ส่อง การตลาดดิจิทัล ยุคใหม่ที่ Marketer ควรรีบโฟกัส เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ

การตลาดดิจิทัล

การตลาดดิจิทัล

เชื่อว่าไอเดียใหม่ๆ ด้านการตลาดเป็นสิ่งที่ Digital Marketer หลายคนพยายามคิดและสร้างสรรค์ออกมาให้แตกต่างและโดดเด่น ด้วยสภาพการแข่งขันของการตลาดยุคใหม่ที่ค่อนข้างจะดุเดือด ใครที่สามารถนำเสนอไอเดียใหม่ๆ หรือใช้เครื่องมือการตลาดใหม่ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ก็ย่อมกุมความได้เปรียบในการแข่งขัน เนื่องจากความสามารถในการตอบโจทย์ต่อแนวโน้มของการตลาดในอนาคตได้กลายเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญต่อความสำเร็จของแบรนด์และธุรกิจ ยิ่งผู้คนบริโภคเนื้อหาดิจิทัลเป็นประจำทุกวัน ในไม่ช้าแพลตฟอร์มการตลาดแบบเดิมๆ จะหายไปและการตลาดดิจิทัลจะเข้ามาครอบงำโดยสมบูรณ์ วันนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบของ Digital  Marketing สมัยใหม่บางอย่างที่คาดว่าจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อความสำเร็จของทุกธุรกิจทั้งในปีนี้และปีต่อๆไปครับ

ทำความเข้าใจหลักการ 5Ds

หลักการ 5Ds ของ Digital Marketing

 ทำความเข้าใจ หลักการ 5Ds ของ การตลาดดิจิทัล

ก่อนจะไปดูถึงเทรนด์การตลาดสมัยใหม่ที่นักการตลาดควรรู้ เรามาทำความเข้าใจแก่นของการตลาดดิจิทัลกันก่อนครับ ว่ามีแนวคิดรากฐานอย่างไร แน่นอนว่าการตลาดดิจิทัลในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ สื่อดิจิทัล ข้อมูล และเทคโนโลยีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด อย่างที่เราจะเห็นได้ว่า ผู้ซื้อที่มีศักยภาพนั้นมีการใช้โซเชียลมีเดียและเครื่องมือค้นหามากขึ้นในการค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการ ปัจจุบัน การตลาดดิจิทัลให้ความสำคัญกับการโต้ตอบของผู้ชมมากกว่าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ลูกค้าต้องใช้เวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจสินค้าและบริการของบริษัท ดังนั้น 5Ds  จึงมีความสำคัญในการจัดการปฏิสัมพันธ์ทางการตลาดดิจิทัลกับลูกค้า โดยแนวคิด 5Ds นี้ ดัดแปลงมาจากหนังสือ “Digital Marketing” โดย Dave Chaffey และ Fiona Ellis-Chadwick

ซึ่ง 5Ds ของการตลาดดิจิทัลสมัยใหม่ ในที่นี้ ได้แก่ Digital Device (อุปกรณ์ดิจิทัล) Digital Platforms (แพลตฟอร์มดิจิทัล) Digital Media (สื่อดิจิทัล) ข้อมูลดิจิทัล (Digital Data)  และเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) เพื่อสร้างและดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้ง 5 ปัจจัย คือสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพระหว่างองค์กรและกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ครับ
 

1. อุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Device)

ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ อุปกรณ์เล่นเกม ความเป็นจริงเสมือน และอุปกรณ์ช่วยด้านภาพในการสื่อสารกับธุรกิจ บริษัทต่างๆ ในปัจจุบันใช้อุปกรณ์ IoT (Internet of Things) เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการออนไลน์ พวกเขาอาจใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อสื่อสารกับธุรกิจทั่วโลก ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีอิทธิพลสำคัญในการพัฒนาการมีส่วนร่วมระหว่างธุรกิจกับลูกค้า

เมื่อพูดถึง อุปกรณ์ดิจิทัล มันคือสิ่งที่ช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย  เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น นักการตลาดอาจมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมด้วยวิธีการต่างๆ ที่หลากหลาย  ซึ่งประเภทของอุปกรณ์ดิจิทัลที่ใช้ในการตลาดดิจิทัล ได้แก่ สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต นาฬิกาอัจฉริยะ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป คอนโซลเกม สมาร์ททีวี ชุดหูฟังความเป็นจริงเสมือน และอุปกรณ์สมาร์ทโฮม เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย นักการตลาดวางกลยุทธ์แคมเปญและเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ มอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น ด้วยการทำความเข้าใจอุปกรณ์ดิจิทัลประเภทต่างๆ นักการตลาดจึงปรับแต่งการทำการตลาดให้ตรงตามความต้องการและความชอบของกลุ่มเป้าหมาย
 
หากจะกล่าวไปแล้ว อุปกรณ์ดิจิทัลนั้นค่อนข้างมีผลกระทบอย่างมากต่อการตลาดดิจิทัล โดยเปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักการตลาดเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้นผ่านเว็บไซต์และแอปบนมือถือที่ได้รับการปรับปรุง การเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากนี้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ และตอบคำถามและข้อเสนอแนะได้ทันที
 
นอกจากนี้ อุปกรณ์ดิจิทัลยังให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับแต่งข้อความและข้อเสนอทางการตลาดของตนเองได้ ด้วยการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ประเภทต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ททีวี นักการตลาดจะสร้างประสบการณ์ Omnichannel ที่ราบรื่นให้กับผู้ชมของตน
 
นอกจากนี้ อุปกรณ์เหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและวิเคราะห์การเดินทางของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นักการตลาดสามารถติดตามการโต้ตอบของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของตนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ผลกระทบของอุปกรณ์ดิจิทัลต่อกลยุทธ์การตลาดเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าในปี 2021 การเข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก 54% มาจากอุปกรณ์มือถือ
 
ซึ่งโดยรวมแล้ว อุปกรณ์ดิจิทัลได้ปฏิวัติการตลาดดิจิทัลด้วยการขยายขอบเขตการเข้าถึง ทำให้สามารถโต้ตอบแบบเรียลไทม์ อำนวยความสะดวกในการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคล รองรับการตลาดแบบหลายช่องทาง และมอบความสามารถในการติดตามและการวิเคราะห์ที่ได้รับการปรับปรุง
 

2. แพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platforms)

สำหรับการตลาดสมัยใหม่ เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มดิจิทัล สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ โซเชียลมีเดีย เสิร์ชเอนจิน และ เว็บไซต์ ทุกวันนี้บริษัทต่างๆ สื่อสารกับลูกค้าโดยใช้แอปพลิเคชันและเบราว์เซอร์จากแพลตฟอร์มหลักๆ อาทิ Google, Facebook, Instagram ,YouTube, Twitter  หรือ LinkedIn และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ  แพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้สำหรับการโฆษณาและการสื่อสารกับลูกค้า บริษัทต่างๆ ใช้สื่อดิจิทัลเพื่อเข้าถึงลูกค้าเมื่อพวกเขาต้องการขายบริการหรือผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น หากบริษัทขายรองเท้า พวกเขาจะโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตนผ่านโฆษณาบนการค้นหาของ Google 

ในบรรดาแพลตฟอร์มดิจิทัล โซเชียลมีเดียถือเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นเสมือนตัวเอก เนื่องจากมีผู้ใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มีรายงานว่าโซเชียลมีเดียมีผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้น 950,000 รายทุกวัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่านักการตลาดสมัยใหม่สามารถเข้าถึงตัวเลือกกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลได้มากขึ้น ซึ่งอาจเลือกใช้ประโยชน์สูงสุดจากสื่อดิจิทัลที่หลากหลายได้ตามต้องการ  ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงผู้ชมของแบรนด์ต่างๆ คือการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แม้ว่าจะมีไซต์เบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันจำนวนมากสำหรับจุดประสงค์ดังกล่าว แต่การใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันยอดนิยมย่อมช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้คนจำนวนมากขึ้น ตัวอย่างได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และอื่นๆ เนื่องจากผู้ใช้ดิจิทัลส่วนใหญ่มีบัญชีอย่างน้อยหนึ่งบัญชีบนแพลตฟอร์มเหล่านี้

3. สื่อดิจิทัล (Digital Media)

สื่อดิจิทัล ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในหลักของการตลาดดิจิทัล 5Ds ซึ่งสื่อดิจิทัลในที่นี้ สามารถหมายถึง โฆษณา อีเมล ข้อความ เสิร์ชเอนจิน และโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งหมดล้วนถูกใช้โดยธุรกิจ ทั้งนี้ก็เพื่อการเข้าถึงและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย นี่เป็นแนวคิดพื้นฐานของการตลาดดิจิทัลในการเข้าถึงลูกค้า บริษัทและแบรนด์ต่างๆ จะต้องเลือกช่องทางที่เหมาะสมของตัวเองในการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต และจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง หากธุรกิจเลือกสื่อที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมก็อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินและเสียเวลาได้  ต่อไปนี้เป็นสื่อดิจิทัลบางประเภท ที่นักการตลาดควรพิจารณา

  • โซเชียลมีเดีย : แพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Instagram และ Twitter ช่วยให้ธุรกิจสามารถแบ่งปันเนื้อหา โต้ตอบกับลูกค้า และเรียกใช้แคมเปญโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย
  • บล็อกและบทความ : การสร้างบล็อกโพสต์ที่ให้ข้อมูลและโต้ตอบได้จะสร้างความเป็นผู้นำทางความคิดและกระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์
  • วิดีโอ : เนื้อหาภาพ เช่น การสาธิตผลิตภัณฑ์หรือบทช่วยสอน ดึงดูดผู้ชมและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
  • อินโฟกราฟิก : อินโฟกราฟิกที่ดึงดูดสายตาและย่อยง่ายเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว
  • พอดแคสต์ : พอดแคสต์เป็นแพลตฟอร์มเสียงเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม บทสัมภาษณ์ และการเล่าเรื่อง

4. ข้อมูลดิจิทัล (Digital Data)

Digital Data มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด เมื่อธุรกิจต่างๆ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค พวกเขาจะรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้บริษัทพัฒนาหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับโปรไฟล์ลูกค้าและรูปแบบการมีส่วนร่วมกับธุรกิจ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภค ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจของพวกเขา และดูแลการตัดสินใจซื้อเพื่อโปรโมต ข้อมูลนี้ใช้สำหรับการขายต่อ การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ และเพิ่มอัตราการซื้อของลูกค้า การวิเคราะห์นี้ยังช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่และกรณีการใช้งานอีกด้วย

ต่อไปนี้เป็นวิธีการบางอย่างในการรวบรวมข้อมูลแบบดิจิทัล
 
  • แบบฟอร์มการติดต่อเว็บไซต์ (Website contact form)
  • จุดขาย (POS)
  • การแข่งขัน (Contests)
  • แบบสำรวจ (Surveys)
  • การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม (Event sign-ups)
  • การติดตั้งแอปพลิเคชัน (App Installation)

การรวบรวมข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจได้จัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ด้วยฐานข้อมูลนี้ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายใหม่และทำการตลาดในอนาคตได้

5. เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology)

สิ่งเหล่านี้คือเครื่องมือ ระบบ อุปกรณ์ และทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยในการสร้าง จัดเก็บ หรือประมวลผลข้อมูล ตัวอย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) ความเป็นจริงเสมือน (Augmented reality) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบบนแพลตฟอร์มต่างๆ ตั้งแต่เว็บไซต์และแอปมือถือของคุณไปจนถึงคีออสก์ในร้านค้า ซึ่งผสมผสานพลังความสามารถของมนุษย์เข้ากับปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้ธุรกิจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดต่อไปได้เสมอ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักการตลาดจึงควรติดตามเทรนด์ของเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ เนื่องจากผู้ที่สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้บุกเบิกอย่างไม่ต้องสงสัยครับ

วิวัฒนาการของการตลาดดิจิทัล

วิวัฒนาการของการตลาดดิจิทัล

วิวัฒนาการของ การตลาดดิจิทัล

ก่อนจะไปติดตามความเคลื่อนไหวของการตลาดดิจิทัลสมัยใหม่ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน เรามาดูถึงความเป็นมาของมันกันสักหน่อยครับ คำว่า Digital Marketing นั้นมีที่มาอย่างไร ความจริงแล้วคำนี้ถูกใช้ครั้งแรกในปี 1990 เริ่มต้นด้วยการมาถึงของอินเทอร์เน็ตและการพัฒนาแพลตฟอร์ม Web 1.0 อนุญาตให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการ แต่ไม่อนุญาตให้แบ่งปันข้อมูลนี้ผ่านทางเว็บ

การตลาดดิจิทัลก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1990 ตั้งแต่โฆษณาแบนเนอร์พื้นฐานบนเว็บไซต์แบบคงที่ไปจนถึงแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่สามารถปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล (Personalized Marketing) ได้อย่างในปัจจุบัน วิธีที่เราเข้าถึงและดึงดูดลูกค้าได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงข้ามผ่านเวลาที่ยาวนาน ซึ่งในส่วนนี้มาร่วมย้อนความทรงจำและสำรวจขั้นตอนสำคัญของวิวัฒนาการนี้กันสักหน่อยนะครับ
 

1. ยุคบุกเบิกของการตลาดดิจิทัล (ปี 1990)

  • อินเตอร์เน็ตได้แพร่หลาย และปูทางไปสู่ช่องทางการตลาดใหม่ๆ
  • การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) เริ่มหยั่งรากลึกในยุคนี้ โดยมีช่องทางการสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า
  • เครื่องมือค้นหาในยุคแรก เช่น AltaVista และ Yahoo! ได้ถือกำเนิดขึ้น ทำให้เกิดการใช้กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา SEO
  • โฆษณาแบนเนอร์ ได้กลายเป็นรูปแบบแรกของการโฆษณาออนไลน์ โดยมีแบนเนอร์แบบคลิกได้เป็นครั้งแรกเปิดตัวในปี 1994 ได้แก่ แบนเนอร์ของ AT&T บน HotWired

2. การถือกำเนิดของ Web2.0  (ปี 2000)

  • Web 2.0 ซึ่งเป็นเว็บไซต์แบบไดนามิกที่พัฒนามาจาก Web1.0 ได้ถือกำเนิดขึ้น ตลอดจนเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง (UGC) ที่ซึ่งส่งเสริมการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียในเวลาต่อมา
  • แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยุคแรกๆ อย่าง My Space และ Facebook ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในยุคนี้ โดยสร้างช่องทางใหม่สำหรับการมีส่วนร่วมกับแบรนด์
  • การโฆษณาบนการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยแพลตฟอร์มเช่น Google AdWords เริ่มได้รับความสนใจ โดยเสนอการเข้าถึงที่ตรงเป้าหมายไปยังผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า
  • การตลาดผ่านเนื้อหา หรือ Content Marketing ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการตลาดสมัยใหม่ โดยเน้นข้อมูลอันมีคุณค่าและการเล่าเรื่องเพื่อดึงดูดและรักษาผู้ชมไว้

3. ยุคเฟื่องฟูของสมาร์ทโฟน  (ปี 2010)

  • สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แพร่หลาย ทำให้นักการตลาดจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้การตลาดที่ถูกปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Responsive)
  • การตลาดตามตำแหน่ง โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GPS เพื่อมอบประสบการณ์ส่วนบุคคลตามตำแหน่งของผู้ใช้
  • การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถกำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากรและความสนใจเฉพาะได้
  • เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติยุคแรกๆ ได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งช่วยปรับปรุงงานและปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดในยุคนี้

4. ยุคแห่ง Data และ AI (ปี 2020 เป็นต้นมา)

  • การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ทำการตลาดแบบเจาะจงเฉพาะบุคคลได้
  • ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขับเคลื่อนแชทบอท ระบบสั่งงานด้วยเสียง และแคมเปญโฆษณาแบบไดนามิกเพื่อประสบการณ์เชิงโต้ตอบที่มากขึ้น
  • ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้นักการตลาดนำแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลที่มีจริยธรรมมาใช้ และสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภค
  • เทคโนโลยีที่เกิดใหม่ เช่น ความเป็นจริงเสมือน (AR) และความเป็นจริงเสริม (VR) ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่ดื่มด่ำ
จะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการของการตลาดดิจิทัลนั้นเป็นกระบวนการที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขับเคลื่อนโดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเราก้าวไปข้างหน้า นักการตลาดจะต้องเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ จัดลำดับความสำคัญในการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้ชมเพื่อก้าวนำหน้าคู่แข่งในตลาด
 
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงภาพรวมโดยย่อเกี่ยวกับการเดินทางอันน่าทึ่งของการตลาดดิจิทัล ซึ่งแต่ละขั้นตอนมีความท้าทายและนวัตกรรมเฉพาะตัว ซึ่งเป็นตัวกำหนดวิธีที่เราโต้ตอบกับแบรนด์ในปัจจุบัน ในขณะที่เรายังคงสำรวจภูมิทัศน์ดิจิทัลที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็ คือ อนาคตของการตลาดดิจิทัลนั้นจะน่าตื่นเต้น และเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้นในแบบที่เรายังไม่อาจคาดเดาได้อย่างแน่นอนครับ

ความสำคัญของ การตลาดดิจิทัล ในปัจจุบัน

ความสำคัญของการตลาดดิจิทัลในปัจจุบัน
ในโลกปัจจุบัน การตลาดดิจิทัลได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจ เนื่องจากผู้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจที่ไม่มีตัวตนในโลกออนไลน์จึงเสี่ยงที่จะตามหลังคู่แข่ง ในส่วนนี้ เราจะพูดถึงความสำคัญของการตลาดดิจิทัล และเหตุผลที่ทำให้มันจำเป็นสำหรับธุรกิจทุกขนาดครับ
 

1. เพิ่มการเข้าถึงและการมองเห็น

ข้อดีที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของการตลาดดิจิทัล คือ ความสามารถในการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก ด้วยผู้คนนับพันล้านที่ใช้อินเทอร์เน็ตทุกวัน ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ช่องทางดิจิทัลต่างๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโ,ยีสมัยใหม่เพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากรเฉพาะ และมีส่วนร่วมกับพวกเขาในแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น การเข้าถึงและการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถนำไปสู่โอกาสในการขาย การขาย และการจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น
 

2. คุ้มค่า

การตลาดดิจิทัลเป็นวิธีที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจในการโปรโมตผลิตภัณฑ์และบริการของตน เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการตลาดแบบดั้งเดิม เช่น การโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์และโฆษณาทางโทรทัศน์ ช่องทางการตลาดดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย การตลาดผ่านอีเมล และการตลาดเนื้อหามีราคาไม่แพงนัก ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดก็สามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้
 

3. ผลลัพธ์ที่วัดได้

การตลาดดิจิทัลช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและวัดผลลัพธ์ได้ ด้วยการใช้การวิเคราะห์และเครื่องมืออื่นๆ ธุรกิจสามารถรวบรวมข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับผู้ชมของตน เช่น ข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมทางออนไลน์ ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดและปรับปรุง ROI ได้
 

4. การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้น

ช่องทางการตลาดดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย และการตลาดเนื้อหา ช่วยให้ธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมกับผู้ชมในแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่โดนใจผู้ชม ธุรกิจสามารถสร้างความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือกับลูกค้าได้ ซึ่งนำไปสู่ความภักดี (Brand Loyalty) ที่เพิ่มขึ้นและการกลับมาซื้อซ้ำและใช้ซ้ำ
 

5. ความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ในภาพรวมธุรกิจที่มีการแข่งขันในปัจจุบัน การตลาดดิจิทัลสามารถช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ การใช้ช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้ชม ธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสร้างแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากขึ้น
 
โดยสรุป การตลาดดิจิทัลได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจ ด้วยความสามารถในการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก มีส่วนร่วมกับลูกค้าในแบบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ตลอดจนติดตามและวัดผล ธุรกิจที่ลงทุนในการตลาดดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลในปัจจุบันมากขึ้น เรามาพูดคุยกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความสำคัญของการตลาดดิจิทัล และธุรกิจต่างๆ จะใช้การตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่ม ROI ได้อย่างไร

การตลาดดิจิทัลยุคใหม่ที่นักการตลาดควรรู้

การตลาดดิจิทัลยุคใหม่ที่นักการตลาดควรรู้

การตลาดดิจิทัล ยุคใหม่ ที่นักการตลาดควรรู้

สภาพแวดล้อมของการตลาดสมัยใหม่กำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ และอื่นๆ แน่นอนว่าการก้าวตามให้ทันแนวโน้มและความก้าวหน้าของสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ การทำความเข้าใจการพัฒนาการของการตลาดล่าสุดช่วยให้นักการตลาดกำหนดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจและเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ ซึ่งจำเป็นในการรักษาความเกี่ยวข้องและแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบัน ในส่วนนี้เราจะมาสำรวจแนวโน้มทางการตลาดดิจิทัลบางอย่างที่คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในปี 2024 และนำเสนอกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับธุรกิจต่างๆ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไปครับ
 

1. ระบบอัตโนมัติทางการตลาด AI (Marketing Automation)

การบูรณาการ AI เข้ากับการตลาดจะเปลี่ยนวิธีที่บริษัทต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูล ปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ตัวอย่างเช่น แชทบอทและแอปพลิเคชันรับส่งข้อความที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังปฏิวัติการโต้ตอบกับลูกค้าด้วยการมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและโซลูชั่นแบบทันที ซึ่งช่วยสร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้าที่แท้จริงมากขึ้น
 
ในปี 2024 เครื่องมือทางการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น แชทบอท การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียง และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์จะแพร่หลายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้นำธุรกิจต้องหลีกเลี่ยงการพึ่งพากลยุทธ์อัตโนมัติแบบ “ตั้งค่าแล้วลืม” เพียงอย่างเดียว และหันมาบังคับใช้แนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ให้มากยิ่งขึ้น
 

2. ความเป็นจริงเสริม (AR) และความเป็นจริงเสมือน (VR)

เทคโนโลยีที่สมจริง เช่น AR และ VR สามารถช่วยสร้างการเล่าเรื่องแบรนด์ (Brand Storytelling) ที่สมจริงและช่องทางการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ในปี 2024 เทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกบูรณาการเข้ากับความพยายามทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่สำคัญ เจ้าของธุรกิจ E-Commerce ต่างๆ สามารถปรับปรุงมูลค่าแบรนด์ และประสบการณ์ของลูกค้าได้ เช่น โดยการเสนอประสบการณ์การทดลองสินค้าแบบเสมือนจริง เป็นต้น
 

3. การตลาดเฉพาะบุคคลขั้นสูง (Hyper-Personalization)

ด้วยความก้าวหน้าใน AI และ การเรียนรู้ของเครื่อง ทีมขายและการตลาดสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าจำนวนมากเพื่อดูแลจัดการและปรับแต่งเนื้อหา คำแนะนำผลิตภัณฑ์ และข้อเสนอต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ลองนึกภาพลูกค้าชื่อ Patty กำลังดูร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ กลไก AI ของเว็บไซต์วิเคราะห์การซื้อในอดีต ประวัติการเข้าชม และรูปแบบการมีส่วนร่วมของเธอในขณะที่เธอสำรวจชุดต่างๆ จากข้อมูลนี้ แพลตฟอร์มจะแนะนำชุดเดรสที่เหมาะกับสไตล์ ขนาด และสีของเธอให้กับ Patty พร้อมทั้งคำแนะนำเฉพาะตัวสำหรับอุปกรณ์เสริมเสริมและประสบการณ์ส่วนตัวในทุกช่องทางติดต่อ ตั้งแต่อีเมลและคำแนะนำเว็บไซต์ไปจนถึงข้อเสนอในร้านค้า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจจะต้องดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบเมื่อจัดการข้อมูลลูกค้า คุณต้องมีความโปร่งใสโดยอธิบายอย่างชัดเจนว่าธุรกิจของคุณรวบรวมและใช้ข้อมูลนี้อย่างไร และได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้ง
 

4. การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing)

ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการมากกว่าการรับรอง พวกเขาต้องการความสัมพันธ์ที่จริงใจและจริงใจกับผู้มีอิทธิพล การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะผลักดันการเติบโตของ Micro-Influencer ซึ่งเป็นบุคคลที่มีผู้ติดตามน้อยแต่มีส่วนร่วมสูง ด้วยเหตุนี้ ให้พิจารณาทำงานร่วมกับผู้มีอิทธิพลที่มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากกว่า และผู้ที่ตระหนักถึงคุณค่าของความถูกต้อง
 

5. การตลาดวิดีโอ (Video Marketing)

วิดีโอแบบสั้น สตรีมมิงแบบสด และเนื้อหาเชิงโต้ตอบมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการตลาดผ่านวิดีโอ บริษัทที่ใช้เทรนด์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิผลจะมีความได้เปรียบทางการแข่งขันและจะสามารถสื่อสารข้อความของแบรนด์ได้อย่างมีส่วนร่วมและมีชีวิตชีวา ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์การตลาดของเราประกอบด้วยวิดีโอสั้น บทช่วยสอนแบบโต้ตอบ และช่วงถามตอบแบบสดเพื่อเชื่อมต่อกับผู้เรียน และขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่แม่นยำ
 

6. การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียง (VSO)

ตามตัวเลขล่าสุด มีผู้ใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียงถึงประมาณ 200 ล้านคน ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว การทำความเข้าใจและผสมผสานเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียงจะช่วยให้ค้นพบเนื้อหาของคุณได้มากขึ้นและมีอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาด้วยเสียง ตัวอย่างเช่น พิจารณาใช้คำถามเชิงสนทนาที่มีรูปแบบยาวมากขึ้นเมื่อนึกถึงคำค้นหา และคำหลัก (Keyword)
 

7. เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC)

UGC เป็นกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ที่ทรงพลังซึ่งให้หลักฐานทางสังคมและการมีส่วนร่วม แบรนด์ต่างๆ สามารถสนับสนุนการสร้าง UGC ได้ด้วยการเปิดตัวการแข่งขันและความท้าทายที่น่าสนใจด้วยแฮชแท็ก ธีม หรือรูปแบบเฉพาะ เพื่อมอบรางวัลให้กับผลงานที่ดีที่สุด การเป็นพันธมิตรกับผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องยังสามารถขยายการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมได้ UGC สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์และความภักดีของลูกค้าโดยให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการสร้างเนื้อหา แนวทางนี้สามารถกำหนดรูปแบบการเล่าเรื่องเกี่ยวกับแบรนด์และส่งเสริมความรู้สึกของชุมชนในหมู่ผู้บริโภค
 

8. โซเชียล คอมเมิร์ซ (Social Commerce)

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกำลังกลายเป็นระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภูมิทัศน์การชอปปิ้งดิจิทัล ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คาดหวังว่าแพลตฟอร์มหลักๆ เช่น Facebook, Instagram และ TikTok จะเป็นผู้นำในการบูรณาการฟีเจอร์การช้อปปิ้งที่โดดเด่นเข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้ของพวกเขา ซึ่งรวมถึงเส้นทางการช้อปปิ้งที่มีประสิทธิภาพ การค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุง ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ และการพิสูจน์ทางสังคมเพื่อขับเคลื่อนการซื้อในอนาคต ด้วยการตอบรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากภูมิทัศน์การค้าดิจิทัลที่กำลังพัฒนาเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้ชมและแปลงการมีส่วนร่วมนั้นให้เป็นการขายโดยตรง
 

9. ความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูล (Privacy and Data Protection)

เนื่องจากความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอยู่ภายใต้การตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับความไว้วางใจของผู้บริโภคและการปกป้องข้อมูล ภายในปี 2024 บริษัทที่นำแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เข้มงวดและนโยบายข้อมูลที่โปร่งใสมาใช้จะได้รับความได้เปรียบทางการแข่งขัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ธุรกิจจะต้องใช้วิธีการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัย ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจน และปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรักษาความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้า
 
ในขณะที่ผู้บริโภคระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีจัดการข้อมูลของตน ธุรกิจที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่เพียงแต่นำทางความซับซ้อนของความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างชื่อเสียงของพวกเขาในฐานะผู้ดูแลข้อมูลลูกค้าที่น่าเชื่อถืออีกด้วย
 

10. ความยั่งยืนและการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยวัตถุประสงค์ (Sustainability And Purpose-Driven Marketing)

เนื่องจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ผู้บริโภคจึงมองหาแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับค่านิยมของตนเองมากขึ้น เพื่อให้บรรลุความสำเร็จในปัจจัยนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ธุรกิจจะต้องนำกลยุทธ์ทางการตลาดที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนตามวัตถุประสงค์มาใช้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งการแสดงความคิดริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่แบรนด์ต่างๆ จะต้องบูรณาการแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน สนับสนุนกิจกรรมทางสังคม และตรวจสอบวัตถุประสงค์ของตนอย่างแท้จริง ในยุคปัจจุบันของลัทธิบริโภคนิยมอย่างมีสติของเหล่าผู้บริโภคยุคใหม่ แบรนด์ที่รวบรวมและสื่อสารถึงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง จะสามารถดึงดูดและรักษาฐานลูกค้าที่ภักดีและใส่ใจต่อสังคมได้ โดยรวมแล้ว บริษัทที่ปรับตัวตามแนวโน้มเหล่านี้จะตอบสนองความคาดหวังของผู้ชมและวางตำแหน่งตัวเองเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนในโลกการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ดีกว่า
 
 

สรุป

 
การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาด ถือ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล การระบุกลุ่มเป้าหมายและช่องทางดิจิทัลที่ต้องการเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการวิจัยและการเลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เหมาะสม คุณจะเข้าถึงผู้ชมของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีส่วนร่วมซึ่งสอดคล้องกับแบรนด์ของคุณและโดนใจกลุ่มเป้าหมายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
 
การใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อติดตามและวัดประสิทธิภาพของการตลาดดิจิทัลของคุณเป็นสิ่งจำเป็น การปรับและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิ่งสำคัญโดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการวิเคราะห์ข้อมูล การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น ปรับแต่งเนื้อหา และติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างแม่นยำ
 
ท้ายที่สุดแล้ว การบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกลยุทธ์การตลาดช่วยให้ธุรกิจก้าวนำหน้าการแข่งขันในตลาดสมัยใหม่ การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
 
 

แหล่งที่มา : 

https://www.forbes.com

https://www.simplilearn.com

https://www.tutorialspoint.com

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *