เทรนด์การตลาด – ในช่วงปลายไตรมาส หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก แน่นอนว่าคุณอาจกำลังหมกมุ่นอยู่กับงานต่างๆ ตั้งแต่การคำนวณตัวเลขไปจนถึงการจัดสินค้าคงคลังให้เป็นระบบระเบียบ และเมื่อใกล้จะถึงปีใหม่ก็ถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับแผนและกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณสำหรับปีหน้าที่กำลังจะมาถึง เมื่อคุณวางแผนงบประมาณและจัดสรรทรัพยากร สิ่งสำคัญที่ธุรกิจขนาดเล็กจะละเลยไม่ได้เลย คือ การพิจารณาเพิ่มเทรนด์การตลาดใหม่ๆ เพื่อการก้าวนำหน้าคู่แข่งให้ได้ในปี 2023 ซึ่งวันนี้ Talka ได้นำเทรนด์การตลาดปีหน้าที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กไม่ควรพลาดมาฝากกันครับ
กลยุทธ์การตลาด สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจขนาดเล็ก

เมื่อพูดถึงในแง่ของการตลาดในยุคดิจิทัล สิ่งหนึ่งที่ธุรกิจขนาดเล็กมักต้องเผชิญ คือปัญหาด้านงบประมาณ และทรัพยากรที่จำกัด สิ่งนี้ส่งผลให้โอกาสในการสร้างแบรนด์ของธุรกิจขนาดเล็กประสบกับปัญหาที่ท้าทายได้ แต่ในปัจจุบันด้วยช่องทางการตลาดออนไลน์ที่มีอยู่มากมาย การโปรโมตธุรกิจของคุณอาจกลายเป็นเรื่องง่ายและมีราคาถูกกว่าที่เคย ผู้คนเกือบ 97% หาข้อมูลธุรกิจในท้องถิ่นทางออนไลน์ก่อนตัดสินใจ
ถึงอย่างไรก็ตาม การโปรโมตธุรกิจขนาดเล็กทางออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากต้องมีการวิจัยที่เหมาะสมเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย สร้างการมีส่วนร่วมกับพวกเขา และที่สำคัญ คือการสร้างเทรนด์ที่ส่งเสริมการตลาดแบบปากต่อปาก หากธุรกิจของคุณไม่ปรากฏในผลการค้นหา แสดงว่าคุณอาจพลาดโอกาสในการขายที่เป็นไปได้ ดังนั้นการปฏิบัติตามกลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมคุณจะเห็นว่าธุรกิจของคุณพัฒนาไปสู่แบรนด์ยอดนิยมและสร้าง ROI ในเชิงบวกได้อย่างไร
ย้อนกลับไปที่เรื่องงบประมาณที่จำกัด มันเป็นข้อจำกัดในด้านการตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากธุรกิจต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งการมองเห็นในตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น และการเข้าถึงตัวเลือกการโฆษณามากมายในปัจจุบันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง มีข้อมูลทางสถิติบอกว่า 50% ของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างกลยุทธ์ทางการตลาด ด้วยเหตุนี้คุณจึงมีโอกาสที่จะโดดเด่นเหนือคู่แข่งด้วยการสร้างแผนการตลาด และใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งต่อไปนี้คือความสำคัญของการตลาดดิจิทัล ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจขนาดเล็กครับ
1. เป็นมิตรกับงบประมาณ
ในฐานะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก คุณอาจจำเป็นต้องเจาะจงเป็นพิเศษกับการใช้จ่ายงบประมาณทางการตลาดของคุณ แม้ว่าวิธีการโฆษณาแบบดั้งเดิมบนบิลบอร์ดและหนังสือพิมพ์จะมีราคาแพง แต่ในยุคดิจิทัล การตลาดบนช่องทางดิจิทัลส่วนใหญ่ใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่า และคุณสามารถระบุได้แม่นยำยิ่งขึ้นว่าโฆษณาของคุณกำหนดเป้าหมายไปที่ใคร เพื่อให้คุณรู้ว่าคุณกำลังใช้จ่ายเงินด้านการตลาดกับคนที่มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ แนะนำให้ลงทุนตามงบประมาณที่คุณพอใจและทำการวัดผลลัพธ์ เมื่อคุณเห็นว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คุณก็สามารถเพิ่มการลงทุนของคุณได้อย่างมั่นใจเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ ผลลัพธ์มักจะได้เร็วกว่าเมื่อคุณทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล ดังนั้นคุณจึงสามารถเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณได้อย่างรวดเร็ว
2. เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
การตลาดดิจิทัลช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันผู้คนใช้เวลาอยู่หน้าจอมากขึ้นเรื่อยๆ และมีโฆษณาดิจิทัลอยู่ในเกือบทุกเว็บไซต์ที่ผู้คนเยี่ยมชม การลงทุนด้านการตลาดดิจิทัลจะทำให้คุณได้แสดงแบรนด์ของคุณต่อหน้าผู้คนในทันที นอกจากนี้มีแนวโน้มว่า 60% ของการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้คนในปัจจุบันมาจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้นโอกาสที่ดีจึงอยู่ที่การเข้าถึงผู้บริโภคที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านี้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด ที่สำคัญด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เอื้อให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงได้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงผู้คนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะอ่านและตอบสนองต่อเนื้อหาของคุณ
3. ช่วยระบุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าด้วยการตลาดดิจิทัล ช่วยให้คุณระบุกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพได้อย่างแม่นยำ ซึ่งคุณอาจทราบแล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใครและจะเข้าถึงพวกเขาได้จากที่ใด ด้วยการตลาดดิจิทัล เมตริกการรายงานจะแสดงให้คุณเห็นอย่างชัดเจนว่าใครโต้ตอบกับโฆษณาของคุณบ้างในช่องทางใด คุณอาจพบผู้ชมใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อน นอกจากนี้ คุณจะพบว่ากลุ่มผู้ชมบางกลุ่มมีประสิทธิภาพดีกว่ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้นคุณจึงสามารถปรับค่าสื่อให้เหมาะสมได้เพื่อประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้
4. ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า
ด้วยขั้นตอนในการทำการตลาดดิจิทัลที่สำคัญบางอย่าง อาทิ การเช็คประสิทธิภาพของการตลาดด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลและติดตามการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่มากมายสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่างบประมาณของคุณถูกใช้ไปอย่างถูกวิธีและสมเหตุสมผล และสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากที่สุด เมื่อคุณลงมือทำการตลาดดิจิทัลทั้งหมดในกระบวนการต่างๆ ของคุณเสร็จสิ้นในเวลาที่รวดเร็วจากความช่วยเหลือของเครื่องมือการตลาดดิจิทัลทั้งหลายคุณจะมีเวลามากขึ้นในแต่ละวันเพื่อคิดเกี่ยวกับแง่มุมอื่นๆ ของธุรกิจของคุณ
5. เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
คนทั่วไปใช้เวลามากมายไปกับโลกออนไลน์ Nielsen Total Audience หนึ่งในบริษัทวิจัยการตลาดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก พบว่าโดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ใช้เวลา 11 ชั่วโมงต่อวันในการโต้ตอบกับสื่อออนไลน์บางรูปแบบ มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเฉลี่ย 3.2 พันล้านคนทั่วโลก ส่งผลให้การใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดดิจิทัลจะช่วยเพิ่มจำนวนคนที่รู้จักธุรกิจของคุณและจดจำชื่อคุณได้ ลูกค้าของคุณใช้โซเชียลมีเดียอยู่แล้ว คุณอาจแสดงแบรนด์ของคุณต่อหน้าพวกเขาเพื่อโปรโมตธุรกิจของคุณได้เร็วขึ้น ในยุคเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นใช้อินเทอร์เน็ตในการจับจ่ายใช้สอย เข้าสังคม และค้นหามากกว่าที่เคยเป็นมาการใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการเข้าถึงผู้ชมในปัจจุบัน และช่วยให้คุณสามารถสร้างการรับรู้ที่จำเป็นในการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ออนไลน์ที่ยั่งยืน
เทรนด์การตลาด ปี 2023 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

1. เทรนด์การตลาด : การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์
สำหรับธุรกิจใดๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญ คือ ต้องเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพในการบรรลุเป้าหมายนั้น แบรนด์ที่เป็นของจริงและมีเรื่องราวที่ดีเกี่ยวกับที่มาของแบรนด์มักจะเป็นที่จดจำและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ดังนั้น หากคุณต้องการให้ผู้ที่ได้ยินเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณเป็นครั้งแรกจดจำคุณได้ ให้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณให้พวกเขาฟัง ซึ่งอาจรวมถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผู้ก่อตั้งและประวัติของแบรนด์ โดยการใช้วิดีโอและรูปภาพในการเล่าเรื่องให้โดดเด่นและน่าจดจำ
2. เทรนด์การตลาด : ก้าวให้ทันยุค Meta
3. เทรนด์การตลาด : สร้างชุมชนสำหรับผู้ชมของคุณ
4. เทรนด์การตลาด : สร้างเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับ SEO
ในยุคดิจิทัลท่ามกลางความก้าวหน้าของโลกอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ธุรกิจใหม่ต้องการ คือเว็บไซต์ที่ผู้คนสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจของคุณและซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้ หากคุณสร้างเว็บไซต์ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับทั้งเครื่องมือค้นหาและคอนเวอร์ชั่น (Conversion) แสดงว่าคุณได้ก้าวข้ามอุปสรรคแรกไปแล้ว การได้รับการเข้าชมแบบออร์แกนิกมายังเว็บไซต์ของคุณควรมีความสำคัญเป็นอันดับแรกก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุนในกลยุทธ์ทางการตลาดอื่นๆ ซึ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรพิจารณา
- สร้างเนื้อหาคุณภาพดีในหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสในช่องทางของคุณ
- ทำวิจัยคำหลักอย่างละเอียดก่อนที่จะสร้างเนื้อหาเว็บไซต์
- รวมคำหลักของคุณเข้ากับหน้า Landing Page อาทิ ชื่อเรื่อง (Title) คำอธิบายเมตา (Meta Description) ฯลฯ ทั้งหมดของเว็บไซต์
- ใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อให้อันดับ SERP ดีขึ้นสำหรับหน้าเว็บไซต์ของคุณ และทำให้รายชื่อ SERP ของคุณแตกต่างจากที่อื่น
- ให้ความสำคัญกับ SEO ในท้องถิ่น (Local SEO) รวมถึงการใช้คำหลักแบบยาว (Long Tail Keywords)
นอกจากนี้ อย่าละเลย เทคนิค SEO อื่นๆ เช่น ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ และการออกแบบเว็บไซต์ หรือ UX / UI นอกจากนี้ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างในการสร้างเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับ SEO แต่เคล็ดลับข้างต้นเหล่านี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นในเส้นทางที่ถูกต้องได้
5. เทรนด์การตลาด : การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ด้วยการมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจะช่วยให้คุณได้เปรียบและทำให้ความคิดริเริ่มในการคิดกลยุทธ์การตลาดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในฐานะธุรกิจขนาดเล็ก คุณไม่สามารถทำผิดพลาดได้และจำเป็นต้องทำสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก นั่นคือที่ซึ่งข้อมูลและการวิเคราะห์ที่แม่นยำสามารถช่วยคุณได้ และส่วนที่ดีที่สุดคือ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้น เพราะปัจจุบันมีตัวเลือกฟรีหรือราคาไม่แพงมากมายที่คุณสามารถใช้ได้ ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์โซเชียลมีเดียมีให้ใช้งานฟรี เนื่องจากแพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีเครื่องมือวิเคราะห์ในตัวที่สามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแก่คุณได้ ในทำนองเดียวกัน สำหรับเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถใช้ Google Analytics เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของหน้า Landing Page ต่างๆ ของคุณได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การลงทุน ได้แก่ เครื่องมือตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ (Social Listening