การตลาดดิจิทัล สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการหรือมีธุรกิจขนาดเล็กบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่กำลังมองหาโอกาสในสร้างการเติบโต ณ ชั่วโมงนี้ กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพคือสิ่งที่คุณต้องพิจารณานำมาใช้อย่างรอบคอบ เพื่อโอกาสในการขยายธุรกิจของคุณ วันนี้ Talka จะมาแบ่งปัน 7 กลยุทธ์ การตลาดดิจิทัล ที่มีประสิทธิภาพ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันทีหลังอ่านจบครับ
ทำไม การตลาดดิจิทัล ถึงสำคัญต่อธุรกิจขนาดเล็ก
เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทำการเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ก่อนการชอปปิ้งหรือตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลาย แน่นอนว่าพวกเขามักจะเริ่มต้นด้วยการค้าหาธุรกิจที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดนอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐานต่างๆ เช่น เวลาทำการ สถานที่ ราคา ข้อเสนอพิเศษ และข้อมูลติดต่อที่ควรเป็นสิ่งที่เสิร์ชหาได้ง่าย หากลูกค้าพบว่าร้านค้าออนไลน์ของคุณเปิดปิดตามความสะดวกไม่มีความแน่นอนและไม่เป็นมืออาชีพ พวกเขาจะจากไปหาร้านอื่นๆ ที่มีให้เลือกอีกมากมายได้อย่างง่ายดาย
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจว่าการตลาดออนไลน์ที่ดีไม่ควรมีลักษณะการทำธุรกิจแบบเชิงรับ มันไม่ใช่แค่การรักษาผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเอาไว้หรือทำให้พวกเขาอยู่ห่างจากคู่แข่งเท่านั้น แต่มันควรเป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่ธุรกิจต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าแบรนด์และธุรกิจของคุณให้ความสำคัญและใส่ใจพวกเขาเสมอในฐานะที่พวกเขาเลือกที่จะเข้ามาสัมผัสกับเส้นทางการซื้อ (Customer Journey) ที่ดำเนินการโดยคุณ กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพควรเริ่มต้นด้วยการทำให้การเดินทางของลูกค้านั้นง่าย สะดวกและเป็นมิตรที่สุด
การตลาดดิจิทัล เปลี่ยนแปลงและพัฒนาตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่โรคระบาดโจมตีคนทั่วโลก วิถีชีวิตในด้านต่างๆ ของชาวโลกได้ถูกกระตุ้นให้กลายเป็นดิจิทัลมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งการตลาดดิจิทัลได้แสดงให้เราเห็นว่ามันสามารถพัฒนาได้รวดเร็วแค่ไหน แต่แม้มีโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ หลายอย่างเกิดขึ้น ก็อาจเป็นไปไม่ได้ที่เราจะนำกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งหมดมาใช้กับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ ด้วยงบประมาณและทรัพยากรที่จำกัดของธุรกิจขนาดเล็ก อาจทำให้คุณไม่ได้ทดลองเทรนด์การตลาดใหม่ๆ บางอย่าง อย่างไรก็ตามยังมีกลยุทธ์ทางการตลาดมากมายที่ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากมายที่คุณสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างแบรนด์ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ธุรกิจขนาดเล็กของคุณเติบโตได้
การตลาดดิจิทัลมีข้อได้เปรียบมากมายเหนือวิธีการโฆษณาแบบเดิมๆ เช่น โฆษณาสิ่งพิมพ์ และไดเร็คเมล์ บิลบอร์ด ทีวีหรือวิทยุ การตลาดดิจิทัลช่วยให้แบรนด์ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรของตน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ลูกค้าสื่อสารกับแบรนด์ได้ตามเงื่อนไข ซึ่งอย่างน้อยที่สุด การตลาดดิจิทัลช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ แม้ว่าคุณจะปิดร้านในตอนกลางคืนแล้วก็ตาม ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกหรือช่องในการสอบถามข้อสงสัยต่างๆ เมื่อใดก็ได้ แทนที่จะบังคับให้ลูกค้าต้องโทรสอบถามเฉพาะในช่วงเวลาทำการ
ท้ายที่สุด การตลาดดิจิทัลย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างอำนาจและการรับรู้ถึงแบรนด์ ด้วยอินเทอร์เน็ตในโลกของ web2.0 หรือ web3.0 แบรนด์สามารถมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อเรียนรู้ว่าผู้บริโภคกำลังมองหาอะไร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงที่สร้างความไว้วางใจและความภักดีต่อแบรนด์ ประโยชน์ของมันมากกว่าการขาย เพราะมันเป็นการลงทุนระยะยาวในด้านสถานภาพและการเติบโตของธุรกิจของคุณ ซึ่งต่อไปเรามาดูประโยชน์ของการตลาดดิจิทัลที่จะช่วยอธิบายเหตุผลต่างๆ มากมายได้ว่า ทำไมการตลาดดิจิทัลถึงสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณครับ
1. การตลาดดิจิทัลมีพลังแห่งการเข้าถึง (Reach)
การตลาดดิจิทัลส่วนใหญ่มีราคาถูกกว่า แต่มีศักยภาพในการเข้าถึงมากกว่ากลยุทธ์แบบเดิมๆ โฆษณาดิจิทัลจึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่กังวลเกี่ยวกับค่าโฆษณาที่ขึ้นอยู่กับลูกค้าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ในขณะที่ความต้องการวิทยุและโทรทัศน์เริ่มลดน้อยลง การตลาดออนไลน์สามารถเข้าถึงใครก็ได้แบบทุกที่ทุกเวลาแม้แต่ในระดับสากล ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ หรืออย่างน้อยก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโลกออนไลน์ แบรนด์สามารถใช้การตลาดเนื้อหา การตลาดผ่านอีเมล การตลาดบนโซเชียลมีเดีย และช่องทางการตลาดดิจิทัลอื่นๆ เพื่อพบกับลูกค้าเหล่านั้นจากที่ที่พวกเขาอยู่
2. การตลาดดิจิทัลกำหนดเป้าหมายได้ (Targeting)
เครื่องมือและการวิเคราะห์ของการตลาดดิจิทัล สามารถช่วยให้แบรนด์ระบุและกำหนดเป้าหมายลูกค้าที่มีแนวโน้มว่าจะต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนมากที่สุด กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่แข็งแกร่งช่วยให้บริษัทต่างๆ ใช้งบประมาณและและทรัพยากรบุคคลของตนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในขณะเดียวกันก็ยังสามารถขับเคลื่อนผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากขึ้นได้
3. การตลาดดิจิทัลมีความยืดหยุ่น (Flexibility)
เครื่องมือวิเคราะห์การตลาดสมัยใหม่ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้ธุรกิจปรับแคมเปญการตลาดได้ทันที ในทางตรงกันข้าม วิธีการทางการตลาดแบบเดิมต้องการต้นทุนที่ลดลง: เงินถูกใช้ไปแล้ว และหากแคมเปญล้มเหลว ก็ไม่มีอะไรต้องทำจนกว่าจะถึงครั้งต่อไป แคมเปญดิจิทัลที่ผิดพลาดยังสามารถกู้คืนได้ และเงินที่ใช้ไปกับแคมเปญนั้นก็เช่นกัน
4. การตลาดดิจิทัล สามารถวัดผลได้ชัดเจน (Measurability)
ช่องทางการตลาดดิจิทัลต่างจากป้ายโฆษณา โฆษณาทางทีวี และวิทยุกระจายเสียง ช่องทางการตลาดดิจิทัลมาพร้อมกับเครื่องมือที่แบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้ในการวัดประสิทธิภาพ ทุกวันนี้ นักการตลาดต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลตลาดเพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล เป็นเรื่องง่ายที่จะดูว่ามีการสร้างการแสดงผล การคลิก และการถูกใจจำนวนเท่าใดจากโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือจำนวนผู้เยี่ยมชมที่มายังเว็บไซต์ของคุณและจากที่ใด การสร้างแบบจำลองการระบุแหล่งที่มาติดตามการขายครั้งแรกของลูกค้ากลับไปยังจุดเชื่อมต่อหรือจุดสัมผัสครั้งแรกกับแบรนด์ของคุณ เลือกเมตริกที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุดและเริ่มเรียนรู้ว่าแคมเปญการตลาดดิจิทัลของคุณส่งผลต่ออัตราการแปลง (Conversion) อย่างไร
5. การตลาดดิจิทัล มีความชอบธรรม (Legitimacy)
ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามีแนวโน้มที่จะไว้วางใจธุรกิจที่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ซึ่งรวมถึง การมีเว็บไซต์ ข้อความรับรอง บัญชีโซเชียลมีเดีย สถานะออนไลน์ที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ความไว้วางใจสามารถสร้างหรือทำลายข้อตกลงสำหรับผู้บริโภคที่กำลังพิจารณาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่นการร่วมมือกับ Influencer บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการปรับปรุงชื่อเสียงแบรนด์ของคุณให้น่าเชื่อถือและมีความชอบธรรม
6. การตลาดดิจิทัล คือโลกของความเท่าเทียม (Democratization)
การตลาดดิจิทัล (เมื่อทำถูกต้อง) จะสามารถยกระดับให้แก่ธุรกิจได้ทุกขนาด แม้องค์กรขนาดใหญ่ อาทิ Amazon, Walmart และร้านค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆ อาจมีงบประมาณเหลือเฟือในการทำการตลาด แต่ในบางกรณีเงินอาจไม่สามารถซื้อการมองเห็นบนเครื่องมือค้นหาได้เสมอไป วิธีเดียวที่จะไปที่ด้านบนสุดของหน้าผลลัพธ์ของ Google คือการสร้างความเกี่ยวข้องผ่านกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) และการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) เป็นต้น
ประโยชน์ของ การตลาดดิจิทัล สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
การตลาดดิจิทัลได้เปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจโดยสิ้นเชิง ได้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดของทุกธุรกิจแล้ว มันคือประโยชน์ของการตลาดดิจิทัลที่ให้โอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในการขยายสถานประกอบการและขยายการเข้าถึงสู่ตลาดโลก ดังนั้น หากคุณมีธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ Digital Marketing ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ต่อไป เราจะพูดถึงประโยชน์ของการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ หลายๆ คนอาจเกิดความสงสัยว่า การตลาดดิจิทัลมีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร และทำไมการตลาดดิจิทัลถึงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งประโยชน์เหล่านี้คือคำตอบของทุกคำถามของคุณครับ
1. การตลาดดิจิทัลเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น
วัตถุประสงค์หลักของธุรกิจใดๆ คือการบรรลุเป้าหมายทางการตลาดและวัตถุประสงค์ และเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และการตลาดดิจิทัลทำให้การเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณเป็นเรื่องง่ายผ่านโหมดออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจของคุณ หากคุณมีโอกาสใช้เงินและโฆษณาเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นลูกค้ามากที่สุด ก็เหมือนกับฝันที่เป็นจริง ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมและในเวลาที่เหมาะสม คุณสามารถทำสิ่งนั้นได้ด้วยการตลาดดิจิทัล
2. การตลาดดิจิทัลสร้างอัตราการแปลงสูง (High Conversion Rate)
อัตราการแปลงหมายถึงเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณที่ดำเนินการตามที่คุณต้องการ และการใช้การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณจะช่วยเพิ่มอัตราการแปลงของคุณ ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพอัตราการแปลง ธุรกิจขนาดเล็กของคุณจะเข้าถึงผู้เข้าชมจำนวนมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการจากจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์การจ่ายต่อคลิก (Pay per Click) จะช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เป็นวิธีการคิดค่าธรรมเนียมสำหรับการคลิกแต่ละครั้งที่โฆษณาของคุณได้รับ ดังนั้น คุณสามารถขยายธุรกิจขนาดเล็กของคุณผ่านกระบวนการนี้ และเพิ่มจำนวนลูกค้า โดยเพิ่มอัตราการแปลงของคุณ
3. การตลาดดิจิทัล ให้ ROI ที่สูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
ในฐานะธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ เป้าหมายหลักของคุณคือการทำตลาดผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุดและรับรายได้ที่สูงขึ้น องค์กรขนาดใหญ่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้นได้ ในขณะที่สตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดเล็กพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาต้นทุนให้ต่ำและเพิ่มผลกำไร การตลาดดิจิทัลช่วยองค์กรในการลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ และจะเห็นได้ว่าต้นทุนของการตลาดแบบเดิมนั้นค่อนข้างสูงกว่าการทำตลาดดิจิทัล
4. การตลาดดิจิทัล ช่วยให้ธุรกิจเล็กเอาชนะได้
บางครั้งไม่อาจปฏิเสธได้ว่าปัญหาหลักของธุรกิจขนาดเล็ก คือเรื่องของงบประมาณและเงินทุน พวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับแบรนด์และบริษัทขนาดใหญ่ได้เนื่องจากขาดเงินทุนและทรัพยากร แต่ถ้าคุณใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลอย่างชาญฉลาดผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างออกไป ความคิดสร้างสรรค์เป็นปัจจัยสำคัญในประเด็นนี้ เนื่องจากความคิดสร้างสรรค์เป็นปัจจัยสำคัญในอุตสาหกรรมการตลาดดิจิทัล หากคุณมีเนื้อหาที่เป็นนวัตกรรมสำหรับธุรกิจของคุณ หรือหากคุณมีความคิดสร้างสรรค์มากพอ คุณก็สามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมดิจิทัลนี้ได้ คุณสามารถแข่งขันกับธุรกิจทุกรูปแบบได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก และดึงดูดสายตาจากผู้ชมด้วยเช่นกัน
5. การตลาดดิจิทัลช่วยให้คุณปรับปรุง CRM ของคุณ
การสร้างความพึงพอใจของลูกค้าคือสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ แต่ความพึงพอใจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของคุณ ก่อนหน้านี้ การจัดการกับองค์ประกอบนี้อาจเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก เนื่องจากการขาดแหล่งข้อมูลและสื่อที่เอื้ออำนวย แต่ด้วยความก้าวหน้า และความช่วยเหลือของเทคโนโลยีการตลาด หรือ Martech บริษัททุกประเภทและทุกขนาด จะสามารถสร้าง CRM ของตนได้อย่างราบรื่น การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งของธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างความปรารถนาดีและความภักดีของลูกค้าได้ในระยะยาว ดังนั้นเมื่อเราอยู่ในยุคของ Digital Transformation แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถดำเนินการ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพพอๆ กับที่บริษัทขนาดใหญ่ทำด้วยความช่วยเหลือจากการตลาดดิจิทัลนั่นเอง
6. การตลาดดิจิทัล สามารถติดตามแคมเปญในอนาคตได้
สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า คุณบอกได้ไหมว่าวันนึงคุณเดินกี่ก้าว? มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมร้านค้าของคุณกี่คน? มีการซื้อกี่ครั้ง? และมีกี่คนที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ของคุณ? บางทีคุณอาจให้ข้อมูลบางอย่างได้ในเบื้องต้น แต่คุณจะไม่สามารถวัดได้ว่ากลยุทธ์การตลาดแบบใดที่ทำให้คุณมีผู้ชมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ บิลบอร์ด วิทยุ ฯลฯ นี่คือสิ่งที่คุณจะไม่มีวันรู้ แต่ด้วยการตลาดดิจิทัล คุณจะทราบได้ว่ากลยุทธ์และแคมเปญใดทำให้คุณได้รับ ROI สูงสุด และด้วยการใช้เครื่องมือ Analytics คุณก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ หากคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ คุณยังสามารถรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกค้าของคุณ เช่น ข้อมูลประชากร ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เวลาที่พวกเขาใช้บนเว็บไซต์ของคุณ เป็นต้น สิ่งนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากคุณมีงบประมาณที่จำกัด และการติดตามจะช่วยให้คุณใช้จ่ายเงินกับแคมเปญที่เหมาะกับคุณเท่านั้น และไม่ต้องใช้จ่ายเงินอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไปกับช่องทางที่อาจไม่ได้ผลลัพธ์ Google Analytics เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและฟรีที่สุดในการติดตามแคมเปญ หากอยากทำความเข้าใจ Google Analytics << คลิก
7. การตลาดดิจิทัล สามารถเข้าถึงความเป็น Local ได้ทั่วโลก
ข้อเสียเปรียบที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งของธุรกิจขนาดเล็กคือการถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะหรือการรับรู้ที่ถูกจำกัดจากระดับ Global แต่การตลาดดิจิทัลช่วยให้คุณทำลายแบบแผนและอุปสรรคทางภูมิศาสตร์เหล่านี้ได้อย่างงายดาย และช่วยให้คุณขยายธุรกิจของคุณและเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกได้มากกว่าที่คิด คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ทั้งหมดเพียงแค่นั่งอยู่ในห้องทำงานของคุณในอำเภอหรือตำบลเล็กๆ ของคุณ อย่างไรก็ตามคำว่าผู้ชมทั่วโลก ไม่ได้หมายถึงการเข้าถึงทุกคนในโลก แต่หมายถึงการมุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ แทนที่จะมุ่งเป้าไปที่ผู้ชมจำนวนมาก ดังนั้นด้วยความช่วยเหลือของการตลาดดิจิทัลคุณจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่สนใจธุรกิจของคุณได้ทั่วโลก
7 กลยุทธ์ การตลาดดิจิทัล สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
ด้วยโอกาสที่ไม่รู้จบ การตลาดดิจิทัลอาจดูน่ากลัวหากคุณไม่เคยเริ่มต้นใช้สำหรับธุรกิจมาก่อน มีหลากหลายแพลตฟอร์มและข้อกำหนดด้านการตลาดดิจิทัลที่อาจทำให้ดูเหมือนเป็นโครงการที่ใหญ่กว่าที่คุณเป็นอยู่ ธุรกิจขนาดเล็กอาจคิดว่าพวกเขาไม่มีเวลาหรืองบประมาณเพียงพอเพื่อแข่งขันทางออนไลน์ เป็นผลให้หลายคนชอบที่จะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างช้าๆ และยึดติดกับการโฆษณาแบบดั้งเดิมหนึ่งหรือสองรูปแบบโดยหวังลมๆ แล้งๆ ว่าธุรกิจของพวกเขาจะมีวิวัฒนาการเมื่อเวลาผ่านไป
ความจริงก็ คือ ตลาดทุกวันนี้มีการแข่งขันสูง แม้ว่าการบอกต่อและคำแนะนำจากลูกค้าจะช่วยเพิ่มการเข้าชมได้ แต่ในท้ายที่สุดแล้วลูกค้าจะพยายามหาธุรกิจของคุณให้เจอ 5 พันล้านคนทั่วโลกใช้อินเทอร์เน็ตด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนั้นการชะลอการสร้างสถานะและโอกาสเติบโตในออนไลน์จึงไม่ใช่แนวทางที่มีประสิทธิภาพ วิธีที่ดีที่สุดในการรับรองความสำเร็จ คือการส่งเสริมธุรกิจของคุณในระดับโลกและใช้กลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายเพื่อดึงดูดลูกค้าที่สนใจในบริการหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ ต่อไปนี้เป็น 7 กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจขนาดเล็กของคุณได้หากดำเนินการอย่างถูกวิธีครับ
1. การตลาดผ่านอีเมลส่วนบุคคล (Email Marketing)
ลูกค้าต้องการความสนใจส่วนตัวและการตลาดผ่านอีเมลมีโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ ในฐานะหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การตลาดผ่านอีเมลเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ต้องการสำหรับการได้มาซึ่งลูกค้าและการรักษาลูกค้าไว้ อีเมลส่วนบุคคลช่วยสร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้าของคุณได้เป็นอย่างดี โดยใช้เครื่องมือสำหรับการจัดการรายชื่ออีเมลสามารถใช้เพื่อรักษาลูกค้าเป้าหมายในขั้นตอนต่างๆ และทำให้เส้นทางการซื้อของพวกเขาสนุกสนานที่สุด อีเมลส่วนบุคคลทำให้แบรนด์ของคุณจริงใจต่อลูกค้ามากขึ้น การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณไปอีกขั้น คุณสามารถเสนอข้อเสนอและคูปองที่ปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้าประจำของคุณโดยอิงจากการซื้อและความชอบก่อนหน้านี้
2. การตลาดอัตโนมัติ (Marketing automation)
ระบบอัตโนมัติช่วยให้คุณปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจหลายอย่างของคุณ สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก จำเป็นต้องทำให้กระบวนการทางการตลาดของคุณเป็นแบบอัตโนมัติเพื่อประหยัดเวลาและช่วยให้พนักงานของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบอัตโนมัติเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ต้องมีสำหรับธุรกิจของคุณ หากคุณต้องการทำงานอย่างชาญฉลาดเพื่อการเติบโต ปัจจุบันมีเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติชั้นยอดมากมายพร้อมให้ใช้งานสำหรับการตลาดผ่านอีเมล การให้คะแนนและการดูแลลูกค้าเป้าหมาย การเผยแพร่เนื้อหาอย่างเป็นระบบ การจัดการโซเชียลมีเดีย การตลาดแบบบอกต่อ และอื่นๆ อีกมากมาย ระบบอัตโนมัติไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มอัตราการแปลงให้แก่ธุรกิจของคุณด้วย
3. บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ (Brand Story)
การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์เป็นหนึ่งในแนวทางของคอนเทนต์การตลาด มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการบอกเล่าเรื่องราวเพื่อทำการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ ซึ่งการตลาดเนื้อหา (Content Marketing) ยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ แทนที่จะบอกกลุ่มเป้าหมายว่าผลิตภัณฑ์ของคุณยอดเยี่ยมเพียงใด ให้ลงทุนกับการสร้างเนื้อหาที่กำหนดเอง อธิบายให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าทราบว่าผลิตภัณฑ์ของคุณช่วยแก้ปัญหาเฉพาะสำหรับลูกค้าของคุณได้อย่างไร ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Inbound Marketing หรือ การตลาดแรงดึงดูด ที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจทุกขนาด และหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของกลไกการค้นหาหรือ SEO ให้กับเนื้อหาของคุณ คุณสามารถไว้วางใจเครื่องมือชั้นนำต่างๆ อาทิ Ubersuggest หรือ Semrush เป็นต้น
4. การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing)
คุณคิดว่าการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์มีประโยชน์กับแบรนด์ที่ใหญ่กว่าเท่านั้นหรือไม่? ตอบได้ว่าไม่เสมอไปครับ การตลาดโดย Influencer สามารถเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และสร้างโอกาสในการขายที่มีคุณภาพ
อินฟลูเอนเซอร์ มีฐานแฟนๆ ที่ภักดีของตัวเองบนแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Facebook Instagram Youtube และ TikTok ที่โต้ตอบกับพวกเขาและมองหาคำแนะนำส่วนตัวจากพวกเขา อัตราการมีส่วนร่วมที่สูง ทำให้ Influencer Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ คุณสามารถเลือกและทำสัญญากับอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เพื่อให้พวกเขาทำงานในช่องทางออนไลน์ต่างๆของคุณเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจของคุณได้
5. Google My Business
การเพิ่มชื่อบริษัทหรือธุรกิจของคุณลงบน Google Map ด้วย Google My Business (GMB) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กทุกราย ในการเสริมสร้างสถานะออนไลน์ให้แข็งแกร่ง ทำไมมันถึงสำคัญมาก? เนื่องจากผู้คนเยี่ยมชมจุดหมายปลายทาง 1.5 พันล้านแห่งทุกเดือนโดยอิงจากการค้นหาใน Google ของพวกเขา และ 76% ของผู้ที่ค้นหาบางสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงมักเดินทางไปยังร้านค้าหรือบริษัทนั้นๆ ภายในหนึ่งวัน ดังนั้นเมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ากำลังมองหาคุณทางออนไลน์ คุณจำเป็นต้องทำงานเพื่อสร้างตัวตนออนไลน์ที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจของคุณ รายชื่อธุรกิจใน Google My Business จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีการมองเห็นที่กว้างขวางและสร้างความน่าเชื่อถือที่คุณต้องการ นี่คือเหตุผลที่ GMB ควรเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดอันดับต้น ๆ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ
6. การตลาดงานอีเวนต์ดิจิทัล (Digital event marketing)
ความนิยมของกิจกรรมดิจิทัลนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การสัมมนาผ่านเว็บ การประชุมออนไลน์ การสนทนาผ่านการไลฟ์ และพอดแคสต์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับแบรนด์ในการสร้างลีดที่มีคุณภาพทางออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้น กิจกรรมออนไลน์เหล่านี้ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์รวบรวมข้อมูลผู้ชมและทำการตลาดกับพวกเขาโดยตรง ในฐานะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก คุณสามารถเข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมออนไลน์เพื่อให้ผู้ชมของคุณคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของคุณการโต้ตอบกับผู้ชมของคุณผ่านแบบสำรวจและโพลจะช่วยให้คุณเข้าใจความชอบของพวกเขาและปรับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณให้เป็นไปตามนั้น
7. การตลาดแบบบอกต่อ (Referral marketing)
เป็นธรรมดาถ้าลูกค้าชื่นชอบในสินค้าและการบริการของเราแล้ว มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะพูดถึงสิ่งดี ๆ เกี่ยวกับแบรนด์ของเรา และเมื่อมีโอกาสก็จะทำการบอกต่อหรือแนะนำเพื่อนและคนรู้จักกับสินค้าหรือบริการของเรา การตลาดแบบบอกต่อหรือที่นิยมเรียกว่า การตลาดแบบ “Word of Mouth” เป็นวิธีการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กับลูกค้าใหม่ ผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักจะเป็นการบอกปากต่อปาก เป็นกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในการสนับสนุนลูกค้าที่กระตือรือร้นและผู้สนับสนุนแบรนด์ให้อ้างอิงเครือข่ายภายในของพวกเขากับธุรกิจของคุณโดยตรง ซึ่งการอ้างอิงดังกล่าวมักเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ธุรกิจสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่งนี้ผ่านกลยุทธ์ Digital Marketing ที่เหมาะสม เช่นกลยุทธ์ Affiliate marketing ซึ่งมีแนวคิดที่ว่า “ถ้าคุณคิดว่าสินค้าหรือบริการของเราดี เอาไปแนะนำเพื่อนต่อสิ นอกจากเพื่อนของคุณจะได้ประโยชน์แล้ว คุณยังได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากเราด้วย”
แหล่งที่มา :
