Metaverse คือ อะไร? มันคือสิ่งที่แปลเป็นไทยได้ว่า “จักรวาลนฤมิต” ซึ่งนาทีเป็นประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดจากการที่แบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลก ต่างประกาศวิสัยทัศน์ว่าพร้อมที่จะปรับตัวเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สกันอย่างเปิดเผย เนื่องจากมันเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่หากใครลงมือทำก่อนย่อมได้เปรียบ แม้เคยมีการพูดถึงเมตาเวิร์สกันมาเนิ่นนานแล้วในอดีต แต่ภาพที่ชัดเจนในแบบที่จับต้องได้ เพิ่งเริ่มเกิดขึ้นในยุคของ Digital Transformation ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
หนึ่งในนั้น คือ การรีแบรนด์ครั้งสำคัญ ของยักษ์ใหญ่แห่งวงการโซเชียลมีเดียอย่าง “Facebook” ที่ประกาศเปลี่ยนชื่อเดิมที่ใช้สร้างชื่อเสียงและกำไรมหาศาลมายาวนานหลายสิบปี เป็น “Meta” ด้วยแนวคิดของ Mark Zuckerberg CEO คนสำคัญที่ต้องการผลักดัน โลก Metaverse ที่เขาเชื่อว่าจะเป็นโลกแห่งอนาคตที่ผู้คนจะผสานโลกเสมือนและโลกแห่งความจริงเข้าไว้ด้วยกันมากขึ้นในหลายๆ กิจกรรม
Metaverse คือ อะไร?
Metaverse คืออะไร?
หากย้อนเวลากลับไปในปี 1992 คำว่า Metaverse คือ สิ่งที่ถูกกล่าวถึงมาแล้วในนวนิยายแนวไซเบอร์พังค์ เรื่อง “Snow Crash” ผลงานของ Neal Stephenson นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันที่ผันตัวเองมาเป็นนักเขียน หลังจากผ่านมา 30 ปี ปัจจุบัน Metaverse ได้เข้ามาสู่ชีวิตจริงของผู้คนไม่ใช่เพียงนิยายอีกต่อไป เพราะมันคือสิ่งที่ใช้เรียกเทคโนโลยีที่โลกเสมือน (Virtual World) กับโลกแห่งความจริง (Real World) ถูกผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบเนียน เป็นเทคโนโลยีที่นำองค์ประกอบทางเทคโนโลยีของ Virtual Reality และ Augmented Reality รวมไว้ด้วยกัน ส่งผลให้ผู้คนสามารถทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ชอปปิ้ง ท่องเที่ยว พบปะพูดคุย สังสรรค์ บันเทิง กันได้ในโลกเสมือน โดยมี Avatar เป็นตัวแทนในนั้น กล่าวคือเป็นพื้นที่ในโลกของดิจิทัลที่ผู้คนในโลกเสมือนนี้สามารถเคลื่อนย้ายไปมาในพื้นที่นี้ได้อย่างง่ายดาย เหมือนเป็นส่วนขยายในแบบ 3 มิติ ของโลกโซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน
Metaverse เป็นพื้นที่ 3D ออนไลน์ ที่ใช้ร่วมกันซึ่งผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันและกับวัตถุและอวาตาร์ที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นโลกเสมือนจริงที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายพื้นฐาน Metaverses ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ รวมถึงเครือข่ายสังคม เกมออนไลน์ การศึกษา และการฝึกอบรม สามารถใช้เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงที่สะท้อนโลกแห่งความเป็นจริงหรือสามารถใช้เพื่อสร้างโลกใหม่และจินตนาการได้ทั้งหมดทั้งมวลพวกเขานำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าดื่มด่ำที่แตกต่างไปบนอินเทอร์เน็ต เมตาเวิร์สกำลังพัฒนาและขยายอย่างต่อเนื่องและนำเสนอความเป็นไปได้ไม่รู้จบสำหรับการสำรวจและการโต้ตอบ
หากคุณติดตามเกมออนไลน์ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา หนึ่งในเกมที่สามารถอธิบายคำว่า Metaverse ที่เรารู้จักในปัจจุบันได้ดีที่สุดคือเกม Second Life ซึ่งเปิดตัวในปี 2546 เกมนี้คล้ายกับเกมเล่นตามบทบาท และเติมเต็มบทบาทต่างๆ ที่กำหนดไว้สำหรับอนาคตที่ซึ่งผู้ใช้มีตัวตน และอวาตาร์สามารถโต้ตอบและออกไปเที่ยวกันเองในโลกเสมือนจริง พื้นที่เสมือนจริงเหล่านี้ช่วยให้เราเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น การเข้าร่วมกลุ่มและการประชุมทางธุรกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย อีกตัวอย่างหนึ่งของ metaverse เวอร์ชันแรกๆ ที่มีอยู่คือ PlayStation Home ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 แต่น่าเสียดายที่มันปิดตัวลงในปี 2015 แม้ว่าจะไม่ได้หายไปไหน แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจว่าเวอร์ชันสำหรับองค์กรของ Metaverse จะเป็นอย่างไร
Metaverse กับการปฏิวัติวงการ Digital Marketing
Metaverse คือ เทคโนโลยีที่กำลังปฏิวัติวงการ Digital Merketing
เมื่อเทคโนโลยีใหม่นี้เดินทางมาถึง แน่นอนว่าโลกที่เราคุ้นเคยโดยเฉพาะในโลกของธุรกิจ อาจต้องปรับเปลี่ยนหรือปรับตัวให้ทันตามกระแส Digital Transformation เพราะอย่างที่รู้กันว่าโลกดิจิทัลนั้นเต็มไปด้วยความผันผวน ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอดขององค์กรและธุรกิจต่างๆ และที่สำคัญ การกำเนิดของเทคโนโลยีใหม่ย่อมส่งผลกระทบต่อ เทรนด์ของ Digital Marketing อย่างแน่นอน ซึ่งต่อไปนี้ คือ สิ่งที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ช้าก็เร็วในอนาคตอันใกล้นี้ หรือ อาจเริ่มมีการปรับตัวแล้วในบางธุรกิจ ซึ่ง Digital Marketer ทั้งหลายควรจับตามอง
1. Metaverse คือ การสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในโลกโซเชียลมีเดีย
ต่อจากนี้โซเชียลมีเดียจะเฟื่องฟูอย่างไม่รู้จบในจักรวาลนฤมิตนี้ ผู้คนจะมีปฏิสัมพันธ์อย่างกว้างขวางกับเครือข่าย การชอปปิ้ง และธุรกิจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้โซเชียลมีเดียสามารถก้าวไปไกลกว่า เว็บ 2.0 ที่ซึ่งการตลาดเดิมๆ ถูกนำเสนอในรูปแบบพื้นฐาน ด้วยภาพและการโต้ตอบทางหน้าจอ
2. Metaverse มิติใหม่ของผลิตภัณฑ์และบริการ
ด้วยโลกที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น ผลิตภัณฑ์และบริการเสมือนจริงจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ช่วยให้นักการตลาดสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์แก่กลุ่มเป้าหมาย ที่แม้ผลิตภัณฑ์จะไม่ใช่ของจริงที่ผู้คนสามารถสัมผัสทางกายภาพได้ แต่ก็สามารถให้คุณค่าแก่ผู้ที่ต้องการได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในจักรวาลดิจิทัลได้อย่างสมจริงและเมื่อผลิตภัณฑ์ทางการตลาดในโลกแห่งความเป็นจริงสามารถปรับให้เข้ากับผู้คนในดิจิทัลได้ ก็จะเป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการเสมือนจริงในการดึงดูดกลุ่มคนใหม่ๆ และกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนได้ในที่สุด
3. Metaverse คือ สิ่งที่จะพัฒนาแนวคิดด้าน Gamification
สิ่งที่สำคัญของการตลาดที่ประสบความสำเร็จ คือ ความสามารถในการสร้างการโต้ตอบที่น่าจดจำกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเทคโนโลยีนี้ คือ โอกาสในการเชื่อมต่อการตลาดด้วยคุณลักษณะเช่นเกมหรือที่เรียกว่า Gamification ทำให้องค์ประกอบแบบเกมได้เข้ามามีส่วนร่วมกับผู้ใช้ในการโปรโมตแบรนด์ ตัวอย่างที่อธิบายได้ชัดเจนของสิ่งนี้ คือ บริษัทจำหน่ายรถยนต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ลองสัมผัสกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ราวกับได้เปิดประตูเข้าไปชมภายในหรือยลโฉมภายนอกตัวรถได้อย่างสมจริง
4. Metaverse คือโอกาสใหม่ของการตลาดออนไลน์
Metaverse จะกลายเป็นสินทรัพย์สำหรับนักการตลาด เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถกลายเป็นโอกาสและช่องทางใหม่ในการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจะเป็นประโยชน์ต่อการทำการตลาดของแบรนด์ ที่การรักษากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เอาไว้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ในโอกาสของเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้นักการตลาดออนไลน์สามารถปรับแต่งโฆษณา และส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่านักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมในอนาคต
5. Metaverse เปิดโลกความคิดสร้างสรรค์ในโลกดิจิทัล
ความคิดสร้างสรรค์ทางดิจิทัลเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่สามารถเติบโตอย่างไม่รู้จบในโลก Metaverse ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างลักษณะเฉพาะเพื่อให้เหมาะสมกับสถานะเสมือนจริงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการโต้ตอบ การเข้าถึงโซเชียลมีเดีย หรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล มันคือ “สวนสนุกดิจิทัลชนิดหนึ่งสำหรับศตวรรษที่ 21″ และเป็นการเปิดโอกาสให้ความคิดสร้างสรรค์และการค้าที่จะไม่ธรรมดาอีกต่อไป
6. Metaverse ขยายตัวไม่มีที่สิ้นสุด
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่นักการตลาดควรให้ความสนใจกับเมตาเวิร์ส คือ ความสามารถในการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งหน่วยข่าวกรองของ Bloomberg ได้ประเมินว่า Metaverse อาจเป็นอุตสาหกรรมมูลค่า 800 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2567 และจะสามารถดึงดูดกลุ่มบุคคลและบริษัท (บริษัทเกมเป็นหลัก) ตลอดจนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำนวนมาก
7. Metaverse สร้างผลกระทบต่อการตลาดแบบเรียลไทม์
การตลาดใน Metaverse จะถูกซิงโครไนซ์แบบเรียลไทม์ ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับโฆษณาหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัลตามความสนใจของตัวเอง เหตุที่ Metaverse เป็นเสมือนหนทางของโอกาสเพราะมันสามารถสร้างช่วงเวลาและประสบการณ์ที่น่าจดจำและน่าประทับใจสำหรับบุคคลที่ได้สัมผัสกับการโปรโมตแบรนด์ด้วยวิธีอันทรงพลัง ด้วยแนวทางอันน่าตื่นเต้นที่เข้ามาลดข้อจำกัดด้านกายภาพของโลกแบบ 2 มิติ
8. การเติบโตของ Virtual Influencer
การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ หรือ Influencer Marketing ยังเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงของการตลาดดิจิทัล ซึ่ง Metaverse จะทำให้เกิดแผนการตลาดแบบใหม่ที่เรียกว่า Metafluencer หรือ Virtual Influencer ซึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด และการตัดสินใจในโลกเมตาเวิร์ส เป็นอวาตาร์เสมือนจริงที่อ้างอิงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเพื่อสร้าง ‘ไอดอล” ของผู้คน จุดมุ่งหมาย คือ เพื่อเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ ตัวอย่างแบรนด์ใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ ที่เริ่มใช้การตลาดแนวนี้แล้ว ได้แก่ Gucci, Prada Nike และ Balenciaga โดยมีการนำเสนอ Virtual Influencer ที่สวมใส่เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น
นักการตลาดจะใช้ประโยชน์จาก Metaverse ได้อย่างไร?
Metaverse คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
1. สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์
2. มอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ
3. โลกการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยเกม
4. สร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล
5. พัฒนาแหล่งรายได้ใหม่
สรุป ทิศทางและแน้วโน้มของ Metaverse
แม้กระแสของ Metaverse ในบ้านเราอาจยังไม่ชัดเจนหรือแพร่หลายมากนัก แต่เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยีนี้จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และแผ่ขยายไปในหลายวงการ ด้วยโอกาสของเมตาเวิร์สยังสามารถพัฒนาไปได้อีกกว้างไกล สอดคล้องกับมุมมองของ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลกได้คาดการณ์เอาไว้ว่า ภายในปี 2026 ผู้คนมากกว่า 26% ทั่วโลก จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน บน Metaverse ไปกับกิจกรรมต่างๆ ทั้ง ความบันเทิง ชอปปิ้ง การศึกษาอบรม หรือการติดต่อสื่อสารเหมือนเป็นหนึ่งในโซเชียลมีเดียที่สำคัญ
แหล่งที่มา :