงานร่วมกันเพื่อดึงดูดและมีส่วนร่วมกับผู้สมัครที่มีศักยภาพ ซึ่งต่อไปนี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญบางประการของการตลาดการจัดหางานครับ
 

1. Recruitment Marketing การสร้างแบรนด์ของผู้ว่าจ้าง

การสร้างแบรนด์ของผู้ว่าจ้างที่แข็งแกร่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการตลาดด้านการสรรหาบุคลากร มันเกี่ยวข้องกับการกำหนดและส่งเสริมคุณลักษณะเฉพาะ ค่านิยม และวัฒนธรรมขององค์กรเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าสนใจ การสร้างแบรนด์ของนายจ้างที่มีประสิทธิภาพช่วยดึงดูดผู้สมัครที่สอดคล้องกับค่านิยมและพันธกิจขององค์กร
 

2. Recruitment Marketing การพัฒนาบุคลิกภาพของผู้สมัคร

เพื่อกำหนดเป้าหมายและมีส่วนร่วมกับผู้สมัครที่มีศักยภาพอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาบุคลิกภาพของผู้สมัคร (Candidate Persona Development) ถือเป็นสิ่งสำคัญ บุคลิกของผู้สมัครคือโปรไฟล์โดยละเอียดที่แสดงถึงผู้สมัครในอุดมคติสำหรับบทบาทหน้าที่เฉพาะ รวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลประชากร ทักษะ แรงจูงใจ วิสัยทัศน์และความใฝ่ฝันในอาชีพ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับบุคลิกของผู้สมัครจะช่วยปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดและข้อความในการสรรหาบุคลากรให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม
 

3. Recruitment Marketing การโฆษณางานหลายช่องทาง

การตลาดจัดหางานใช้ช่องทางต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเปิดงานและเข้าถึงผู้สมัครที่มีศักยภาพ ซึ่งรวมถึงกระดานงาน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์บริษัท แพลตฟอร์มเฉพาะอุตสาหกรรม และเครือข่ายมืออาชีพ ด้วยการใช้ช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย องค์กรต่างๆ สามารถเพิ่มการเข้าถึงและการเปิดเผยให้สูงสุดเพื่อดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
 

4. Recruitment Marketing การตลาดเนื้อหา

การสร้างและแบ่งปันเนื้อหาที่มีคุณค่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการมีส่วนร่วมกับผู้สมัครที่มีศักยภาพและสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ การตลาดเนื้อหาในการสรรหาบุคลากรเกี่ยวข้องกับการผลิตบล็อกโพสต์ บทความ วิดีโอ การสัมมนาผ่านเว็บ และสื่อข้อมูลอื่นๆ ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร ประสบการณ์ของพนักงาน โอกาสในการพัฒนาอาชีพ และแนวโน้มของอุตสาหกรรม เนื้อหาที่น่าสนใจช่วยสร้างองค์กรในฐานะผู้นำทางความคิดและส่งเสริมความสนใจและการมีส่วนร่วมของผู้สมัคร
 

5. Recruitment Marketing การจัดการความสัมพันธ์ของผู้สมัคร (CRM)

การตลาดการจัดหางานเน้นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้สมัครที่มีศักยภาพ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กำลังหางานอยู่ก็ตาม การจัดการความสัมพันธ์ของผู้สมัครเกี่ยวข้องกับการรักษาไปป์ไลน์ความสามารถและการมีส่วนร่วมของผู้สมัครผ่านการสื่อสารส่วนบุคคล แคมเปญที่ตรงเป้าหมาย และกิจกรรมเครือข่าย ด้วยการรักษาความสัมพันธ์กับผู้สมัครเมื่อเวลาผ่านไป องค์กรต่างๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จากกลุ่มผู้มีความสามารถได้เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมเกิดขึ้น
 

6. Recruitment Marketing เมตริกและการวิเคราะห์

การตลาดการจัดหางานอาศัยข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์และทำการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล เมตริกต่างๆ เช่น อัตราการสมัคร อัตรา Conversion ต้นทุนต่อการจ้างงาน  และความพึงพอใจของผู้สมัครจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสำเร็จของความพยายามทางการตลาดในการสรรหาบุคลากร ด้วยการวิเคราะห์เมตริกเหล่านี้ องค์กรสามารถปรับแต่งกลยุทธ์และปรับกระบวนการสรรหาให้เหมาะสม
 

7. Recruitment Marketing เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ

การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรมักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและเครื่องมืออัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ระบบติดตามผู้สมัคร (ATS), ซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ช่วยในการจัดการข้อมูลผู้สมัคร การสื่อสารอัตโนมัติ ติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม
 
ด้วยการรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้ากับกลยุทธ์การสรรหา องค์กรต่างๆ จะสามารถทำการตลาดแบรนด์นายจ้างของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ดึงดูดผู้มีความสามารถ และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้สมัครได้อย่างแน่นอนครับ
 
4 ขั้นตอนของช่องทางการตลาดการสรรหาบุคลากร
 
ผู้เชี่ยวชาญมักจะอธิบายเส้นทางของผู้สมัครว่าเป็นการเคลื่อนผ่านชุดของขั้นตอนที่มุ่งเน้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็น “ช่องทาง” การจ้างงานที่คล้ายคลึงกับช่องทางการขายที่ใช้เพื่ออธิบายการเดินทางของลูกค้าที่นำไปสู่การซื้อ ที่ขั้นตอนทั่วไปนั้นได้แก่
  • การรับรู้
  • การมีส่วนร่วมและการค้นหาที่ Active
  • การแสดงความสนใจ
  • การตัดสินใจสมัครงาน
การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรมุ่งเน้นไปที่ครึ่งบนของกระบวนการจ้างงาน โดยมีเป้าหมายในการผลักดันผู้สมัครให้ก้าวไปสู่ขั้นตอนที่มีความสามารถ หน้าที่ของการตลาดการจัดหางานประกอบด้วยการสร้างความตระหนักรู้ สร้างความสนใจ กระตุ้นการพิจารณา และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สมัครที่คาดหวังเพื่อติดตามโอกาสงานที่เปิดรับ
 
หลังจากขั้นตอนการตลาดการสรรหา ผู้สมัครจะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของช่องทางการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงสิ่งต่อไปนี้
  • การตรวจคัดกรอง
  • สัมภาษณ์และประเมินผล
  • ยื่นข้อเสนอ
  • การตัดสินใจจ้าง
 

วิธีสร้างกลยุทธ์ Recruitment Marketing

วิธีสร้างกลยุทธ์ Recruitment Marketing

วิธีสร้างกลยุทธ์ Recruitment Marketing

แม้ว่าจะไม่มีมาตรฐานสำหรับแผนการตลาดในการจัดหางาน แต่ขั้นตอนส่วนใหญ่มักรวมถึงสิ่งสำคัญต่อไปนี้
  • ตั้งเป้าหมาย
  • กำหนดบทบาท
  • กำหนดผู้สมัครเป้าหมาย
  • ระบุช่องทางการรับสมัคร
  • จัดสรรทรัพยากร
  • สร้างปฏิทินเนื้อหา

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการตลาดด้านการสรรหาบุคลากร

เพื่อให้ความพยายามทางการตลาดในการสรรหาบุคลากรของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณามีดังนี้ครับ
 

1. พัฒนาแบรนด์นายจ้างที่ชัดเจน

กำหนดและสื่อสารค่านิยม วัฒนธรรม และจุดขายเฉพาะขององค์กรของคุณให้ชัดเจน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อความของคุณสอดคล้องกันในทุกช่องทางและจุดเชื่อมต่อ สร้างแบรนด์นายจ้างที่น่าเชื่อถือและโดนใจกลุ่มเป้าหมายซึ่งจะทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง นิกจากนี้ เว็บไซต์ บล็อก หน้าการเปิดรับสมัคร ช่องYouTube และจดหมายข่าวขององค์กรล้วนเป็นช่องทางที่ดีในการทำการตลาดแบรนด์นายจ้างเพื่อสร้างความสนใจให้กับผู้สมัคร ควรใช้เนื้อหาที่ทันต่อเหตุการณ์เกี่ยวสถานการณ์ของตลาดแรงงานในปัจจุบัน เช่น นำเสนอการทำงานจากที่บ้าน การทำงานแบบไฮบริด หรือแม้แต่การทำงานแบบ Digital Nomad เป็นต้น (ถ้าองค์กรของคุณมีนโยบายตามที่ได้กล่าวไป) ทั้งนี้ก็เพื่อเน้นประโยชน์ของการทำงานในองค์กรและดึงดูดความสนใจไปที่ตำแหน่งงานที่คุณต้องการเปิดรับ
 

2. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ

สร้างบุคลิกของผู้สมัครเพื่อทำความเข้าใจความชอบ แรงจูงใจ และความท้าทายของผู้สมัครในอุดมคติของคุณ สิ่งนี้ช่วยปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดและข้อความการสรรหาบุคลากรของคุณเพื่อดึงดูดและดึงดูดผู้มีความสามารถที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

3. ปรับรายละเอียดหน้าที่ของตำแหน่งงานให้เหมาะสม

เขียนรายละเอียดงาน หรือ Job Description ที่น่าสนใจ และให้ข้อมูลซึ่งแสดงถึงบทบาทและหน้าที่ของบริษัทได้อย่างถูกต้อง เน้นความรับผิดชอบหลัก ทักษะที่จำเป็น และคุณสมบัติ พร้อมแสดงประโยชน์ของการทำงานให้กับองค์กรของคุณ ใช้คำหลักและวลีที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามักจะค้นหา
 

4. ใช้ประโยชน์จาก Omnichannel

ใช้ช่องทางที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงผู้สมัครที่มีศักยภาพ โพสต์ตำแหน่งงานว่างบนบอร์ดรับสมัครงานยอดนิยมต่างๆ โปรโมตงานบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเฉพาะอุตสาหกรรม และใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์บริษัทและหน้ารับสมัครงานของคุณ นำเสนอในที่ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณน่าจะอยู่มากที่สุด อาทิ ใช้โฆษณาแบบออร์แกนิกและแบบชำระเงิน ระบุแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผู้สมัครเป้าหมายเยี่ยมชมเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น ผู้สมัครรุ่น Millennial และ Gen X มักจะใช้ Instagram หรืออีกทางเลือกหนึ่ง เช่น  LinkedIn อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการเข้าถึงบุคลากรมืออาชีพในทุกกลุ่มประชากร
 

5. สร้างเนื้อหาที่มีส่วนร่วม

ผลิตเนื้อหาที่มีคุณค่าและมีความเกี่ยวข้องซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมขององค์กร ประสบการณ์ของพนักงาน และข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม ซึ่งอาจรวมถึงบล็อกโพสต์ บทความ วิดีโอ การสัมมนาผ่านเว็บ และคำรับรองจากพนักงาน เนื้อหาที่มีส่วนร่วมจะช่วยสร้างความไว้วางใจ ความน่าเชื่อถือ และความสนใจของผู้สมัคร
 
นอกจากนี้ ความสอดคล้องของข้อความในช่องทางและแผนกต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ของผู้ว่าจ้างและสร้างความไว้วางใจให้กับผู้สมัคร วิธีหนึ่งที่จะรับประกันความสอดคล้องกัน คือการนำเนื้อหาเดิมมาใช้ซ้ำในช่องทางต่างๆ ตัวอย่างเช่น เนื้อหาการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรที่พัฒนาขึ้นสำหรับบล็อกของบริษัทสามารถนำไปใช้ใหม่สำหรับพ็อดคาสท์ การสัมมนาผ่านเว็บ จดหมายข่าว และวิดีโอ เป็ฺนต้น การใช้ซ้ำสามารถเพิ่มผลกระทบของเนื้อหาการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรได้สูงสุดในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างเนื้อหานั้นให้เหลือน้อยที่สุด
 

6. ปรับแต่งการสื่อสารให้เหมาะกับผู้สมัคร

ปรับแต่งการสื่อสารของคุณให้เหมาะกับผู้สมัครแต่ละคน โดยระบุชื่อและอ้างอิงถึงคุณสมบัติหรือความสนใจเฉพาะของพวกเขา ข้อความส่วนบุคคลแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับความเป็นปัจเจกบุคคลหรือตัวตนของพวกเขาซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วม
 

7. รักษาประสบการณ์เชิงบวกของผู้สมัคร

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้สมัครได้รับประสบการณ์เชิงบวกที่ราบรื่นตลอดกระบวนการสรรหา ตอบคำถามของผู้สมัครอย่างทันท่วงที ให้คำแนะนำที่ชัดเจน และสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ แจ้งให้ผู้สมัครทราบเกี่ยวกับสถานะของพวกเขาและให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์เมื่อจำเป็น
 

8. ใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ

ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเทคโนโลยีการสรรหาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติ ระบบติดตามผู้สมัคร (ATS), ซอฟต์แวร์ CRM และเครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดียสามารถช่วยจัดการข้อมูลผู้สมัคร ทำการสื่อสารอัตโนมัติ ติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ และปรับปรุงประสิทธิภาพ
 

9. วัดผลและวิเคราะห์ผลลัพธ์

ใช้เมตริกและการวิเคราะห์เพื่อประเมินประสิทธิผลของความพยายามทางการตลาดในการสรรหาบุคลากรของคุณ ติดตามเมตริกที่สำคัญ เช่น อัตราการสมัคร อัตราการแปลง เวลาในการสรรหา ต้นทุนต่อการจ้างงาน และความพึงพอใจของผู้สมัคร วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุงและตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก
 

10. ปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

ประเมินและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรของคุณอย่างสม่ำเสมอตามข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการวิเคราะห์ข้อมูลและข้อเสนอแนะของผู้สมัคร ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมและปรับแนวทางของคุณให้เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
 
ด้วยการปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านี้ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความพยายามทางการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรของคุณ ดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูง และสร้างแบรนด์ผู้ว่าจ้างที่แข็งแกร่งซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ครับ
 

สรุป

การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรเป็นสิ่งที่องค์กรต่างๆ ต้องใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เพื่อค้นหาและดึงดูดคนที่มีคุณภาพที่สามารถขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจ ด้วยการใช้ประโยชน์จากหลักการและกลยุทธ์ทางการตลาด องค์กรต่างๆ สามารถส่งเสริมแบรนด์ของผู้ว่าจ้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมกับผู้สมัครที่มีศักยภาพ และปรับกระบวนการสรรหาให้เหมาะสม
 
การตลาดด้านการจัดหางานแตกต่างจากวิธีการสรรหาบุคลากรแบบเดิม ๆ โดยใช้แนวทางเชิงรุกและกำหนดเป้าหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์นายจ้างที่น่าสนใจซึ่งแสดงถึงค่านิยม วัฒนธรรม และจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์กร ด้วยการพัฒนาบุคลิกภาพของผู้สมัคร องค์กรจะได้รับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผู้สมัครในอุดมคติของพวกเขา ทำให้พวกเขาสามารถปรับแต่งกลยุทธ์การสรรหาและข้อความให้สอดคล้องกับกลุ่มคนที่มีความสามารถที่ต้องการ
 
การโฆษณาตำแหน่งงานว่างในหลายช่องทางจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้สมัครที่มีศักยภาพจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานผ่านแพลตฟอร์มและช่องทางต่างๆ ที่สำคัญ การตลาดเนื้อหา ก็จำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ สร้างความเป็นผู้นำทางความคิด และดึงดูดผู้สมัครผ่านเนื้อหาที่มีคุณค่าและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมาย
 
การตลาดการจัดหางานมีความสำคัญเนื่องจากช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูง ปรับปรุงเวลาจ้างงาน เพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณการสรรหา ปรับปรุงแบรนด์ของผู้ว่าจ้าง และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร การนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดด้านการสรรหาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง องค์กรสามารถค้นหาบุคลากรที่เหมาะสมซึ่งมีทักษะ คุณสมบัติ และความเหมาะสมทางวัฒนธรรมที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจได้ตามเป้าหมาย
 
 
 
แหล่งที่มา :
 
 

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *