Marketing Funnel – หากคุณ คือ นักการตลาดดิจิทัล หัวข้อที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้เป็นสิ่งที่คุณจะไม่รู้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วครับ เรากำลังพูดถึงโมเดลที่ทำให้นักการตลาดได้เห็นถึงวิธีที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเปลี่ยนจากการรู้จักแบรนด์เป็นการซื้อสินค้าหรือบริการ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของลูกค้ากับแบรนด์ในหลายขั้นตอน ซึ่งแบรนด์และบริษัทต่างๆ ล้วนใช้กระบวนการนี้เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละขั้นตอนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาด และสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้ Talka จะพามาทำความเข้าใจในทุกสิ่งที่นักการตลาดดิจิทัลจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับประเด็นนี้ให้ดียิ่งขึ้นครับ
Marketing Funnel คืออะไร?
ทำความเข้าใจ Marketing Funnel คืออะไร
แม้ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงและเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์และบริการของตนกับผู้บริโภคได้ง่ายดาย โดยเฉพาะธุรกิจ E-Commerce แต่สิ่งนี้ยังไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด เพราะถึงแม้ว่าแบรนด์จะมีกลุ่มเป้าหมาย (Audiences) และเป้าหมาย (Goal) ของแต่ละแคมเปญแล้ว แต่หากยังไม่รู้วิธีที่จะพาลูกค้าเดินไปสุดทางสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือ การตัดสินใจซื้อได้อย่างราบรื่น ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จได้ แน่นอนว่าการจะเดินถึงจุดที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะระหว่างการเดินทางของลูกค้า มีสิทธิที่จะเกิดกรณี “ทิ้งไว้กลางทาง” ได้เสมอ เนื่องจากขั้นตอนที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อไม่ได้มีเพียงหนึ่งหรือสองขั้นตอน เมื่อเป็นเช่นนี้นักการตลาดจึงจำเป็นต้องมี Marketing Funnel เข้ามาช่วยให้กระบวนการต่างๆ นั้นง่ายขึ้น
ประเด็นที่นักการตลาดจำเป็นต้องทำความเข้าใจในช่องทางของลูกค้า คือ ขั้นตอนในการวางแผนทำการตลาดที่ช่วยให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ครอบคลุมตั้งแต่ การดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย การสร้างยอดขาย การเก็บ leads หรืออะไรก็ตามที่แบรนด์ตั้งใจให้เกิด Conversion โดยแต่ละขั้นตอน จะช่วยดึงดูด โน้มน้าว และทำให้ว่าที่ลูกค้าทำในสิ่งที่คุณต้องการอย่างเป็นระบบแบบแผน ซึ่งโมเดลการตลาดนี้จะช่วยคัดเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็น “ลูกค้าตัวจริง” หรือเข้าข่ายว่าจะกลายเป็นลูกค้าของแบรนด์มาให้ในท้ายที่สุดและต่อไปนี้ คือ ลำดับขั้นตอนของช่องทางของลูกค้า ตลอดจนสิ่งที่นักการตลาดควรทำในแต่ละขั้นตอนครับ
1. ขั้นการรับรู้ (Awareness)
นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจของคุณเป็นครั้งแรก ในความเป็นจริง ผู้บริโภคไม่สามารถซื้อได้หากพวกเขาไม่อินกับธุรกิจของคุณตั้งแต่แรก ดังนั้นในขั้นตอนนี้ การมีข้อเสนอและข้อแนะนำต่างๆ ถึงคุณค่าของคุณให้กับกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนี่คือวิธีที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะรู้ว่าธุรกิจของคุณมีจุดยืนอย่างไร และหากคุณสามารถเสนอโซลูชันที่พวกเขาต้องการได้ เป้าหมายของคุณคือการทำให้ผู้คนสนใจมากพอที่จะสำรวจข้อเสนอแบรนด์ของคุณต่อไป ไม่ว่าจะในรูปแบบของการให้ข้อมูลในหน้า Landing Page การกดถูกใจโพสต์ หรือการติดตามโซเชียลมีเดียของคุณ ซึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมที่สามารถใช้เพื่อสร้างการรับรู้ มีอยู่มากมาย ทั้ง Facebook, Instagram, YouTube, LinkedIn และเครื่องมือค้นหาเช่น Google เนื่องจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพมากพอในการช่วยให้เราเชื่อมต่อกับผู้อื่นจึงเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์
2. ขั้นสนใจ (Interest)
หลังจากที่คุณสร้างการรับรู้สำหรับธุรกิจของคุณกับผู้ชมเป้าหมายและทำให้พวกเขาเริ่มสำรวจข้อเสนอของคุณแล้ว คุณต้องมีส่วนร่วมกับคนกลุ่มนี้ ในระหว่างขั้นตอนนี้ คุณจะต้องสร้างความไว้วางใจกับผู้ชมของคุณโดยให้คุณค่าที่จะหล่อเลี้ยงพวกเขาต่อไปในช่องทาง ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการนี้ เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ผู้ชมของคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเชื่อถือแบรนด์ของคุณหรือไม่ผ่านเนื้อหาที่คุณพัฒนาขึ้น คุณสามารถรักษาพวกเขาไว้ได้โดยวางตำแหน่งแบรนด์ของคุณให้มีความรู้และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลเดียวต่างๆ ทั้ง Facebook, Instagram, YouTube, Twitter, LinkedIn
ตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนผู้ติดตามของคุณให้สมัครรับอีเมลของคุณ หรือแม้แต่เตือนสมาชิกอีเมลของคุณให้ติดตามบัญชีโซเชียลของคุณ ตลอดจนอีเมลอัตโนมัติซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้สมาชิกอีเมลของคุณมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณและสิ่งที่คุณพูด ในตอนท้าย การใช้การสื่อสารที่ให้คุณค่าแก่ผู้ชมของคุณเป็นวิธีที่คุณจะนำพวกเขาไปสู่ขั้นตอนถัดไปของกระบวนการ
3. ขั้นพิจารณา (Consideration)
เมื่อลีด (Lead) หรือ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นไปได้ ขยับจากระยะความสนใจ เข้าสู่ขั้นของการพิจารณาเป็นขั้นตอนนี้ที่แบรนด์ต้องเริ่มกระชับความสัมพันธ์กับพวกเขา ที่กำลังปรารถนาที่จะสำรวจสินค้าและบริการของคุณ ตลอดจนเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์/บริการของคุณและประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ ในทางกลับกันคุณจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้าเกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจัดหาโซลูชันที่ตรงเป้าหมายและเนื้อหาทางการตลาดที่อธิบายสิ่งที่คุณสามารถทำได้สำหรับลูกค้าของคุณ
เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนจากการพิจารณาไปสู่การตัดสินใจได้ง่าย คู่มือผลิตภัณฑ์ การแสดงสินค้า และวิธีแก้ปัญหาทั่วไป คือ กลยุทธ์บางส่วนที่คุณสามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจซื้อ ซึ่ง วิดีโอถือเป็นทรัพยากรที่ยอดเยี่ยมในการแสดงสิ่งที่ผลิตภัณฑ์ของคุณทำได้ คุณยังสามารถใช้บล็อกโพสต์ อินโฟกราฟิก และ e-book เพื่อแสดงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ของคุณได้ ดังนั้นควรใช้ประโยชน์สูงสุดจากความต้องการของลูกค้าในการดูฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์โดยนำเสนอเนื้อหาที่ตรงเป้าหมายในวิธีที่ดีที่สุด
4. ขั้นการตัดสินใจ (Decision)
หลังจากโน้มน้าวผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณสามารถตอบโจทย์ ก็ถึงเวลาให้พวกเขาตัดสินใจ ในขั้นตอนนี้ของกระบวนการทางการตลาด คุณต้องชี้แจงว่าเหตุใดการซื้อจากแบรนด์ของคุณจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เหตุใดพวกเขาจึงจำเป็นต้องซื้อตอนนี้ และการซื้อจากเว็บไซต์/ร้านค้าออนไลน์ของคุณทำได้ง่ายเพียงใด ไม่ว่าอุตสาหกรรมของคุณจะแข่งขันได้หรือไม่ก็ตาม มีตัวเลือกในการซื้อจากผู้อื่นเสมอ ให้เริ่มพูดถึงสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ของคุณดีกว่าที่คู่แข่งนำเสนอ มุ่งเน้นที่ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมากกว่าการอธิบายคุณลักษณะ คุณเสนอการจัดส่งฟรีในที่ที่คู่แข่งของคุณไม่มีหรือไม่? ราคาซื้อของคุณต่ำกว่าคู่แข่งของคุณหรือไม่? คุณให้การสนับสนุนหลังการขายแก่ลูกค้าของคุณอย่างไร? ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าของคุณที่จะยึดติดกับคุณหรือซื้อผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันจากแบรนด์คู่แข่ง
5. ขั้นการรักษาลูกค้า (Retention)
เมื่อลูกค้าเป้าหมายกลายเป็นลูกค้าจริง คุณต้องมีแผนที่จะติดต่อกับคนกลุ่มนี้ เพื่อโน้มน้าวให้พวกเขาเกิดความภักดีต่อแบรนด์ เพราะหากไม่มีแผนมารองรับพวกเขาจะตีจากและลืมคุณไป ดังนั้นควรมุ่งมั่นที่จะเพิ่มลูกค้าในชุมชนของคุณ เพื่อให้พวกเขากลับมาอีกและเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นผู้สนับสนุนแบรนด์ หรือ Brand Ambassador ของคุณอย่างต่อเนื่อง เพิ่มลูกค้าในรายชื่อผู้รับ Email ของคุณ ส่งเนื้อหาซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ที่ขอให้พวกเขาติดตามคุณบนโซเชียลมีเดียสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ และการร่วมสนุกชิงรางวัลรายเดือนบนโซเชียลมีเดีย รวมปุ่มให้กดติดตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ไว้ในหน้ายืนยันการสั่งซื้อ และอีเมลการตลาด เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับคุณได้ง่ายขึ้น มอบข้อเสนอและส่วนลดพิเศษให้พวกเขาเพื่อเป็นรางวัลแก่พวกเขาสำหรับการเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์ของคุณในระยะยาว โดยการออกแบบกลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์
Marketing Funnel สำคัญอย่างไร
Marketing Funnel สำคัญอย่างไร
ปัจจุบันด้วยข้อมูลมากมายที่พร้อมใช้งานออนไลน์ได้ทันที เป็นธรรมดาที่ลูกค้าจะค้นคว้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ อ่านรีวิว หรือ บทวิจารณ์ และเปรียบเทียบแบรนด์ของคุณกับคู่แข่งก่อนตัดสินใจซื้อ ขั้นตอนการเรียนรู้และการพิจารณาต่างๆ มักจะใช้เวลานานขึ้นหากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พวกเขาสนใจอยู่มีราคาแพง ทุกธุรกิจมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเส้นทางของลูกค้าของคุณจะไม่เหมือนใคร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการคิดผ่านเส้นทางของลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะของคุณ ตลอดจนการพัฒนากระบวนการขายที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต่อไปนี้คือประโยชน์ของการทำความเข้าใจกับช่องทางของลูกค้าที่จะช่วยอธิบายว่าเหตุใดมันจึงเป็นโมเดลที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของคุณครับ
1. Marketing Funnel ช่วยให้เข้าใจการเดินทางของลูกค้า
นอกจากจะช่วยให้คุณเข้าใจการเดินทางของลูกค้าแล้ว การทำความเข้าใจช่องทางของลูกค้ายังช่วยให้ Customer Journey หรือ การเดินทางของลูกค้าง่ายขึ้น ช่องทางการตลาดจะแสดงแผนที่แต่ละช่วงของการเดินทางของลูกค้า และเครื่องมือหรือกลวิธีใดที่คุณจำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยย้ายผู้มีโอกาสมาเป็นลูกค้าลงช่องทางของคุณ แผนการตลาดที่มีโครงสร้างควบคู่ไปกับการวิเคราะห์เมตริก (Metrics) ที่สอดคล้องกับขั้นตอนต่างๆ ของช่องทางจะช่วยให้คุณปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดและเพิ่มยอดขายได้ และช่วยให้เข้าใจและติดตามเส้นทางของผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์ยืนหยัดในการสร้างตัวเองให้เป็นผู้ริเริ่มในอุตสาหกรรมของตนได้ แต่ยังสามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอีกด้วย เมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าออกไปจากช่องทาง คุณสามารถติดตามไปยังขั้นตอนที่พวกเขาเดินออกไป และ สิ่งนี้จะช่วยเปิดเผยถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
2. ช่วยเชื่อมต่อกับลูกค้า
ช่องทางการตลาดสามารถนำไปใช้กับการโต้ตอบกับลูกค้าได้ทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ สร้างการเข้าชมสำหรับหน้าร้านจริง หรือสร้างรายชื่ออีเมล คุณต้องมีช่องทางการตลาดเนื่องจากมันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในที่ช่วยให้มองเห็นช่องทางต่างๆ ในการเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างชัดเจน
3. ความสามารถในการวัดผลได้
ช่องทางการตลาดมีการกระจายเป็นส่วนๆ ดังนั้นเมื่อคุณสูญเสียลูกค้า จะทำให้ทราบได้อย่างง่ายดายว่าเราสูญเสียลูกค้าไปจากจุดไหนของกระบวนการ วิธีนี้ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกที่ที่ต้องการและกลับไปสู่การดึงดูดลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของคุณ
4. ช่วยสร้างความไว้วางใจ
ด้วยเนื้อหาทุกชิ้นที่คุณนำเสนอเพื่อสร้างการรับรู้ คุณจะเชื่อมต่อกับผู้ชมบางกลุ่มที่กำลังมองหาวิธีแก้ไข การเพิ่มมูลค่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยพัฒนาความเชื่อมั่นในจิตใจของลูกค้าได้
5. ช่วยปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด
เมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้าชมไซต์ของคุณ พวกเขาอาจไม่ได้ลงเอยด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณเสมอไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านี่เป็นโอกาสที่สูญเปล่า คุณสามารถกำหนดเป้าหมายกลยุทธ์ของคุณใหม่ และกลับไปหาลูกค้าที่ลงทะเบียนด้วยอีเมล และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถเชื่อมต่อกับพวกเขาใหม่ และพัฒนากลยุทธ์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ชมของคุณไปยังช่องทางของคุณ แต่ยังสามารถสร้างความภักดีให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย
6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การตลาด
การวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านช่องทางการตลาดย่อมให้แบรนด์ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เมื่อคุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกค้าเป้าหมาย เช่น พฤติกรรม และ ความตั้งใจของพวกเขาแล้ว ช่องทางการตลาดจะ สามารถควบคุมพฤติกรรมผู้บริโภคจากความหมายกว้างๆ ไปจนถึงแคบได้ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำเสนอเนื้อหาไปยังผู้ชมของคุณได้ในเวลาที่เหมาะสม ด้วยการสรุปเส้นทางของลูกค้า คุณสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ปรับแต่งให้เข้ากับตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ในกระบวนการและทำให้พวกเขาก้าวไปสู่ขั้นต่อไปของช่องทางได้
7. ช่วยติดตามได้มากกว่าการขาย
ผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าอาจมีแนวโน้มไม่มากนักที่จะตอบรับในเชิงบวกกับแบรนด์ หากพวกเขาไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ซึ่งอาจส่งผลในทางลบต่อโอกาสในการปิดการขายในภายหลัง การมีส่วนร่วมกับผู้ซื้อจะทำให้คุณได้รับความต้องการที่แท้จริง ขั้นตอนของช่องทางจะช่วยให้เข้าใจถึงแรงจูงใจที่ผลักดันให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณทำการค้นคว้าและตัดสินใจซื้อ เราสามารถนำกระบวนการทางการตลาดไปใช้กับการกระทำใดๆ ที่พิจารณาว่าเป็น Conversion ได้ ซึ่งอาจรวมถึงการโทรติดต่อ กิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย หรือการสมัครรับอีเมล เมื่อลูกค้าเป้าหมายพร้อมที่จะตัดสินใจ ทีมขายของคุณก็สามารถก้าวเข้าไปเพื่อตอกย้ำสิ่งที่ทีมการตลาดพูดเพื่อนำไปสู่การปิดการขายได้
สรุป
สรุป
ช่องทางการตลาด คือ ระบบที่ให้โซลูชันที่เหมาะสมในทุกขั้นตอนของการเดินทางของลูกค้า ยิ่งคุณสามารถติดตามข้อมูลลูกค้าได้ดีกว่าและเป็นไปโดยอัตโนมัติมากเท่าไร ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมดีกว่า และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว คุณจะต้องมีระบบที่ทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ในประเด็นต่อไปนี้
- ทำให้คนรู้จักแบรนด์
- เปลี่ยนผู้ที่ค้นพบแบรนด์ให้กลายเป็นสมาชิกที่ยังคงเชื่อมต่อกับแบรนด์
- ให้คุณค่าสำหรับพวกเขา
- สร้างความไว้วางใจ
- เปลี่ยนจากผู้บริโภคของฟรีให้เป็นผู้ซื้อ
- มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า
- เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ และเพิ่มมูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า
ซึ่งช่องทางการตลาดที่ได้รับการออกแบบมาโดยเจตนาเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจโดยรวมของคุณ จะช่วยติดตามผลลัพธ์ ทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นอัตโนมัติ และลดระยะเวลาที่คุณต้องลงทุนในกระบวนการ ช่วยให้คุณทราบได้อย่างแน่ชัดว่าทุก ๆ คนในฐานข้อมูลของคุณอยู่ที่จุดใดของการเดินทางของลูกค้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่คุณต้องทำ คือ ปรับแต่งข้อความทางการตลาดของคุณให้เหมาะสม และน่าสนใจ เราไปเริ่มทำกันเลยครับ แล้วคุณจะได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
แหล่งที่มา :
https://growthmarketinggenie.com