IMC – ในยุคดิจิทัล การสื่อสารในที่ทำงานกำลังเปลี่ยนไป ผลการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เวลาที่พนักงานใช้ใน “กิจกรรมการทำงานร่วมกัน” เพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ และเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานร่วมกัน อาทิ แอปพลิเคชัน Slack ได้ทำให้การสื่อสารระหว่างทีมนั้นง่ายขึ้นกว่าที่เคย ธุรกิจต่างๆ ตระหนักดีว่าการสร้างความมั่นใจว่าทีมงานมีความเข้าใจตรงกันก่อนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ บริการ และแม้แต่แบรนด์ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง วันนี้ Talka จะพาทุกคนมาเรียนรู้เพิ่มเติมว่าการตลาดแบบบูรณาการกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ทีมสื่อสารกันอย่างไร และมีประสิทธิภาพมากเพียงใดในการเปลี่ยนแปลงความพยายามและผลลัพธ์ทางการตลาดครับ
IMC คืออะไร?
แน่นอนว่าการตลาดแบบบูรณาการอยู่ขั้วตรงข้ามกับการทำงานด้วยแนวคิดแบบไซโล (SILO) หรือการทำงานที่ต่างฝ่ายในองค์กรทำงานแบบตัวใครตัวมัน เกี่ยงงานกัน แบ่งแยกงานฉันงานเธอ หรือบางทีอาจแข่งขันกันเอง ไม่ค่อยสื่อสารหรือช่วยกันทำงานเพื่อส่วนรวมให้บรรลุเป้าหมายและลดอุปสรรคระหว่างแผนกต่างๆ
การตลาดแบบบูรณาการถูกมองว่าเป็นแนวทางในการสร้างประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และไร้รอยต่อสำหรับผู้บริโภคในการโต้ตอบกับแบรนด์/องค์กร เป็นการพยายามผสมผสานทุกด้านของการสื่อสารการตลาด เช่น การโฆษณา การส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ การตลาดทางตรง และโซเชียลมีเดีย ผ่านการผสมผสานของยุทธวิธี วิธีการ ช่องทาง สื่อ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ทั้งหมดทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งการปฏิบัติต่อฝ่ายการตลาดในฐานะหน่วยงานที่แยกจากกันจะจำกัดการสื่อสารและลดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แนวทางการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกช่องทางมีความสอดคล้องและปฏิบัติตามกลยุทธ์เดียวกัน ครอบคลุมวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและค่านิยมของบริษัท
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการเป็นวิธีการที่บริษัทรับรองว่าวิธีการส่งเสริมการขายที่แตกต่างกันภายในแคมเปญการตลาดจะมีความชัดเจน สอดคล้องกัน และทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ตัวอย่างเช่น หากเอเจนซี่โฆษณากำลังวางแผนที่จะเปิดตัวแคมเปญที่สร้างสรรค์ พวกเขาควรใช้การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการเพื่อรับประกันว่าเครื่องมือทางการตลาดต่างๆ จะถ่ายทอดข้อความและประสบการณ์ของแบรนด์ในแบบเดียวกัน วิธีการแบบบูรณาการจะใช้เครื่องมือสื่อสารที่หลากหลายเพื่อถ่ายทอดข้อความที่มีตราสินค้าเดียวกัน ซึ่งรวมถึงการโฆษณาแบบดั้งเดิม การตลาดออนไลน์ กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ แคมเปญการขาย และการตลาดผ่านอีเมล เป็นต้น
ประโยชน์ของ การตลาดแบบบูรณาการ
เมื่อพูดถึงการสื่อสารการตลาด ข้อความที่สอดคล้องกันย่อมทรงพลังและมีอิทธิพล กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อความหลักของธุรกิจของคุณจะถูกส่งต่ออย่างสม่ำเสมอในหลายช่องทาง ทุกปฏิสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีกับแบรนด์ของคุณต้องรวมเอาค่านิยม ผลประโยชน์ และจุดขายที่ไม่เหมือนใคร เพื่อที่จะทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ซึ่งต่อไปนี้ คือ ประโยชน์บางประการที่ชัดเจนของการผสมผสานกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการไว้ในธุรกิจของคุณ
1. IMC ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ
การนำกลยุทธ์ การตลาดแบบบูรณาการมาใช้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการจัดหากระบวนการที่คล่องตัว ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อความที่กลมกลืนกันของบริษัทจะถูกส่งผ่านช่องทางต่างๆ และทรัพยากรด้านเวลาจะไม่สูญเปล่าไปกับข้อความซ้ำๆ การตลาดแบบบูรณาการไม่ได้มีไว้สำหรับผู้บริโภคของคุณเท่านั้นเพราะมันยังเป็นประโยชน์สำหรับการสื่อสารภายในที่มีประสิทธิภาพกับทีมของคุณ การทำงานร่วมกันภายในทั่วทั้งธุรกิจรวมถึงการบริการลูกค้าต้องใช้น้ำเสียง สไตล์ และการสื่อข้อความที่สอดคล้องกัน
ก่อนเปิดตัวเนื้อหาทางธุรกิจใดๆ ทีมงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องรักษาการสื่อสารที่สม่ำเสมอ และเผยแพร่ข้อความที่ชัดเจนสู่สาธารณะ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้แพลตฟอร์มการสื่อสารแบบบูรณาการ เช่น Slack เพื่อรวมข้อความทั้งหมดไว้ที่ศูนย์กลาง และทำให้แน่ใจว่าทุกคนเข้าใจแบรนด์และปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้
2. IMC ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ในแนวทางการตลาดแบบดั้งเดิม คุณมักจะพบว่ามีการแยกกันระหว่างทีมต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ภาพรวมของการประชาสัมพันธ์ การโฆษณา การตลาดทางตรง และการส่งเสริมการขายเป็นไปอย่างไม่เป็นระบบระเบียบ และในบางกรณีอาจเกิดความขัดแย้งกัน เช่น บริษัทของคุณทำอาหารอร่อย กลยุทธ์ทางการตลาดของคุณกำหนดวิธีการนำเสนออาหาร (ผลิตภัณฑ์) ของคุณ แต่เมื่อคุณขาดความสามัคคีในหมู่ทีมการตลาด มันจะเหมือนกับว่ามีคนเอาอาหารอร่อยๆ นั้นไปโยนในตู้เย็น แม้รสชาติของอาหารไม่เปลี่ยนแปลง แต่ด้วยการนำเสนออาจทำให้มันออกมาไม่ค่อยสวยงาม ส่งผลให้ลูกค้าอาจย้ายไปยังแบรนด์อื่นที่ลักษณะการสื่อสารที่มีความชัดเจนมากกว่า ดังนั้น ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชน ที่ได้รับการสนับสนุนโดยบล็อกโพสต์ บทความ หน่วยงานการตลาดภายนอก หรือ ทีมขาย ขององค์กร ฯลฯ ที่ทำงานร่วมกันจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาในทิศทางที่ดีและสอดคล้องกลมกลืนกันซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากกว่า
3. IMC ช่วยลดความสับสน
ความสับสนเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายดายและรวดเร็วที่สุดในการสูญเสียลูกค้า ดังนั้นการหลีกเลี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ด้วยการตลาดแบบบูรณาการ ความสับสนของผู้ซื้อจะลดลงอย่างมาก ส่งผลให้มีการปิดการขายได้มากขึ้น ผู้บริโภคจะได้รับข้อความที่ชัดเจนและสม่ำเสมอจากแบรนด์ของคุณ โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณกำลังดำเนินการขายผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชันใด และพวกเขาขะสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณได้ที่ใด ภายในทีมของคุณจะไม่ต้องกังวลกับการสร้างข้อความที่ขัดแย้งกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เนื่องจาก IMC ช่วยให้ผู้ซื้อได้รับข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ผู้บริโภคจึงสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้โดยเร็วที่สุด และสามารถหลีกเลี่ยงการแข่งขันจากแบรนด์อื่นได้
4. IMC ช่วยให้เข้าถึงผู้ชมขนาดใหญ่ขึ้น
การใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายช่วยให้บริษัทของคุณเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้นและขยายขอบเขตการเข้าถึงของคุณซึ่งหมายความว่ามีโอกาสสูงขึ้นในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดผู้บริโภคที่เหมาะสมมาที่แบรนด์ของคุณ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการรักษากลุ่มเป้าหมายและข้อความทางการตลาดที่สำคัญให้สม่ำเสมอตลอดช่องทางของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะละเลยไม่ได้
5. IMC มีความคุ้มค่า
การเผยแพร่เนื้อหาในหลายช่องทางอาจเป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายสูง การนำกลยุทธ์ การตลาดแบบบูรณาการมาใช้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำเนื้อหา ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงิน โดยการใช้ภาพเดียวกันทั่วทั้งเว็บไซต์ของคุณและโปรไฟล์โซเชียลมีเดียหลายรายการ เป็นต้น
6. ช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของแบรนด์
การปรับปรุงภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ ความสม่ำเสมอและสอดคล้องกันในการนำเสนอข้อความของแบรนด์ผ่านช่องทางต่างๆ จะช่วยสร้างความไว้วางใจ ส่งผลให้ผู้บริโภครู้ว่าคุณใส่ใจในผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างแท้จริง ซึ่งการใช้การตลาดแบบบูรณาการ จะช่วยให้แน่ใจว่าองค์ประกอบต่างๆ ภายใต้แบรนด์ของคุณสอดคล้องกันอย่างราบรื่น
ด้วยแนวทางที่เป็นหนึ่งเดียวกันจะเพิ่มผลกระทบต่อตลาดของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเจาะจงเฉพาะกลุ่มหรืออุตสาหกรรมของคุณ ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนของแคมเปญ IMC ที่ประสบความสำเร็จซึ่งใช้แบรนด์ของตนเพื่อส่งเสริมการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์และบริการของตน
- แคมเปญ AnyWare ของ Domino ต้องการทำให้คำสั่งซื้ออาหารจานด่วนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น Domino ได้สร้างหน้าเว็บชื่อ anyware.dominos.com ซึ่งอธิบายรายละเอียดที่สำคัญทั้งหมดของแคมเปญให้กับลูกค้า กระบวนการสั่งพิซซ่าก่อนเปิดตัวแคมเปญนี้เป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย ต้องผ่านตัวเลือกท็อปปิ้งมากมาย ตลอดจนการป้อนข้อมูลการชำระเงิน อัปเดตที่อยู่ทางไปรษณีย์ แล้วรอให้คนส่งมาถึง เว็บไซต์นี้ทำหน้าที่เป็นแหล่งสื่อสารหลัก โดยมีการเข้าชม 500,000 ครั้ง Domino’s ได้พัฒนาระบบการสั่งซื้อที่คล่องตัว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับเกือบทุกแพลตฟอร์ม เช่น Twitter สมาร์ทวอทช์ และ สมาร์ททีวี
- อีกตัวอย่างหนึ่ง คือแคมเปญ Be a Hero ของ GoPro เป้าหมายของแคมเปญนี้ คือการดึงดูดอารมณ์ของกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมสื่อต่างๆ เช่น นิตยสาร การจัดแสดงในร้านค้า ป้ายโฆษณา และช่องทางการตลาดดิจิทัล แคมเปญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการแบ่งปันประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นโดยใช้ผลิตภัณฑ์ GoPro Be a Hero
7. สร้างความไว้วางใจ
การใช้กลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการจะสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและช่วยให้สามารถสร้างความไว้วางใจและเรียกความเชื่อมั่นได้ ด้วยการรับส่งข้อความมีความสอดคล้อง และบูรณาการในหลายช่องทาง ในทางกลับกันหากข้อความสำคัญไม่ได้รับการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางต่างๆ ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ของแบรนด์ที่ไม่เกี่ยวข้อง และมีโอกาสน้อยที่จะสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ได้
8. ขวัญกำลังใจที่เพิ่มขึ้น
จนถึงตอนนี้ เราได้พูดถึงประโยชน์ภายนอกมากมายของ IMC ที่มีต่อธุรกิจของคุณ แต่นอกเหนือจากประโยชน์ภายนอกแล้ว กลยุทธ์ IMC ที่ยอดเยี่ยมสามารถนำไปสู่ผลประโยชน์ภายในที่ดีหลายประการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือขวัญกำลังใจของทีมงานที่เพิ่มขึ้น ทีมของคุณจะต้องติดต่อประสานงานกันดีขึ้น ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลดีในระยะยาวต่อผลประโยชน์โดยรวมขององค์กร
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าการมีกลยุทธ์ การตลาดแบบบูรณาการที่เหมาะสมสามารถทำอะไรได้บ้าง คุณอาจถูกทิ้งให้สงสัยว่า มันสำคัญ แต่จะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร? ตัวเลือกนี้ไม่มีที่สิ้นสุดและน่าตื่นเต้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ เป็นวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นเครื่องหมายการค้าของเรา เราเริ่มต้นด้วยวัตถุประสงค์พื้นฐานทางธุรกิจของคุณและปรับกลยุทธ์การเติบโต การตลาด แบรนด์ และดิจิทัลเพื่อสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ กระบวนการ จะสร้างข้อความที่ชัดเจนพื่อบอกตลาดของคุณว่าคุณเป็นใครและคุณสามารถทำอะไรให้พวกเขาได้บ้าง ซึ่งนี่เป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) เป็นฟังก์ชันการตลาดเชิงกลยุทธ์ ที่หัวใจสำคัญ คือ การทำงานร่วมกัน และการส่งเสริมการขาย โดยที่ผู้ชมเป้าหมายจะได้รับข้อความของแบรนด์ที่สอดคล้องกันที่สามารถโน้มน้าวใจผ่านช่องทางการตลาดต่างๆ ในลักษณะบูรณาการ เพื่อดึงดูดผู้ซื้อผ่านกระบวนการตัดสินใจ ในระดับพื้นฐานที่สุด การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการช่วยให้มั่นใจว่านักการตลาดจะสามารถใช้ช่องทางที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อขยายแคมเปญการตลาดและการส่งข้อความถึงแบรนด์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ซื้อ เพื่อช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ให้พิจารณาใช้สี่ขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อสร้างและใช้กลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการที่สอดคล้องกัน เพื่อเริ่มต้นความสำเร็จของคุณได้อย่างรวดเร็ว
1. ระบุวิธีการสื่อสารการตลาดแบบต่างๆ
ในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการ คุณจำเป็นต้องกำหนดวิธีการสื่อสารการตลาดต่างๆ ที่คุณต้องการใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนของคุณ โดยพิจารณากลุ่มเป้าหมายของคุณและวิธีที่พวกเขาต้องการรับข้อมูล รวบรวมข้อเท็จจริง และดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขาพยายามแก้ไข จากนั้นให้กำหนดว่าช่องทางใดมีความเกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับแคมเปญเฉพาะของคุณ ตัวอย่างบางส่วน ได้แก่
การตลาดเนื้อหา : ทำให้เนื้อหาของคุณพร้อมใช้งานทางออนไลน์ผ่านเนื้อหาต่างๆ เช่น บล็อก การตลาดผ่านวิดีโอ เนื้อหาพรีเมียม (หลังหน้า Landing Page เพื่อเก็บข้อมูล) ป๊อปอัป และเนื้อหาเว็บไซต์แบบไดนามิก เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อที่มีศักยภาพของคุณเชื่อมต่อและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณแม้กระทั่งก่อนที่พวกเขาจะเริ่มต้นกระบวนการตัดสินใจ
การตลาดผ่านอีเมล : ใช้อีเมลเพื่อดึงดูดผู้ชมที่มีอยู่ของคุณอีกครั้งผ่านเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และไม่ซ้ำใคร พิจารณาผู้ติดต่อที่มีอยู่ของคุณอยู่เสมอ และวิธีที่คุณสามารถทำให้พวกเขากลับมามีส่วนร่วมอีกครั้งผ่านเนื้อหา มันไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างลีดใหม่เสมอไป แต่ความพยายามทางการตลาดที่มีผลกระทบมากที่สุดของคุณมักจะมาจากการนำเสนอเนื้อหาที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมให้กับสมาชิกปัจจุบันของคุณ นี่คือกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถขับเคลื่อนการเติบโตและเห็นผลกระทบมหาศาลผ่านการใช้ Email Marketing
การตลาดบนโซเชียลมีเดีย : โซเชียลมีเดียเปิดประตูสู่การสร้างความสัมพันธ์ การพัฒนาการรับรู้ถึงแบรนด์ และสร้างการเข้าชมเว็บไซต์ เมื่อรวมกับการตลาดผ่านอีเมลและการตลาดเนื้อหา แคมเปญการตลาดดิจิทัลที่ใช้โซเชียลมีเดียจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ด้วยการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายของคุณบนแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้เวลาอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการสร้างความสนใจในตัวสินค้าและผลลัพธ์ขอวเนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย
2. พัฒนาแผนการสื่อสารการตลาด
เมื่อคุณได้กำหนดช่องทางการตลาดที่จะตรงใจผู้ชมของคุณแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะพัฒนาแผนที่ครอบคลุมเพื่อดำเนินการตามความคิดริเริ่มทางการตลาดของคุณ ในการเริ่มต้นคุณต้องมุ่งเน้นไปที่สามรายการหลัก ได้แก่
ผู้ชม : โดยกำหนดลักษณะของผู้ซื้อสำหรับวิธีการทางการตลาดแต่ละวิธีของคุณ ตัวอย่างเช่น หากบุคคลใดบุคคลหนึ่งของคุณเป็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ให้พิจารณาการตลาดผ่านอีเมลและ Facebook หากอีกฝ่ายหนึ่งของคุณเป็นรุ่นมิลเลนเนียล ให้ลองส่งข้อความและอินสตาแกรม บุคลิกของคุณจะกำหนดช่องทางที่คุณใช้เพื่อมีส่วนร่วมกับพวกเขา
เนื้อหา : กำหนดเนื้อหาหรือ Content ที่จะพูดกับผู้ชมของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังพยายามสร้างผู้ติดต่อใหม่สำหรับฐานข้อมูลของคุณ คุณอาจต้องการเสนอข้อเสนอที่เหนือชั้น เช่น สมัครรับจดหมายข่าวหรือดาวน์โหลดรายการตรวจสอบบนเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถกำหนดให้เป็นป๊อปอัปที่แสดงเมื่อมีคนออกจากเว็บไซต์ของคุณ ข้อเสนอเนื้อหานี้เป็นวิธีสุดท้ายในการเชื่อมต่อกับพวกเขา ซึ่งคุณจะแปลกใจว่าสิ่งเหล่านี้ทำงานได้ดีเพียงใด
จังหวะ : จำเป็นต้องเข้าใจว่าผู้คนเปิดรับข้อมูลบ่อยแค่ไหน คุณสามารถรับข้อมูลนี้จากความช่วยเหลือของ แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติที่หลากหลายได้ ตัวอย่างเช่น HubSpot ที่สามารถดูความถี่ที่ผู้คนอ่านอีเมล มีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ และแม้แต่โซเชียลมีเดีย เราสามารถใช้ข้อมูลนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าเราส่งเนื้อหาบ่อยครั้งเพียงพอ แต่ไม่บ่อยเกินไปจนเกินความจำเป็นสำหรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า หากคุณเห็นว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะที่คุณนำเสนอมีรอบการขายทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 90 วัน คุณต้องทำให้จังหวะอีเมลของคุณสอดคล้องกับกรอบเวลานั้น โดยใช้ข้อมูลที่มีเพื่อการตัดสินใจได้ดีที่สุดโดยพิจารณาจากผู้ชมของคุณและความถี่ที่พวกเขามีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณ
3. เข้าใจกระบวนการตัดสินใจของลูกค้า
ทำความเข้าใจสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ แล้วค้นหาว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกซื้อจากคุณ สิ่งสำคัญที่นี่คือการทำความเข้าใจปัญหาที่คุณกำลังแก้ไขสำหรับพวกเขาและวิธีช่วยพวกเขาในการเดินทางตัดสินใจนั้น คุณจะสังเกตเห็นว่าลูกค้าบางรายใช้กระบวนการตัดสินใจแบบขยายเวลา แต่ลูกค้ารายอื่นๆ ใช้การมีส่วนร่วมในระดับต่ำในการตัดสินใจที่จำกัด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับธุรกิจของคุณและสิ่งที่คุณขาย หากเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาต่ำ กรอบเวลาของคุณจะสั้นลง หากคุณกำลังขายซอฟต์แวร์ B2B อาจจำเป็นต้องใช้เวลานานกว่านั้นเนื่องจากจำนวนคนที่เกี่ยวข้อง การตัดสินใจของลูกค้าส่วนใหญ่เป็นไปตามรูปแบบพื้นฐานในขณะที่มีส่วนร่วมในสถานการณ์เฉพาะซึ่งส่งผลให้มีการขายที่เรียกว่ากระบวนการตัดสินใจ
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่สรุปกระบวนการในการตัดสินใจของลูกค้า
- พวกเขารับรู้ถึงปัญหา
- พวกเขาค้นหาข้อมูล
- พวกเขาระบุผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถแก้ปัญหาได้
- พวกเขาเลือกทางเลือกที่พวกเขาจะซื้อ
- พวกเขาประเมินประสบการณ์หลังการขาย
บริษัทที่เข้าใจธรรมชาติที่ซับซ้อนของพฤติกรรมผู้บริโภคและการตัดสินใจของผู้บริโภคจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารทางการตลาดได้โดยการปรับแต่งข้อความให้เข้ากับกระบวนการในการตัดสินใจของผู้ชม
4. ใช้แผนการสื่อสารการตลาดของคุณ
ถึงเวลาดำเนินการตามแผนของคุณและรอดูผล ซึ่งต่อไปนี้ คือขั้นตอนสำคัญบางส่วน ที่จะช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์การตลาดของคุณได้อย่างราบรื่น
ปฏิทิน : ใช้ปฏิทินเพื่อทราบว่าเนื้อหาของคุณจะถูกแชร์กับผู้ชมเมื่อใดและที่ไหน ซึ่งจะช่วยคุณจัดระเบียบเนื้อหาแคมเปญและสื่อสารกับผู้มีแนวโน้มเป็นลูกค้าในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมในเส้นทางการตัดสินใจของพวกเขา
ซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติ : หากต้องการทำสิ่งนี้ในวงกว้าง คุณจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติทางการตลาดที่สอดคล้องกับ CRM ของคุณ คุณจึงสามารถเห็นกระบวนการขายที่สมบูรณ์ได้ ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อช่วยให้คุณใช้งานโปรแกรมของคุณ คุณจะสามารถเข้าถึงผู้ชมของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และนำเสนอข้อความที่บูรณาการ ที่ราบรื่นและสม่ำเสมอแก่พวกเขาในช่องทางต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
วิเคราะห์ : เพื่อช่วยให้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดของคุณครอบคลุมและขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์ ให้ติดตามความต้องการของผู้มีแนวโน้มเป็นลูกค้าต่อไป โดยเน้นที่ความสามารถของผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณที่แก้ปัญหาและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม คุณสามารถทำได้โดยการตรวจสอบการมีส่วนร่วมของแคมเปญ อัตราการเปิดอีเมลและอัตราการคลิก การโต้ตอบทางโซเชียล คำขอพูดคุยกับฝ่ายขาย และปิดการขายในที่สุด
ตามเทรนด์ : ติดตามเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อค้นหาวิธีใหม่ในการทำให้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง ดังนั้นความพยายามในการสื่อสารของคุณจึงส่งผลต่อคุณค่าของแบรนด์ของคุณ ปัจจุบัน มีเครื่องมือและกลวิธีใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าสิ่งใดที่อาจช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการของคุณ เพื่อให้คุณสามารถทดสอบเครื่องมือและเทคนิคใหม่ๆ ที่อาจสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
สรุป
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการนั้นอาจมีความซับซ้อนในระดับหนึ่ง เพราะมันจำเป็นต้องคำนึงถึงช่องทางที่คุณจะใช้ ตลอดจน กลุ่มเป้าหมาย เนื้อหา จังหวะ เทคโนโลยี และการติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าแคมเปญของคุณประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงและสามารถสร้างรายได้
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการมีบทบาทสำคัญในการตลาด กล่าวคือช่วยลดต้นทุนให้น้อยที่สุด เพิ่มยอดขาย ช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ดังนั้น ธุรกิจจะได้รับประโยชน์อย่างมากจาก IMC ผ่านการโฆษณาและการตลาดทางตรง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด การรวมกันของกลยุทธ์เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงตลาดเป้าหมายที่กว้างขึ้น เครื่องมือเหล่านี้จะได้รับการประเมินผ่านการตรวจสอบการขาย การทำแบบสำรวจ และการประเมินความคิดเห็นของลูกค้า
อย่างไรก็ตาม องค์กรจำเป็นต้องพิจารณาถึงขอบเขตที่แต่ละองค์ประกอบของการผสมผสานการสื่อสารด้วยภาพสามารถควบคุมหรือปรับให้เข้ากับบริบทเฉพาะเพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันของทุกโมเดลการตลาด ที่สำคัญที่สุด องค์กรต้องพิจารณาถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของข้อความการสื่อสารด้วยภาพและลักษณะที่ข้อความเหล่านั้นได้รับจากเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ หากข้อความในการสื่อสารมีความน่าเชื่อถือและเชื่อถือได้ในการแสดงลักษณะที่แท้จริงของแบรนด์ ข้อความเหล่านั้นจะถือว่าเป็นที่ยอมรับและมีผลในการโน้มน้าวการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
แหล่งที่มา :
https://www.prismglobalmarketing.com