Tools) เนื่องจาก Martech เหล่านี้ จะช่วยให้คุณติดตามการสนทนาที่เกี่ยวข้องและตอบกลับผู้คนเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากการตอบคำถามของลูกค้าและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากๆ ในแบรนด์ที่มั่นคงอาจยังคงอยู่ได้อย่างหายห่วงหากมีคำวิจารณ์เชิงลบเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กแน่นอนว่าอาจเกิดกรณีที่เป็นปัญหาใหญ่ต่อแบรนด์ของคุณได้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะลองใช้กลวิธีทางการตลาดประเภทใด อย่าลืมติดตามและวัดผลเมตริกประสิทธิภาพสำหรับกลยุทธ์นั้น ๆ และทำการวิจัยก่อนที่จะนำไปใช้จริงเสมอ
6. เทรนด์การตลาด : การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์
7. เทรนด์การตลาด : ใช้ประโยชน์จากการตลาดโซเชียลมีเดีย
ในฐานะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หนึ่งในรูปแบบการตลาดที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถลงทุนได้คือ การตลาดบนโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) หากคุณยินดีลงทุนเวลาและความพยายาม คุณสามารถลงมือทำได้เองโดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และเมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณสามารถเริ่มใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการตลาดบนโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อจัดการบัญชีของคุณได้ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการตลาดโซเชียลมีเดียที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
- เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมซึ่งลูกค้าเป้าหมายของคุณใช้งานอยู่
- ค้นหาเสียงของแบรนด์ของคุณและยึดมั่นในสิ่งนั้น
- หมั่นโพสต์เนื้อหาโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ
- ใช้ภาพที่มีคุณภาพสูงและสะดุดตาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม
- เพิ่มลิงค์เว็บไซต์ของคุณในประวัติโซเชียลมีเดียของคุณ
- ใช้กลยุทธ์ที่กระตุ้นการเข้าชมโซเชียลมีเดียมายังเว็บไซต์ของคุณ
- ใช้แฮชแท็กที่เป็นที่นิยมและมีความเกี่ยวข้องเพื่อเข้าถึงผู้คนจำนวนมากขึ้น
- สร้างแฮชแท็กแบรนด์ของคุณเองเพื่อติดตามแคมเปญของคุณ
อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่นำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์การตลาดโซเชียลมีเดียที่สร้างความได้เปรียบให้แก่ธุรกิจของคุณ ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงเคล็ดลับในการเริ่มต้น เมื่อคุณเชี่ยวชาญสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้ว คุณควรเจาะลึกเพิ่มทักษะตัวเองและลองใช้กลยุทธ์การตลาดโซเชียลมีเดียขั้นสูงต่อไป
วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือต้องจับตาดูบริการ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือล่าสุด ในโลกของการตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งต่อไปนี้ คือ แนวทางของการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2023 เพื่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจขนาดเล็กของคุณครับ
1. สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และทำให้ Google ชอบ
เหตุใด Google จึงต้องการเนื้อหาที่เป็นประโยชน์? ยุคสมัยของการเขียนเนื้อหาที่เต็มไปด้วยคำสำคัญด้วยความหวังว่าจะมีอันดับสูงบนหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาสิ้นสุดลง ในเดือนสิงหาคม 2022 Google ได้เปิดตัวการอัปเดตเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นสิ่งนี้หมายความว่าสำหรับเนื้อหาการตลาดของคุณในปี 2023 การเปลี่ยนแปลงล่าสุดของ Google ระบุว่าผู้เผยแพร่ที่สร้าง “เนื้อหาที่เป็นประโยชน์และเป็นต้นฉบับมากขึ้นซึ่งเขียนโดยผู้คน เพื่อผู้คน” จะทำงานได้ดีขึ้นในผลการค้นหา
สำหรับเนื้อหาที่เป็นประโยชน์นั้น สิ่งที่คุณควรทำ คือ การสร้างเนื้อหาที่แสดงความเข้าใจในเรื่องราวและรวมถึงประสบการณ์ตรงหากเป็นไปได้ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่อ่านบทความของคุณได้รับสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาตั้งแต่แรก พิจารณาว่าเนื้อหาที่คุณผลิตจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ชมเป้าหมายของคุณหรือไม่หากพวกเขามาที่เว็บไซต์ของคุณโดยตรง
สิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง คือ การทำซ้ำเนื้อหาที่มีอยู่แล้วโดยไม่ได้เพิ่มมูลค่าหรือความเชี่ยวชาญใดๆ หรือเขียนเกี่ยวกับหัวข้อยอดนิยมที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของคุณ นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับ เทรนด์ SEO อีกอย่างสำหรับปี 2023 ก็ คือการกำหนดเป้าหมายคำหลักที่มีปริมาณการค้นหา (Search Volume) น้อยหรือเป็นศูนย์ ซึ่งแนวคิด คือ การจัดอันดับหัวข้อหรือคำหลักก่อนใคร หรือก่อนที่คำค้นหานั้นจะได้รับความนิยมสูงได้ในอนาคต แม้ว่าธุรกิจอื่นๆ หรือคู่แข่งของคุณไม่สนใจคำหลักที่มีปริมาณการค้นหาเป็นศูนย์เพราะคิดว่าไม่มีใครค้นหาคำนั้น แต่ธุรกิจในตลาดบางประเภทที่มีการอิ่มตัวอาจสามารถกำหนดเป้าหมายคำหลักเหล่านี้ได้อย่างน่าตื่นเต้นและอาจยึดหัวหาดครองพื้นที่การค้นหาได้โดยไม่ต้องมีการแข่งขันสูงอย่างง่ายดายเนื่องจากการแข่งขันที่น้อยลง
2. จัดลำดับความสำคัญส่วนบุคคล
ในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่าน การตลาดเฉพาะบุคคลจะช่วยให้คุณโดดเด่นจากคู่แข่งได้เสมอ นักการตลาดแถวหน้าที่มีความรอบรู้กำลังยกระดับการปรับเปลี่ยนการตลาดเฉพาะบุคคลหรือเฉพาะกลุ่มไปอีกระดับ ซึ่งอาจรวมถึงเนื้อหาที่คัดสรรตามความสนใจของใครบางคน บัตรกำนัลส่วนบุคคลและรหัสส่วนลดตามคำสั่งซื้อก่อนหน้าและกิจกรรมการท่องเว็บ การสื่อสารที่ส่งในเวลาที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้ามักจะโต้ตอบกับแบรนด์ของคุณเมื่อใด ผู้บริโภคโดยเฉลี่ยมีเวลาน้อยและได้รับเนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดจำนวนมากในแต่ละวัน นั่นคือเหตุผลที่ยิ่งคุณนำเสนอเนื้อหาที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นเท่าใด โอกาสที่แบรนด์ของคุณจะถูกรับรู้ในเชิงบวกก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เป็นส่วนตัวต้องใช้เวลาและการลงทุน คุณจะต้องค้นหาแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าที่สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าของคุณเพื่อให้คุณนำมาใช้ในแคมเปญส่วนบุคคลได้
3. เทรนด์การตลาด : Tiktok แพลตฟอร์มที่มองข้ามไม่ได้อีกต่อไป
แม้การแชร์เนื้อหาบน TikTok นั้นค่อนข้างใหม่สำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ แต่ในปี 2566 มันจะกลายเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถมองข้ามหรือหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป แน่นอนว่าในปีหน้าเทรนด์ของ Tiktok จะเติบโตมากยิ่งขึ้นกว่าปีนี้ ว่าแต่คุณจะถูกสังเกตบน TikTok ได้อย่างไร? เพราะการโพสต์เนื้อหาบน TikTok นั้นเป็นประเด็นหนึ่ง แต่การทำให้ผู้ชมเห็นเนื้อหานั้นอาจเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ยากกว่า หากพิจารณาในเชิงลึก สิ่งสำคัญ 3 ประการที่ควรคำนึงถึงเมื่อใช้ TikTok เพื่อโปรโมตธุรกิจขนาดเล็กของคุณควรมีดังนี้
- จัดลำดับความสำคัญของการมีส่วนร่วม – ลองนึกถึงวิธีที่คุณสามารถกระตุ้นให้ผู้คนเล่นซ้ำ ติดตาม หรือแสดงความคิดเห็น เนื่องจากโพสต์ของ TikTok ที่มีการมีส่วนร่วมมากกว่าจะมีอันดับที่ดีขึ้น
- ใส่เวลาลงในชื่อเรื่องและแฮชแท็ก – แพลตฟอร์มนี้จะแสดงวิดีโอของผู้คนตามความสนใจของพวกเขา ดังนั้นชื่อและแท็กที่ตรงเป้าหมายจึงสามารถแสดงโพสต์ของคุณต่อผู้คนที่เหมาะสมได้
- ฉลาดในเรื่องเสียง – วิดีโอยอดนิยมจำนวนมากของ TikTok มาจากเพลงและคลิปเสียง คุณจะใช้สิ่งเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร?
4. เทรนด์การตลาด : พิจารณากลยุทธ์การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์
การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์ ไม่ว่าจะบนโซเชียลมีเดียหรือผ่านโพสต์บล็อกของผู้เยี่ยมชม สามารถช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณปรากฏต่อผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ หากคุณกำลังคิดที่จะทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ในปี 2023 นี่คือสิ่งที่คุณควรพิจารณา
- ใช้เครื่องมือเพื่อระบุผู้มีอิทธิพล – แพลตฟอร์ม เช่น Sprout Social และ Creator IQ สามารถช่วยคุณวิเคราะห์แนวโน้มปัจจุบันของการตลาดดิจิทัลและช่วยเลือกผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องได้
- ลิงก์การตลาดแบบพันธมิตร – ช่วยให้คุณติดตามกิจกรรมของผู้มีอิทธิพลและเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับพวกเขาในการโปรโมตผลิตภัณฑ์ของคุณ
- ทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์เฉพาะกลุ่ม – อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามเฉพาะกลุ่มจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น ที่สำคัญงบประมาณในการว่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์ประเภทนี้อาจไม่สูงเท่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก
5. พิจารณาเนื้อหาวิดีโอแบบแนวตั้งทุกแพลตฟอร์ม
ตอกย้ำความสำคัญของแพลตฟอร์มอย่าง Tiktok ในข้างต้นที่เราได้กล่าวไป เนื้อหาวิดีโอแนวตั้งยังคงทรงคุณค่าและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการที่ Facebook และ Instagram ใช้ Reels เพื่อแข่งขันกับ TikTok อย่างดุเดือด วิดีโอสั้นแนวตั้งจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตลาดดิจิทัลอย่างที่ไม่ต้องมีคำอธิบาย วิดีโอเหล่านี้สร้างได้ในราคาถูกและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในหลายแพลตฟอร์ม โดยมีการตัดต่อเพียงเล็กน้อย วิดีโอแนวตั้งแบบสั้นช่วยทำให้แบรนด์ดูมีชีวิตชีวา ทำให้คุณสามารถแชร์เนื้อหาที่สร้างโดยอินฟลูเอนเซอร์ เช่นเดียวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์และฟุตเทจโดยตรงจากทีมของคุณ ในปี 2022 เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ใช้ Instagram ที่ต้องการให้ผู้คนเห็นโพสต์มากขึ้นจำเป็นต้องสร้างคลิป Reels และเมื่อผู้คนคุ้นเคยกับการดูเนื้อหาในลักษณะนี้ ความสำคัญของรูปแบบวิดีโอนี้น่าจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกในปี 2023 และปีต่อๆ ไป
6. สร้างและโปรโมตวิดีโอเกี่ยวกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์
กลวิธีนี้แม้จะใช้ได้กับทุกธุรกิจ แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเผยแพร่การรับรู้ถึงแบรนด์และผลิตภัณฑ์ แม้แต่ธุรกิจที่ดีที่สุดที่มีผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งก็ยังดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสนี้ กลยุทธ์นี้ช่วยทำให้ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของพวกเขา หากคุณเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ การทำให้ผู้คนเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ คืออะไรและจะมีส่วนช่วยพวกเขาได้อย่างไรก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก นี่คือโอกาสดีที่วิดีโอสาธิตเกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์จะเปล่งประกาย
วิดีโอเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของคุณทำหน้าที่อะไรและจะนำไปใช้ในลักษณะต่างๆ ได้อย่างไร สิ่งนี้จะขจัดอุปสรรค์เริ่มต้นที่ธุรกิจส่วนใหญ่ล้มเหลวในการทำให้ลูกค้าเป้าหมายเข้าใจถึงคุณค่าที่พวกเขามอบให้ ยกตัวอย่างวิดีโออธิบายของ Panasonic สำหรับเครื่องโกนหนวด ES-SL33 ผลิตภัณฑ์นี้เป็นนวัตกรรมใหม่และมีข้อดีหลายประการเหนือมีดโกนทั่วไป อย่างไรก็ตาม แบรนด์จะไม่สามารถสื่อได้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาแตกต่างจากมีดโกนอื่นๆ ในตลาดอย่างไร หากพวกเขาไม่ได้ใช้การอธิบายด้วยคลิปวิดีโอ
7. ใช้กลยุทธ์ Live Streaming
คุณเคยลองใช้สตรีมมิงแบบสดสำหรับธุรกิจของคุณหรือไม่? เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ การสตรีมสดอาจกลายเป็นบริการการตลาดดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในปี 2566 ซึ่งประโยชน์ของการสตรีมสดยังรวมถึง
- การสร้างโอกาสโต้ตอบโดยตรงกับผู้ชมของคุณ
- สร้างความคาดหวังและสร้างความฮือฮาให้กับสตรีมของคุณ
- การสตรีมบนเว็บไซต์เช่น Facebook และ YouTube ทำได้ฟรี!
นอกจากนี้ กระแสการชอปปิ้งแบบสตรีมสดยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่นเดียวกับช่องชอปปิ้งทางทีวี ซึ่งนี่คือช่วงเวลาที่อินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์แอมบาสเดอร์ทำการโปรโมตผลิตภัณฑ์ระหว่างการสตรีมแบบสดที่ผู้ชมสามารถซื้อตัดสินใจได้ทันที และนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องจับตามองแบบไม่กระพริบตา
8. ใส่ใจในความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม
เนื่องจากมันเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ สำหรับผู้บริโภคในยุคนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นว่าพวกเขาซื้อจากใครและซื้ออะไร? จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ Green Marketing ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน สำหรับธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก นี่เป็นโอกาสในการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของคุณในการตลาดของคุณ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจของคุณอาจใช้วัสดุรีไซเคิล จำกัดการบรรจุหีบห่อ หรือส่งเสริมการมีอายุที่ยืนยาวเพื่อลดสิ่งของที่ถูกโยนทิ้งเป็นขยะ หรือคุณสามารถมอบผลกำไรบางส่วนให้กับองค์กรการกุศลหรืออาสาสมัครในชุมชนท้องถิ่น ไม่มีเหตุผลใดที่สิทธิประโยชน์เหล่านี้จะไม่มีในแคมเปญการตลาดของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ ‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบฉาบฉวย” เพราะคุณอาจกลายเป็นแบรนด์ฟอกเขียวในสายตาของผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมได้
9. ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น
ทุกวันนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ต้องต่อสู้เพื่อให้แบรนด์ของตนปรากฏบนออนไลน์ และการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความสนใจของผู้ชมก็เป็นไปอย่างดุเดือด ด้วยเหตุนี้ ผู้ซื้อจึงมีตัวเลือกได้มากขึ้นเกี่ยวกับแบรนด์ที่พวกเขาโต้ตอบด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม GenZ ที่ไม่แน่นอน และไม่ใช่แค่ผู้บริโภคเท่านั้นที่หลงใหลในเนื้อหาที่แท้จริง ซึ่ง 60% ของนักการตลาดยอมรับว่าความถูกต้องและคุณภาพเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเท่าเทียมกับเนื้อหาที่ประสบความสำเร็จและไม่มีเนื้อหาประเภทใดที่จะเป็นของจริงได้มากไปกว่าเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น อย่างไรก็ตามคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่า UGC ของคุณมาจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจากสามกลุ่มนี้ ได้แก่ ลูกค้า ผู้ภักดีต่อแบรนด์ หรือพนักงานของคุณ
เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC) สามารถเป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าที่จะช่วยคุณสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าของคุณ โดยสามารถนำมาใช้ได้ในทุกขั้นตอนของเส้นทางของผู้ซื้อ (Customer Journey) เพื่อช่วยโน้มน้าวการมีส่วนร่วมและเพิ่มคอนเวอร์ชั่น เนื้อหาที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางสามารถใช้บนโซเชียลมีเดียและช่องทางอื่นๆ เช่น อีเมล แลนดิ้งเพจ หรือหน้าชำระเงิน
ซึ่ง UGC สำหรับการตลาดสามารถมีได้หลายรูปแบบ ได้แก่
- แขกรับเชิญในงานอีเวนต์หรือสตรีมสด
- ความเห็นในบล็อกหรือบทความจดหมายข่าว
- การถ่ายทำหรือเขียนรีวิว
- การแกะกล่องสินค้า
- เคสกรณีศึกษาแบบยาว
แหล่งที่มา :
https://www.olympiabenefits.com
https://influencermarketinghub.com