เคล็ด(ไม่)ลับ เพิ่มยอดขาย ให้ธุรกิจ ด้วยโซเชียลมีเดียแบบเจาะให้ถึงใจลูกค้า

เพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขาย – การตลาดบนโซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้น ผู้คนมากกว่า 3.96 พันล้านคนทั่วโลกใช้โซเชียลมีเดีย ดังนั้น การเพิ่มยอดขายด้วยการใช้กลยุทธ์ Social Media Marketing จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเสมอ อย่างไรก็ตามด้วยตัวเลือกทางการตลาด และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น อาจนำไปสู่ความสับสนในการดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อสร้าง ROI ที่มั่นคง แม้ตอนนี้คุณอาจกำลังลงทุนในช่องทางอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น Email Marketing, Content Marketing , SEO หรือ PPC แต่เมื่อคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ น่าจะได้เวลาแล้วละครับที่คุณต้องขยายกลยุทธ์การตลาดโซเชียลมีเดียด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มยอดขายและรายได้ ซึ่งวันนี้ Talka ได้นำเคล็ดลับดีๆ ในการเพิ่มยอดขายให้ปังด้วยการใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อยอดขายมาฝากทุกคนครับ

การเพิ่มยอดขาย สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ

เพิ่มยอดขาย
ก่อนอื่นเรามาดูถึงความสำคัญของการ เพิ่มยอดขาย กันก่อนครับ ซึ่งการเพิ่มยอดขายของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่มีความสำคัญเสมอ เพราะเมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น ผลกำไรของบริษัทย่อมเพิ่มขึ้นเช่นกัน บริษัทใหญ่ๆ แทบทั้งหมด ย่อมเคยเป็นธุรกิจขนาดเล็กมาก่อน แต่เพื่อการเติบโตและความสำเร็จ พวกเขาเรียนรู้ที่จะเพิ่มยอดขายสูงสุดด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับลูกค้า อย่างไรก็ตามทีมขายไม่ใช่แผนกเดียวที่รับผิดชอบในการเพิ่มยอดขาย ทุกแผนกในธุรกิจควรเข้าใจกลยุทธ์และหลักการที่จะนำไปสู่ยอดขายเพิ่มขึ้น บริษัทสามารถสนับสนุนให้ทุกแผนกมีส่วนร่วมในการขายโดยสร้างแผนการขายที่แสดงรายการเหตุการณ์สำคัญที่พวกเขาต้องบรรลุ การมีแผนการขายก็เหมือนกับการมีคู่มือแนะนำ เพราะมันคือแนวทางที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณบรรลุเป้าหมายได้ แม้ว่าจุดประสงค์ในการทำธุรกิจของคุณจะเป็นเพราะเหตุผลใด อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดมันจำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องของประสิทธิภาพที่เป็นตัวกำหนดรายได้ที่จะนำมาซึ่งความมั่นคงให้แก่คุณ ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงการขายและการเพิ่มยอดขาย เราต้องมองถึงภาพรวมในธุรกิจ การปฏิบัติการ กลยุทธ์การตลาด ตลอดจนความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ 

เพิ่มยอดขาย ด้วย Social Media ใน Customer Journey

เพิ่มยอดขาย

ยุคนี้นักการตลาดทุกคนรู้ดีว่าการดำเนินการด้านการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาดมีความสำคัญต่อการเติบโตของยอดขายและความสำเร็จของธุรกิจ ซึ่งเมื่อพูดถึงช่องทางการขายที่เป็นเสมือนบันไดสู่ความสำเร็จ มันคือกระบวนการที่ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของลูกค้า Customer Journey ได้แก่ การรับรู้ ความสนใจ การประเมิน และการซื้อ ซึ่งความจริง คือ โซเชียลมีเดียสามารถเพิ่มความสำเร็จได้ในทุกเรื่องและทุกขั้นตอนครับ

การตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของผู้คนในยุคนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและเทคโนโลยีที่เข้ามาสนับสนุน ปัจจุบัน ผู้บริโภคมักทำการค้นคว้าและซื้อด้วยตัวเองมากขึ้น การตัดสินใจซื้อของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากโพสต์บนโซเชียลมีเดียของบริษัท ช่องทางโซเชียลเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถแบ่งปันข้อมูล ค้นคว้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ ตัดสินใจอย่างมีข้อมูล และได้ข้อสรุปของตนเองเมื่อต้องตัดสินใจซื้อ ซึ่งต่อไปนี้คือประโยชน์ของโซเชียลมีเดียที่ช่วยเหลือผู้บริโภคเมื่อเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางการซื้อครับ

โซเชียลมีเดียช่วยให้ผู้ซื้อของคุณ

  • ติดตามแนวโน้มล่าสุด ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
  • แบ่งปันผลิตภัณฑ์ที่ชื่นชอบและประสบการณ์ของแบรนด์ เพื่อบอกต่อเพื่อน ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ดี
  • เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริษัท และเรียนรู้เกี่ยวกับการซื้อที่เป็นไปได้
  • ค้นคว้าหาสิ่งที่คนอื่นแนะนำ หรือพูดถึง ความจริงในยุคนี้ คือ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าโดยอ้างอิงจากคำอ้างอิงบนโลกโซเชียลมีเดียเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาตัดสินใจถูกก่อนการซื้อ ดังนั้น การเข้าถึงคำวิจารณ์และคำรับรองจากบุคคลภายนอกได้อย่างสะดวกสบายสามารถลดความลังเลใจของผู้ซื้อได้
  • โต้ตอบกับเพื่อน ๆ แบรนด์โปรด และชุมชนของพวกเขา
  • ขอการสนับสนุนจากแบรนด์หรือบริษัท ลูกค้าย่อมคาดหวังว่าข้อร้องเรียนของพวกเขาจะได้รับการแก้ไขและจัดการอย่างรวดเร็ว ซึ่งแบรนด์ที่มอบประสบการณ์และบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าได้ ย่อมมีอัตราการรักษาลูกค้าได้สูงสุด

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ คือต้องจำไว้ว่าการมีส่วนร่วมกับแบรนด์นั้นไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นหรือสิ้นสุดด้วยการซื้อเสมอไป ผู้ซื้อของคุณกำลังมองหาสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหาข้อมูลที่จะแนะนำพวกเขาได้ในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตลูกค้า ซึ่งต่อไปนี้คือแนวทางสำคัญในการใช้โซเชียลมีเดียในทุกขั้นตอนของการเดินทางของลูกค้าที่จะนำมาซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นให้แก่ธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอนครับ

1. ขั้นสร้างการรับรู้ (Brand Awareness)

  • โฟกัสในแพลตฟอร์มที่มีกลุ่มเป้าหมายใช้งานประจำ

สมมุติว่าคุณกำลังโปรโมตร้านขายอุปกรณ์ศิลปะลูกค้าและผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณส่วนใหญ่อาจจะเป็นผู้ที่ใช้เวลากับ Pinterest และ Instagram หรือถ้าหากคุณเป็นสำนักข่าว คุณอาจต้องการเข้าถึงผู้ที่ใช้เวลาบน Twitter เป็นต้น ดังนั้นการพิจารณาผู้ชมของคุณ และสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาสนใจเป็นพิเศษถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มการรับรู้แก่พวกเขาด้วยการเลือกใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เหมาะกับความสนใจเหล่านั้นอย่างดีที่สุด

  • เข้าร่วมกับกลุ่มที่สนใจในเรื่องเดียวกัน

คุณสามารถเจาะลึกในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจของคุณให้ความสนใจเพื่อสร้างสถานะที่แข็งแกร่งแก่ธุรกิจคุณโดยเข้าร่วมกับกลุ่มต่างๆ ภายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น ใน LinkedIn คุณจะพบผู้คนที่เชื่อมโยงกันโดยอิงตามความสนใจด้านอาชีพที่มีร่วมกัน และบน Facebook ก็สามารถแบ่งปันความสนใจส่วนตัวได้ ในความเป็นจริงมักมีการจัดกลุ่มเฉพาะของผู้ใช้ในแพลตฟอร์มต่างๆ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบในทุกแพลตฟอร์ม และพึงระลึกไว้เสมอว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งข้อควรระวัง คือ การสื่อสารที่เน้นการขายอย่างโจ่งแจ้งอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ของคุณได้ ทางที่ดีคุณควรมีส่วนร่วมอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของคุณในแต่ละกลุ่ม

  • พิจารณาเรื่องบูสท์โพสต์และการใช้โฆษณา

การใช้วิธีส่งเสริมการขายแบบชำระเงินเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมเสมอกับการสร้างความตระหนักรู้ในสิ่งที่เป็นธุรกิจและข้อเสนอต่างๆ ทุกวันนี้การโฆษณาในโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่เคยด้วยความสามารถในการกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่แม่นยำ และผู้ที่มีส่วนร่วมกับโฆษณาเหล่านั้นอาจเลือกที่จะติดตามแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของพวกเขา ดังนั้นการรับรู้จึงสามารถสร้างได้อย่างแข็งแกร่งทันทีจากจุดนี้

  • ส่งเสริมให้เกิดการบอกต่อ

โฆษณาสามารถทำงานได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัด เพราะต้องยอมรับว่าลูกค้าบางคนอาจปิดมันไปอย่างง่ายดายได้ เช่นเดียวกับโพสต์โปรโมตต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าคุณสามารถทำให้คนอื่นบอกต่อข้อดีเกี่ยวกับคุณแบบปากต่อปากได้ ย่อมเป็นวิธีที่ดีมากในการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ของคุณในเชิงบวก การแสดงความคิดเห็นบางอย่างในสิ่งที่คนอื่นโพสต์เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ บวกกับการแชร์เนื้อหาที่มีค่าตามแผน Content Marketing ของคุณจะช่วยให้การรับรู้ผ่านการสนับสนุนของผู้อื่นเพิ่มขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป

  • ตรวจสอบคำหลักในแคมเปญ

มีวิธีอื่นในการสร้างการรับรู้นอกเหนือจากการมองเห็นโดยตรง ได้แก่การตรวจสอบคำหลัก (Key Message) และ การใช้แฮชแท็ก (Hashtag) โซเชียลมีเดียเป็นแหล่งของการสร้างโอกาสในการขายเพื่อนำไปสู่การตลาดประเภทอื่นๆ การตรวจสอบคำหลัก ตลอดจน แฮชแท็ก จะช่วยให้คุณสามารถติดตามผู้ที่โพสต์ในหัวข้อเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ซึ่งคุณสามารถมีส่วนร่วมโดยตรงกับการติดตาม ถูกใจ แสดงความคิดเห็น หรือโพสต์ซ้ำ คุณยังสามารถจดบันทึกว่าใครคือบุคคลที่สามที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้าในอนาคต และช่วยให้รู้ถึงเหตุผลที่พวกเขาให้ความสนใจธุรกิจของคุณ ขั้นต่อไปคุณสามารถเพิ่มพวกเขาในระบบ CRM (ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์) หรือแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านความพยายามอื่นๆ ที่นอกเหนือจากช่องทางโซเชียลมีเดียได้อีก 

2. ขั้นสนใจ (Interest)

  • ทดสอบข้อความของคุณ

เข้าสู่อีกขั้นของของกระบวนการขาย กลุ่มเป้าหมายไม่เพียงแต่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่อาจเริ่มเปิดใจกับสิ่งที่คิดว่าคุณน่าจะแก้ปัญหาสำหรับพวกเขาได้ สิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่าข้อความใดที่คุณใช้สามารถกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายในขั้นตอนนี้ได้ดีที่สุด โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่เหมาะสำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของข้อความ รวมถึงยังสามารถกำหนดได้ว่าจะทำการทดสอบในวงกว้างหรือแคบเพียงใด หรือคุณสามารถตั้งค่าการจัดการโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงโดยตรงกับแบรนด์ของคุณและทดสอบเนื้อหาต่างๆ เพื่อดูว่าจะได้รับการตอบรับตามที่คาดหวังหรือไม่ หากการตอบรับดี ข้อความของเนื้อหานั้นๆ จะสามารถแพร่กระจายไปยังการขายและการตลาดอื่นๆ ได้อีก

  • ตอบโต้กับกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากการโพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจแล้ว วิธีกระตุ้นความสนใจที่ดีอีกวิธีหนึ่งก็ คือ การตอบสนองต่อสิ่งที่คนอื่นพูดถึงคุณ หากคุณพบโพสต์ในโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณหรือสิ่งที่คุณขาย ให้ลองโต้ตอบกับพวกเขาด้วยข้อความบางอย่างซึ่งอาจเกี่ยวกับวิธีที่แสดงให้เห็นว่าคุณอาจเหมาะสมกับความต้องการนั้นๆ โดยนัย 

  • ใช้การวิเคราะห์ 

ในขั้นของการถูกประเมินจากกลุ่มผู้ชม คุณจำ เป็นที่จะต้องรู้ว่ากลยุทธ์ต่างๆ ของคุณทำงานได้ดีมากน้อยเพียงใด ด้วยคุณสมบัติของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียด้านการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าการส่งข้อความของเดือนนี้สามารถเปลี่ยนผู้ที่อยู่ในขั้นของการประเมินให้เป็นลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อได้ดีกว่าข้อความเดิมที่เคยใช้ไปเมื่อเดือนก่อนหรือไม่ ซึ่งโซเชียลมีเดียสามารถให้ข้อมูลเชิงลึก หรือ Insight ที่ซับซ้อนต่างๆ ผ่านคุณสมบัติการวิเคราะห์ของแต่ละแพลตฟอร์มซึ่งคุณสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่คุณสื่อสารเป็นอย่างไร และทำงานได้ดีหรือไม่

  • ใช้ Landing Page

เมื่อมีใครบางคนสนใจกิจกรรมในโซเชียลมีเดียของคุณมากพอที่จะคลิกต่อไปยังเว็บไซต์ของคุณและยังดูเพิ่มเติมอีกด้วยว่าธุรกิจของคุณเกี่ยวกับอะไร นั่นเป็นเพราะคุณสามารถกระตุ้นความสนใจพวกเขาได้สำเร็จ ซึ่งการติดตามความคืบหน้าในส่วนนี้สำคัญมาก ดังนั้น การทำให้โปรไฟล์โซเชียลมีเดียของคุณเชื่อมต่อกับหน้า Landing Page หน้าใดหน้าหนึ่งที่มีสิ่งที่พวกเขาสนใจจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยวิธีนี้คุณจะทราบได้ว่าช่องทางโซเชียลมีเดียใดที่สร้างความสนใจของผู้ชมได้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้เทคนิคเว็บขั้นสูงได้ต่อไป เช่น การทำความเข้าใจว่าเครือข่ายสังคมใดมีแนวโน้มดีที่สุดที่ควรโฟกัส ซึ่งดูได้จากความสนใจในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการขาย และพยายามใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมที่น่าสนใจด้วยการกำหนดเป้าหมายแคมเปญโฆษณาใหม่ ที่สำคัญ Landing Page ถือเป็นหน้าที่ผู้เยี่ยมชมสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาเพื่อแลกกับข้อมูลการติดต่อของพวกเขา หากพวกเขาติดต่อคุณเองเป็นครั้งแรก มันย่อมดีกว่าการที่คุณขอชื่อและที่อยู่อีเมลของพวกเขาเท่านั้น

  • มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน

ในขอบเขตของโซเชียลมีเดียนั้นอาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินได้อย่างแม่นยำว่าใครคือผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า อย่างไรก็ตามไม่ควรมองข้ามโอกาสใดๆ ก็ตาม ที่ดูมีแนวโน้มต่อการเพิ่มยอดขาย ดังนั้นคุณควรมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้ชมของคุณอย่างแข็งขันในทุกโอกาส 

3. ขั้นการประเมิน

  • สร้างช่องทางในการแสดงตัวตันของแบรนด์แบบถาวร

ผู้บริโภคที่ชาญฉลาดมักประเมินธุรกิจของคุณอย่างละเอียดถี่ถ้วน เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะพยายามทำความเข้าใจธุรกิจของคุณให้มากที่สุดก่อนที่เขาจะไว้วางใจ กิจกรรมการตลาดบนโซเชียลมีเดียของคุณจึงเป็นเหมือนเกมที่ยาวนานที่ต้องเล่นไปจนกว่าจะชนะ ผู้คนอาจย้อนดูประวัติการโพสต์และการโต้ตอบต่างๆของธุรกิจคุณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาว่าพวกเขาควรให้ความสนใจและไว้ใจคุณได้มากเท่าใด 

  • ตอบสนองเสมอ

การประเมินอาจเป็นขั้นตอนที่นำไปสู่ความผิดหวังได้มากที่สุดของกระบวนการขาย ผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณย่อมมีความจริงจังเพียงพอที่ต้องการให้ทุกการสอบถามและคำขอของพวกเขาต้องได้รับการตอบรับ การมีส่วนร่วมทางสังคมที่ดี เช่นการตอบสนอง หรือ โต้ตอบกับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณเสมอย่อมช่วยให้สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณมีพลังในการดึงดูดผู้คนได้

  • อ้างอิงลูกค้าของคุณ

หากลูกค้าของคุณเข้าร่วมกลุ่มในโซเชียลมีเดียกับคนอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในขั้นการประเมินที่จะตัดสินใจซื้อกับคุณ ก็ถือเป็นโอกาสดีที่คุณจะสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ก่อนอื่นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณติดตามพวกเขา (ลูกค้าที่ซื้อกับคุณ) บนโซเชียลมีเดีย และเมื่อพวกเขาโพสต์ข้อดีเกี่ยวกับธุรกิจของคุณในกลุ่ม คุณสามารถใช้ข้อความในการเคลมแบบอ้อมๆ ที่แสดงให้กลุ่มผู้ที่อาจยังอยู่ในขั้นประเมินธุรกิจของคุณเห็นว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นลูกค้าของคุณให้ความไว้วางใจในธุรกิจของคุณ สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มสถานะของคุณกับผู้ที่มีส่วนร่วมในขั้นของการประเมินได้

  • สร้างชุมชนลูกค้า

สิ่งล่อใจอีกอย่างสำหรับผู้ที่อยู่ในขั้นประเมิน คือ การแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณปฏิบัติต่อผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้าได้ดีเพียงใด นอกจากการเข้าร่วมกลุ่มในหัวข้อที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้ตั้งกลุ่มของคุณเองเพื่อติดต่อกับลูกค้า เพื่อใช้เป็นช่องทางในการรับทราบปัญหาด้านการสนับสนุนที่คุณอาจต้องให้ความสนใจ 

4. ขั้นตัดสินใจซื้อ

  • มีส่วนร่วมกับชัยชนะที่เกิดขึ้น

ในขณะที่ผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ากำลังจะตัดสินใจซื้อ อาจถึงเวลาที่คุณต้องรุกคืบ ด้วยการแสดงความความเอาใจใส่ หากคุณยังไม่ได้ติดตามบัญชีโซเชียลมีเดียของพวกเขา หรือหากคุณติดตามอยู่แล้ว ให้ติดตามอ่านโพสต์ของพวกเขา และค้นหาความคิดเห็นหรือการกดถูกใจ จากนั้นให้ส่งข้อความไปโดยตรงเพื่อเสนอตัวว่าคุณยินดีพร้อมให้บริการเพื่อช่วยในการแก้ปัญหาที่พวกเขาอาจพบได้ในฐานะลูกค้าใหม่

  • เสนอโปรโมชั่นแบบจำกัดเวลา

บางครั้งคุณอาจต้องสร้างสิ่งจูงใจเล็กๆ น้อยๆ  เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ลองพิจารณาโพสต์ที่มีข้อเสนอพิเศษในระยะเวลาที่เหมาะสม หรือหากมีเป้าหมายเฉพาะที่หวังว่าจะเปลี่ยนใจมาเลือกซื้อกับคุณ ให้ส่งข้อความถึงพวกเขาโดยตรง หากเป็นข้อเสนอทั่วไปที่คุณเสนอข้อเสนอนั้นอาจเผยแพร่ไปยังผู้อื่นในชุมชนของพวกเขา ซึ่งจะช่วยจุดประกายการรับรู้ใหม่ๆ และนำมาซึ่งความสนใจที่มากขึ้น

  • พิจารณาการเดินทางของผู้ซื้อ

ขั้นตอนการซื้อสำหรับลูกค้าใหม่นั้นน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ การแสดงตัวบนโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นในขณะนั้นอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้พวกเขาตัดสินใจที่สำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ การพิจารณามักจะแตกต่างกันไปในทุกขั้นตอนของกระบวนการซื้อ ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและลูกค้าที่แตกต่างกันใช้เส้นทางที่แตกต่างกัน นี่เป็นส่วนที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ตลอดการขายและการตลาด และผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียอาจเป็นส่วนสำคัญในการโต้ตอบภายในเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงการใช้ข้อมูลจากผู้อื่นเพื่อกำหนดทิศทางของโซเชียลมีเดีย และสำหรับทุกคนในธุรกิจให้นำการเรียนรู้ไปปรับใช้ตลอดเวลาที่ทำให้แต่ละคนมากขึ้น มีประสิทธิภาพ.

  • อย่าละเลยลูกค้าเก่า

เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อแล้ว นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดของวัตถุประสงค์ของธุรกิจ เพราะโซเชียลมีเดียยังคงมีความสำคัญในการทำให้พวกเขามีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพนักงานขายอาจขาดแรงจูงใจจากลูกค้ารายเดิม และอาจเปลี่ยนโฟกัสไปที่การมองหาลูกค้ารายใหม่ ดังนั้นคุณควรติดตามลูกค้าของคุณอย่างสม่ำเสมอ เช่น การมีส่วนร่วมกับโพสต์หรือส่งข้อความส่วนตัว และพิจารณามอบข้อเสนอพิเศษที่พวกเขาอาจชื่นชอบในฟีดโซเชียล นอกจากนี้การมีส่วนร่วมแบบสดกับกลุ่มลูกค้าของคุณ เช่น Facebook Live อาจเป็นวิธีที่ดีในการล็อคความภักดีเพื่อช่วยให้คุณเพิ่มลูกค้าได้มากขึ้น

5 เทคนิค เพิ่มยอดขาย ด้วย Social Media

เพิ่มยอดขาย

ทุกวันนี้เราจะเห็นได้ว่ามีธุรกิจจำนวนมากที่มุ่งเป้าสู่การตลาดโซเชียลมีเดีย ด้วยการตลาดบนโซเชียลมีเดียสามารถสร้างกลุ่มผู้ชมที่มีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโซเชียลมีเดียเติบโตขึ้นอย่างมากจากที่เคยเป็นเพียงสื่อที่ผู้ใช้เป็นเด็กวัยรุ่นเท่านั้น แต่ปัจจุบันมันได้กลายเป็นสื่อที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในคนเกือบทุกกลุ่มทั่วโลก ดังนั้น จึงเป็นที่ชัดเจนว่าโซเชียลมีเดียสามารถเป็นแหล่งของโอกาสในการขายและ Conversion ของธุรกิจ หากได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง นั่นเป็นเหตุผลที่หลายบริษัทให้ความสำคัญกับงบประมาณทางการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ทั้งความพยายามสร้างการมีส่วนร่วม และปลูกฝังความภักดีของลูกค้า ตลอดจนผู้ซื้อรายใหม่

เมื่อคุณทราบถึงแนวทางในการดำเนินกลยุทธ์ในการใช้โซเชียลมีเดียในขั้นตอนต่างๆ ของการเดินทางของลูกค้าแล้ว ต่อไปนี้ คือเคล็ดลับเพิ่มเติมแบบกว้างๆ บางประการ นอกเหนือจากแนวทางการใช้โซเชียลมีเดียในทุกขั้นของ Customer Journey ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพื่อทำให้การตลาดโซเชียลมีเดียของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายให้คุณได้อย่างแน่นอนครับ

1. โฟกัสไปที่ผู้ชม

การใช้จ่ายจำนวนมากไปกับการตลาดบนโซเชียลมีเดีย แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ คือ การพยายามดึงดูดทุกๆ คนในลักษณะหว่านพืชหวังผล ดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนความคิด และแนวทางแบบเดิมที่ทำให้สูญงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ ด้วยการจำกัดกลุ่มผู้ชมเป้าหมายให้แคบลง หลังจากนั้นคุณต้องสร้างโปรไฟล์ลูกค้า เช่น อายุ เพศ ความชอบ ไลฟ์สไตล์ งานที่ทำ รายได้ และกำหนดเป้าหมายทางการตลาดของคุณไปยังความต้องการและแรงจูงใจของบุคคลนั้น ซึ่งจะช่วยให้การตลาดของคุณมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีหว่านพืชหวังผล ซึ่งในทางปฏิบัติคุณอาจต้องแบ่งกลุ่มผู้ชมตามพารามิเตอร์หรือค่าตัวเลขต่างๆ ที่คำนวณได้จากกลุ่มผู้ชม เพื่อให้สามารถกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยพื้นฐานแล้วการแบ่งส่วนของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณจัดการวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับลักษณะของลูกค้าที่หลากหลายได้ด้วยการปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดของคุณตามลักษณะเฉพาะของพวกเขา

2. เลือกแพลตฟอร์มของคุณและปรับแต่งให้เหมาะสม

ความพยายามที่จะรักษาความเคลื่อนไหวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในทุกแพลตฟอร์มที่คุณมีอยู่อาจทำให้ธุรกิจต้องรับบทหนัก ซึ่งความพยายามของคุณที่จะโฟกัสในทุกแพลตฟอร์มอาจไม่ได้ผล ดังนั้นให้วิเคราะห์ลักษณะผู้ซื้อของคุณและตัดสินใจว่าแพลตฟอร์มใดดีที่สุดสำหรับการมีส่วนร่วมกับตลาดเป้าหมายของคุณ เมื่อคุณเลือกเนื้อหาของคุณแล้ว คุณจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของคุณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแพลตฟอร์มนั้น และทำให้ได้รับการมีส่วนร่วมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังมุ่งเน้นไปที่ Instagram คุณจะสามารถมุ่งเน้นทรัพยากรของคุณในการสร้างภาพที่มีคุณภาพ เนื่องจากนั่นคือสิ่งที่ได้รับแรงฉุดมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม ในทางกลับกัน บน Twitter การตั้งกระทู้ที่มีข้อมูลสูงมักจะได้รับการมีส่วนร่วมมากขึ้นและประชาสัมพันธ์แบรนด์ของคุณมากขึ้น

3. เพิ่มยอดขาย ด้วยการสร้างและแบ่งปันเนื้อหาที่มีคุณค่า

Content Marketing เป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริง และผลลัพธ์ของมันจะปรากฏบนโซเชียลมีเดียด้วย โดยทั่วไปการแบ่งปันเนื้อหาที่ประสบความสำเร็จมักใช้วิธีเผยแพร่เนื้อหาที่สั้นและให้ความบันเทิงหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ด้วยเนื้อหาลักษณะนี้มักได้รับการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะมีเนื้อหาบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ อินโฟกราฟิก ฯลฯ ที่จะเผยแพร่ออกไปและนำการเข้าชมจำนวนมากมาสู่เว็บไซต์ของคุณ อย่าลืมทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณอยู่ในระดับมาตรฐาน

ขั้นตอนแรกในการสร้างแบรนด์ที่น่าเกรงขาม และเป็นทางลัดที่ง่ายดายอย่างหนึ่ง คือ การปรับกลยุทธ์เนื้อหาของคุณอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับประเด็นเฉพาะ ด้วยการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและการใช้คำบรรยายภาพที่น่าสนใจสำหรับ Instagram,Twitter และ แพลตฟอร์มอื่นๆ คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับเทรนด์และทำให้เนื้อหาของคุณปรากฏต่อผู้คนได้อีกมากมาย

4. เพิ่มยอดขาย ด้วยการส่งเสริมเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น

เป็นธรรมดาที่ผู้คนจะเชื่อใจเพื่อนมากกว่าธุรกิจไม่ว่าพวกเขาจะภักดีต่อแบรนด์แค่ไหนก็ตาม คุณสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นโดยสนับสนุนให้ผู้คนโพสต์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดียที่ตรวจสอบและส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ตัวอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือแคมเปญ “Share a Coke with…” Coca-Cola ซึ่งให้ผู้ใช้โพสต์รูปภาพของตัวเองพร้อมขวดโซดา ด้วยการตลาดเชิงสร้างสรรค์หรือการแจกของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ คุณสามารถจูงใจให้ผู้คนโพสต์ข้อมูลเชิงบวกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้ ตัวอย่างเช่น สำหรับบริการด้านการท่องเที่ยว การให้ลูกค้าเขียนรีวิวเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาตามความเป็นจริงและสนุกสนานจะเป็นการพิสูจน์ทางสังคมและสนับสนุน FOMO (ความกลัวที่จะพลาดโอกาสอะไรบางอย่างไป) ในหมู่ผู้ชมเป้าหมายของคุณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มแนวโน้มที่จะเกิด Conversion หรือการแปลงต่างๆ ได้

5. เพิ่มยอดขาย ด้วยการไม่ละเลยลูกค้าสำคัญ

รีวิวจากลูกค้าในเชิงบวกเป็นสิ่งที่ดีเสมอสำหรับแบรนด์ อย่างไรก็ตามก็เป็นไปได้ที่ลูกค้ากลุ่มนี้อาจมีประสบการณ์บางอย่างที่ไม่น่าพอใจกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ วิธีแก้ไข คือ คุณต้องพร้อมที่จะมีส่วนร่วมกับพวกเขาและค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นคุณจำเป็นต้องให้โอกาสในการแสดงความคิดเห็น และมีโซลูชันในการแก้ไขข้อกังวลที่พวกเขามี และกระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันความคิดเห็นกับเครือข่ายของพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความภักดีของลูกค้า ส่งเสริมการบอกต่อและทำให้ได้มาซึ่งลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างชื่อเสียงในเชิงบวกของธุรกิจบนโซเชียลมีเดีย เมื่อผู้ติดตามของคุณเพิ่มมากขึ้นและพร้อมตรวจสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ หลักฐานอ้างอิงในความชอบธรรมทางสังคมของคุณจะเพิ่มขึ้น และผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะดึงดูดแบรนด์ของคุณ และแน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายและผลกำไรของคุณได้อย่างแน่นอน

สรุป

มาถึงตรงนี้ คุณคงมองเห็นถึงพลังของโซเชียลมีเดียไม่มากก็น้อย แน่นอนว่าในฐานะเจ้าของธุรกิจออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ซ หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณต้องเผชิญต่อจากนี้ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าชมร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ได้มาซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางคู่แข่งนับไม่ถ้วนที่พร้อมแย่งชิงเส้นทางเดียวกันกับคุณ แต่ด้วยวิวัฒนาการของการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ได้นำเสนอแพลตฟอร์มที่สามารถสนับสนุนและรองรับทั้งธุรกิจและลูกค้าอย่างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ย่อมช่วยให้โอกาสในการมุ่งสู่เป้าหมายของคุณเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ

โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในวิถีทางสู่การเติบโตของธุรกิจของคุณด้วยเหตุผลหลายประการอย่างที่เราได้กล่าวไป ไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำการตลาด หรือช่วยส่งเสริมธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของคุณเท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้าในการค้นหาคำแนะนำและบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์ เพราะนอกจากครอบครัวแล้วลูกค้ายังเชื่อมั่นในเพื่อนฝูง หรือกลุ่มคนที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกันมากกว่าแหล่งข้อมูลอื่นๆ ซึ่งโซเชียลมีเดียถือเป็นช่องทางที่ง่ายและสะดวกสำหรับการได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกของบุคคลที่สามที่ตรงไปตรงมาและมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อได้สูง ยิ่งถ้าคุณสามารถใช้กลยุทธ์ Social Media Marketing ได้อย่างถูกที่ถูกทางถูกเวลา เป้าหมายเพื่อสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจของคุณคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปครับ

 

แหล่งที่มา :

https://eclincher.com/20-ways-to-boost-sales-through-social-media/

https://www.business2community.com/

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *