Canva คืออะไร
1. คนทั่วไปก็เป็นนักออกแบบได้ถ้ามี Canva
2. Canva ใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้
3. Canva เป็นมิตรกับงบประมาณในกระเป๋า
4. Canva มีเทมเพลตและองค์ประกอบที่หลากหลาย
5. เทมเพลตสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบกำหนดเองได้
6. มอบรูปลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ
7. เสนอการใช้ภาพถ่ายสต็อก
8. ความสามารถในการเข้าถึงระหว่างทีมงาน
9. แชร์บนโซเชียลมีเดีย และ ตั้งเวลาโพสต์ ได้สะดวก
ประวัติความเป็นมาของ Canva
ทำไม Canva เติบโตได้แบบก้าวกระโดด
เมื่อพูดถึงเครื่องมือออกแบบกราฟิกในปัจจุบัน ย่อมมีตัวเลือกมากมาย แต่หนึ่งในเครื่องมือออกแบบกราฟิกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ธุรกิจและผู้ประกอบการคงไม่ใช่ใครนอกจากแคนวา ด้วยจุดเด่นที่ใช้งานง่ายทำให้มันได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดามือสมัครเล่นหรือแม้แต่มืออาชีพในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย และคุณสมบัติที่หลากหลายทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ชิ้นงานกราฟิกสำหรับการใช้งานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ แคนวาถือเป็นธุรกิจที่ทำให้โลกนี้ดูดีขึ้น เรียกได้ว่าพวกเขาได้ทำลายกำแพงแห่งการออกแบบลงได้สำเร็จ และทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถสร้างงานกราฟิกที่ดูดีที่สามารถทำให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งต่อไปนี้เราขอยกตัวอย่าง ข้อดีของแพลตฟอร์ม และกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจของแคนวา ที่ผลักดันให้พวกเขากลายเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตได้แบบก้าวกระโดด และได้รับความนิยมอย่างสูงในทุกวันนี้ครับ
1. มุ่งเน้นไปที่ผู้ซื้ออย่างสมบูรณ์
- อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย : อินเทอร์เฟซของ Canva ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ซื้อเป็นหลัก ฟังก์ชันการลากและวางของแพลตฟอร์ม เทมเพลตที่สร้างไว้ล่วงหน้า และเครื่องมือแก้ไขที่ใช้งานง่ายช่วยให้ผู้ซื้อสร้างกราฟิกที่ดูเป็นมืออาชีพได้ง่าย แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยก็ตาม
- ราคาย่อมเยา : โครงสร้างราคาของ Canva มุ่งเน้นไปที่ผู้ซื้อ แพลตฟอร์มดังกล่าวเสนอแผนบริการฟรีที่มีเครื่องมือออกแบบพื้นฐาน และแผนบริการแบบชำระเงินมีราคาที่จ่ายได้ ทำให้เข้าถึงได้ทั้งบุคคลและธุรกิจ
- คลังเทมเพลตขนาดใหญ่ : Canva มีคลังเทมเพลตการออกแบบมากมาย ที่ครอบคลุมกรณีการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่กราฟิกโซเชียลมีเดียไปจนถึงนามบัตร เทมเพลตเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อสร้างงานออกแบบที่ดูเป็นมืออาชีพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
- องค์ประกอบการออกแบบที่ปรับแต่งได้ : องค์ประกอบการออกแบบของ Canva สามารถปรับแต่งได้ ทำให้ผู้ซื้อสามารถปรับแต่งและปรับการออกแบบให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของตนได้ ตั้งแต่การเลือกแบบอักษรไปจนถึงแบบแผนสี ผู้ซื้อมีความยืดหยุ่นในการออกแบบแต่ละแบบของตนเอง
- มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่แข็งแรง : แคนวาเสนอฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อช่วยเหลือผู้ซื้อเกี่ยวกับปัญหาใดๆ ที่พวกเขาอาจพบขณะใช้แพลตฟอร์ม ทีมสนับสนุนของบริษัทพร้อมให้บริการทางอีเมล แชท และโทรศัพท์ ทำให้ผู้ซื้อได้รับความช่วยเหลือเมื่อต้องการได้อย่างง่ายดาย
2. มีหน้า Landing Page ที่ยอดเยี่ยม
- ทำให้การลงทะเบียนนั้นง่ายมาก ด้วยตัวเลือก 1 คลิก หรือใช้แค่อีเมล
- นำเสนอแนวคิดการออกแบบเพื่อส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์
3. ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า
- อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ : อินเทอร์เฟซของ แคนวา ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและใช้งานง่าย ด้วยอินเทอร์เฟซแบบลากและวางที่ใช้งานง่าย แพลตฟอร์มนี้นำเสนอเทมเพลตและองค์ประกอบที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานออกแบบคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
- ตัวเลือกการปรับแต่ง : แคนวา นำเสนอตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับสี แบบอักษร และองค์ประกอบการออกแบบอื่นๆ ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของตนได้ แพลตฟอร์มนี้ยังมีไลบรารีภาพถ่ายสต็อกและภาพประกอบระดับพรีเมียมฟรี ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับการออกแบบของตนได้อย่างง่ายดาย
- คุณลักษณะการทำงานร่วมกัน : คุณลักษณะการทำงานร่วมกันของ แคนวา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานออกแบบร่วมกับผู้อื่นได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ทีมทำงานร่วมกันในโครงการได้ง่าย ผู้ใช้สามารถแบ่งปันการออกแบบ แสดงความคิดเห็น และทำการแก้ไข ทั้งหมดนี้ทำได้ภายในแพลตฟอร์ม
- การเข้าถึงผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ : แคนวา มีแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สร้างและแก้ไขงานออกแบบได้ง่ายในขณะเดินทาง แอปนี้ยังมีฟีเจอร์หลายอย่างเหมือนกับแพลตฟอร์มเวอร์ชันเดสก์ท็อป
- ทรัพยากรการเรียนรู้ : แคนวานำเสนอทรัพยากรการเรียนรู้ที่หลากหลาย รวมถึงบทช่วยสอน หลักสูตร และแรงบันดาลใจในการออกแบบ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้พัฒนาทักษะและสร้างงานออกแบบที่ดียิ่งขึ้น
4. มี Blog ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ให้ข้อมูล
5. มีจุดขายที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
6. มีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่แข่งแกร่ง
7. มีฟีเจอร์การทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยม
ส่องกลยุทธ์การตลาดของ Canva
- โมเดล Freemium : โมเดล Freemium ของ แคนวา เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ แพลตฟอร์มนี้มีชุดเครื่องมือออกแบบพื้นฐานให้ใช้งานฟรี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างกราฟิกง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท ผู้ใช้สามารถอัปเกรดเป็นการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินเพื่อเข้าถึงคุณลักษณะเพิ่มเติม เช่น เทมเพลตพรีเมียม ภาพสต็อก และความสามารถในการอัปโหลดแบบอักษรที่กำหนดเอง
- การได้มาซึ่งผู้ใช้ : แคนวา ได้สร้างฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลผ่านช่องทางการหาผู้ใช้ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น โปรแกรมการแนะนำของบริษัทจะให้รางวัลแก่ผู้ใช้ด้วยเครดิต แคนวา เมื่อพวกเขาเชิญผู้อื่นให้เข้าร่วมแพลตฟอร์ม แคนวา ยังได้ร่วมมือกับธุรกิจและองค์กรเพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ฟรี ซึ่งช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้ใหม่ในอุตสาหกรรมต่างๆ
- การตลาดเนื้อหา : บล็อกของ แคนวา เป็นศูนย์กลางของ Content Marketing ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ใช้ บริษัทเผยแพร่บทความ แบบฝึกหัด และกรณีศึกษาเกี่ยวกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ ตั้งแต่การพิมพ์ไปจนถึงการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เนื้อหาได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณค่าแก่ผู้ใช้ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงพลังของแพลตฟอร์ม แคนวา
- การตลาดบนโซเชียลมีเดีย : แคนวา มีตัวตนบนโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่งในหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง Facebook, Instagram, Twitter และ Pinterest บริษัทแบ่งปันแรงบันดาลใจในการออกแบบ การอัปเดตแพลตฟอร์ม และเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ติดตามและส่งเสริมแบรนด์ของบริษัท
- ความร่วมมือ : แคนวา ได้สร้างความร่วมมือกับธุรกิจและองค์กรต่างๆ เพื่อโปรโมตแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเช่น บริษัทได้ร่วมมือกับ Dropbox เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงงานออกแบบ Canva ได้โดยตรงจากบัญชี Dropbox ของตน แคนวา ยังได้ร่วมมือกับเครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดีย Hootsuite เพื่อให้ผู้ใช้สามารถออกแบบโพสต์โซเชียลมีเดียได้โดยตรงจากแพลตฟอร์ม Hootsuite เป็นต้น
- แนวทางการสร้างแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ : แคนวาได้สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยเน้นไปที่จุดเด่นในการใช้งานง่าย ราคาย่อมเยา และความอเนกประสงค์ การสร้างแบรนด์ในลักษณะนี้ช่วยสร้างความแตกต่างจากเครื่องมือออกแบบที่เคยมีมา และเท่ากับเบุกเบิกการวางตำแหน่งให้เป็นเครื่องมือออกแบบแรกๆ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักออกแบบอีกด้วย
กลยุทธ์การตลาดของ Canva ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร?
- การได้มาซึ่ง User อย่างรวดเร็ว : แคนวาเติบโตจากสตาร์ทอัพขนาดเล็กสู่บริษัทมูลค่าพันล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงทศวรรษ ขณะนี้แพลตฟอร์มมีผู้ใช้มากกว่า 60 ล้านคนใน 190 ประเทศ โมเดลฟรีเมียม โปรแกรมอ้างอิง และพันธมิตรทางธุรกิจของแคนวาช่วยให้บริษัทได้รับ User ได้อย่างรวดเร็ว
- การรับรู้ถึงแบรนด์ : ความพยายามทางการตลาดของแคนวาช่วยให้บริษัทสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก การสร้างแบรนด์ที่มีสีสันของบริษัท การปรากฏตัวบนโซเชียลมีเดียที่น่าดึงดูดใจ และเนื้อหาด้านการศึกษาล้วนมีส่วนสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ของบริษัท
- ความภักดีของผู้ใช้ : การมุ่งเน้นของแคนวาในการให้คุณค่าแก่ผู้ใช้ช่วยให้บริษัทสร้างฐานผู้ใช้ที่ภักดีได้อย่างมั่นคงแข็งแรง ด้วยจุดเด่นที่ใช้งานง่าย และมีเทมเพลตการออกแบบแน่นๆ ที่สำคัญยังราคาย่อมเยา ทุกปัจจัยล้วนมีส่วนทำให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมทั้งในหมู่บุคคลและธุรกิจ
สรุป
โดยสรุปแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดของแคนวาถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในความสำเร็จของบริษัท แคนวาได้สร้างฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลและแบรนด์ที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกผ่านรูปแบบฟรีเมียม ช่องทางการรับผู้ใช้ การตลาดเนื้อหา การแสดงตนบนโซเชียลมีเดีย และการเป็นพันธมิตร การมุ่งเน้นของบริษัทในการมอบคุณค่าแก่ผู้ใช้ได้ช่วยสร้างฐานผู้ใช้ที่ภักดี และความพยายามทางการตลาดของบริษัทก็มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ ในขณะที่แคนวา เติบโตอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ทางการตลาดก็มีแนวโน้มจะพัฒนาขึ้น และบริษัทจะยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์และความท้าทายใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย